เคทีซีชี้หากสภาวะเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง มั่นใจทุกธุรกิจหลักสามารถขยายตัวบรรลุเป้าตามคาดการณ์ เผยงบการเงินเฉพาะกิจการไตรมาส 1/2565 กำไรสุทธิ 1,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากงวดเดียวกันของปี 2564 ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมเพิ่มขึ้นทะลุ 90,208 ล้านบาท เน้นกำกับคุณภาพพอร์ตควบคู่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้สมาชิกทุกภาคส่วน
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ รวมถึงนโยบายการเปิดประเทศและมาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ตลอดจนนโยบายส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ได้ทำให้เกิดการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ส่งให้การ ใช้จ่ายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และแน่นอนได้สะท้อนผลมาสู่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเคทีซีในไตรมาสแรกของปี 2565 ให้ขยายตัวขึ้น 7.9% ด้วยมูลค่า 52,247 ล้านบาท อีกทั้งพอร์ตลูกหนี้ยังเติบโต และรักษาคุณภาพพอร์ตที่ดี ทำให้การตัดหนี้สูญน้อยลง ด้วยนโยบายการบริหารที่เน้นการรักษาคุณภาพของพอร์ตอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในอัตราต่ำอย่างต่อเนื่อง และพร้อมรับมือกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในกรอบความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อัตราการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ของเคทีซีได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงรักษาระดับเช่นนี้และดีขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าเคทีซีจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ตามที่วางไว้”
“ผลการดำเนินงานของเคทีซีช่วงไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 เคทีซีมีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวม 1,752 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7.3%) และ 1,747 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6.9%) ตามลำดับ ฐานสมาชิกรวม 3,263,842 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 90,208 ล้านบาท จากการเข้าซื้อกิจการในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) 3.6% (เท่ากับไตรมาส 4/2564) แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,510,221 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 57,929 ล้านบาท NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.2% พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 753,621 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,125 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.6% และ พอร์ตลูกหนี้ตามสัญญาเช่ามูลค่า 3,155 ล้านบาท โดยแนวโน้มยอดสินเชื่อลูกหนี้ใหม่ (New Booking) ของสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม” และ “กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง” (KTBL) ในไตรมาส 1/2565 เพิ่มขึ้น 112.6% จากไตรมาส 1/2564 และเพิ่มขึ้น 27.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า”
“เคทีซียังคงคำนึงถึงการสร้างความสมดุลของรายได้และค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยควบคุมต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม และสร้างพอร์ตที่มีระดับความเสี่ยงสอดคล้องกับรายได้ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นผลให้บริษัทฯ มีฐานการขยายตัวของกำไรต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 5,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากไตรมาส 1/2564 มีรายได้ค่าธรรมเนียมใกล้เคียงเดิม และมีหนี้สูญได้รับคืน 857 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 834 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 3.1% จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงที่ 13.2% และต้นทุนทางการเงินลดลง 7.4% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 5.0% และค่าใช้จ่ายด้านโปรโมชันทางการตลาดสูงขึ้น เพื่อการลงทุนในการสร้างพอร์ต ที่หวังสร้างรายได้และผลกำไรให้กับธุรกิจเคทีซีในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการนโยบายต่อเนื่อง เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 เคทีซีได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกสถานะ (ตามประกาศ ธปท. ฝนส.2 ว.802/2564) เป็นจำนวนเงิน 2,278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.63% ของพอร์ตลูกหนี้รวม”
“ทั้งนี้ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 50,367 ล้านบาท ลดลง 4.9% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยมีโครงสร้างแหล่งเงินทุนมาจากเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว คิดเป็นสัดส่วน 29% ต่อ 71% ต้นทุนการเงินอยู่ที่ 2.6% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่าและมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) 29,259 ล้านบาท”
“สำหรับแนวทางการเติบโตทางธุรกิจของเคทีซีในปี 2565 ธุรกิจบัตรเครดิตจะเน้นขยายฐานบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาปรับปรุงบัตรเครดิตร่วม (Co-brand) ด้วยเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ 10% หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะขยายฐานสมาชิกใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยการนำเสนอบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เจาะกลุ่มผู้มีรายได้ประจำและมีฐานรายได้ที่สูงขึ้น โดยประมาณการเติบโตที่ 7% ในส่วนของธุรกิจ “เคทีซี พี่เบิ้ม” และกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง ตั้งเป้ามียอดลูกหนี้ 11,500 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายธนาคารกรุงไทยกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งการรักษาพอร์ตลูกหนี้ให้มีคุณภาพที่ดีในระดับเดิม ทั้งนี้ การจะนำพาธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เคทีซี จะมีค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์ในด้านการตลาดที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้น โดยคาดว่าในปี 2565 เคทีซีจะมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท และกำไรที่สูงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ เคทีซีจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย และยกระดับองค์กรสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ที่บูรณาการความยั่งยืนให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับประเทศและระดับสากล”
KTC drove its quality port of receivables past 90,208 million baht,
announcing 1,752 million baht Q1 profits with hopes
to push all its core businesses to hit targets.
