‘เจนเนอราลี่ ประกันชีวิตฝั่งตัวแทนขานรับนโยบาย Lifetime Partner 24 บริษัทแม่ มั่นใจยอด ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้ามุ่งสู่การเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดในประเทศไทย  

0
1270

   เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต เดินหน้าเต็มสูบช่องทางตัวแทน ด้วยกลยุทธ์ “Phygital Agent” ลูกค้าต้องได้รับการดูแลจากตัวแทนแบบ 24/7 ใช้เครื่องมือดิจิทัลเสริม เผยภาพรวมช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนปี 2564 เป็นที่น่าพอใจ มีเบี้ยรับประกันปีแรก (FYP) โตตามเป้าสูงกว่าปีที่ผ่านมากว่า 20% หลังเดินหน้า ผลักดันแนวคิด “New Generation, New Generali” เพื่อสนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยี การดำเนินงาน และการบริการ ให้ทันสมัยอยู่เสมอเตรียมพร้อมในอีก 3 ปีข้างหน้า ปลูกฝังการเป็น ‘Lifetime Partner 24’ ตั้งเป้าเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย 

    นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมของช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนของเจนเนอราลี่ในปี 2564 เป็นที่น่าพอใจ เห็นได้จากอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีที่ก่อนหน้า ซึ่งช่องทางตัวแทนเองนั้นมีการขยายตัวหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตัวแทน จำนวนตัวแทนที่มีคุณภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบันก็ดี โดยล่าสุดเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ได้รับนโยบาย Lifetime Partner 24 : Driving Growth คือการเป็นเพื่อนผู้เคียงข้างลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิตจากบริษัทแม่ เป็นแนวทางในการทำงานของตัวแทน ด้วยกลยุทธ์ “Phygital Agent” ลูกค้าได้รับการดูแลจากตัวแทนตลอดอายุสัญญา และต้องสะดวกยิ่งขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีและเครื่องมือด้านดิจิทัล มาดูแลลูกค้าแบบ 24/7 เพราะช่องทางตัวแทนคือหัวใจสำคัญของธุรกิจประกันชีวิต กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่จึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างกลยุทธ์และเครื่องมือต่างๆ ที่จะส่งเสริมให้ตัวแทนสัมฤทธิผลในการดูแลลูกค้าตามเป้าหมายการเป็น Lifetime Partner 24

    ด้านนายชวลิต ทองรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน (Chief Agency Officer) บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมานี้ เบี้ยรับประกันปีแรก (FYP) มีมูลค่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือสูงกว่าปีก่อนกว่า 20% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของการเติบโตในวงการอุตสาหกรรมประกันชีวิต อันเป็นผลมาจากการผลักดันแนวคิด “New Generation, New Generali”  ควบคู่ไปกับการพัฒนาใน 3 ด้าน ได้แก่ “ตัวแทนจำหน่าย” โดยเรามีการเสริมทัพและปรับแนวทางเพื่อตอบสนองลูกค้าในวิถีปัจจุบัน ส่งเสริมศักยภาพตัวแทนด้านดิจิทัลในขณะเดียวกันก็เดินทางขยายสำนักงานตัวแทน พัฒนาตัวแทนให้มีความเชี่ยวชาญเพื่อนำเสนอแผนประกันที่ตรงกับความต้องการขอลูกค้ามากที่สุดใน ปลูกฝังให้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านเพื่อการบริการและแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันชีวิต (Insurance Specialist) นักออกแบบสินทรัพย์ (Asset Designer) และที่ปรึกษาความมั่งคั่ง (Wealth Advisor) โดยเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ยังมีระบบการเรียนการสอนและพัฒนาตัวแทนจำหน่ายประกันชีวิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งการการันตีการสอบผ่านกว่า 85% จึงทำให้ในปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมทีมตัวแทนจำหน่ายกว่า 1,000 คน  ต่อมาคือ “ผลิตภัณฑ์” ที่เราออกแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แท้จริง และยังสามารถรองรับกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมที่ปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา (Solutions Products for Lifetime Partners) ซึ่งผลิตภัณฑ์จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการวางแผนการสร้างกระแสเงินสดรับตลอดชีวิต (Lifetime Cash flow) การปกป้องสินทรัพย์และส่งต่อมรดกสู่ทายาท (Wealth Protection & Transfer) การสร้างกองทุนเพื่อสุขภาพและบำนาญ (Medical & Retirement Funds) และสุดท้าย “สำนักงานตัวแทน” (Generali Agency Office) โดยในปี 2564 ที่ผ่านมานี้ทางเจนเนอราลี่ได้ขยายสำนักงานตัวแทนกว่า 13 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อให้ทันต่อการบริการลูกค้าและมอบบริการประกันชีวิตครบจบที่เดียว อีกทั้งยังเพื่อสร้างโอกาสให้คนในชุมชนมาร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันชีวิต สร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคง ซึ่งในปี 2565 ตั้งเป้าจะเปิดให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคให้เข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการกลยุทธ์ Phygital Agent ที่คอยบริการลูกค้าที่เดินเข้ามาที่สำนักงานหรือแม้นกระทั่งผ่านทาง Online Application”

นายชวลิต กล่าวต่อว่า “ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เจนเนอราลี่ตั้งเป้าจะเป็นผู้นำด้านการบริการผ่านช่องทางตัวแทนที่ลูกค้าไว้วางใจและดีที่สุดในประเทศไทย ด้วยการพัฒนาตัวแทนรุ่นใหม่ให้เป็นตัวแทน มีศักยภาพ มีความรู้ และสามารถนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Phygital Agency Force) มาปรับใช้ในการให้บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและครบวงจรทั้งแบบ Face-to-Face และแบบดิจิทัลออนไลน์ บนพื้นฐาน ‘Lifetime Partner 24’ เพื่อการดูแลลูกค้าในทุกช่วงเวลาของชีวิตอย่างแท้จริง”