KTC asserts that it is confident that all core businesses will expand as expected if the economy continues to improve. The Company reveals separate financial statements for Q1/2022, announcing a net profit of 1,752 million baht, a growth of 7.3 percent compared to the same period in 2021, while the total port of receivables has increased past 90,208 million baht. KTC will focus on simultaneously managing its portfolio quality and creating good quality of life for cardmembers in all sectors.
Mr. Rathian Srimongkol, President & Chief Executive Officer, “KTC” or Krungthai Card Public Company Limited, stated, “The Thai economy has a tendency to recover from the relaxation of various control measures including the reopening policy, debt sustainability measures, as well as an economic stimulus that spur economic activities. This has caused a recovery in domestic demand and the tourism sector both domestically and internationally. People began to return to their normal lives, leading to an increase in domestic spending. As expected, this was reflected in the volume of KTC’s credit card spending in Q1 of 2022 which grew by 7.9 percent at a value of 52,247 million baht. Moreover, the debtor portfolio expanded. KTC maintained the quality of its port of receivables which led to fewer bad debt write-offs through a management policy that focuses on strictly maintaining the quality of the portfolio to control non-performing loan (NPL) at a consistently low rate. KTC is all set to expand its new customer base in an acceptable risk framework. In the past 3 months, KTC’s debt approval rate has gradually increased. If the economic situation is maintained at this level and continues to improve, KTC will be able to achieve its business goals as set out.”
“Regarding KTC’s Q1 performance, as of March 31, 2022, compared to the same period in 2021, KTC had a total net profit according to the separate and consolidated financial statements of 1,752 million baht (a 7.3 percent surge) and 1,747 million baht (a 6.9 percent surge) respectively. The total membership base numbered 3,263,842 accounts while total loans to customers and accrued interest receivables totalled 90,208 million baht as a result of the acquisition of Krungthai Leasing Company Limited (KTBL). The total non-performing loan (NPL) ratio was 3.6 percent (remained the same with Q4/2021), comprising 2,510,221 cards in the credit card business, and total loans to credit card customers and accrued interest receivables totalled 57,929 million baht. NPL for credit card debtors was at 1.2 percent. Loans to personal loans customers and accrued interest receivables amounted to 29,125 million baht with 753,621 accounts and the NPL for personal loans debtors totalled 2.6 percent. The portfolio of lease receivables was worth 3,155 million baht, and the receivables of new booking of “KTC P BERM” and “Krungthai Leasing” (KTBL) in Q1/2022 increased by 112.6 percent from Q1/2021 and 27.6 percent compared to the previous quarter.”
“KTC continues to consider the appropriate balance of income and expenses by controlling financial costs close to the same level and building portfolios with risk levels that are in line with expected income. As a result, the Company has a baseline that generates consistent growth in profit. In Q1/2022, KTC had total revenue of 5,357 million baht, an increase of 0.7 percent from Q1/2021. Income from fees remained similar to the original value and bad debt recovery was recovered by 857 million baht, higher than the same period of the previous year which was at 834 million baht. Total expenses decreased by 3.1 percent after the expected credit loss dropped to 13.2 percent and financial costs declined by 7.4 percent. Meanwhile, operating expenses were up by 5.0 percent and marketing expenses were increased to invest in building a port of receivables aimed to generate income and profits for KTC’s businesses in the long run. Moreover, KTC continues to further its policy to assist the debt load of cardmembers affected by COVID-19 in compliance with the Bank of Thailand’s measures. As of March 31, 2022, KTC has assisted debtors of all statuses (according to the circular of the BOT No. BOT.RPD2.C. 802/2564) with 2,278 million baht which accounted for 2.63 percent of the total portfolio.”
“As of March 31, 2022, the Company had total borrowings of 50,367 million baht, a decrease of 4.9 percent year-over-year. The source of funds came from short-term and long-term borrowings that accounted for 29 percent to 71 percent. Cost of fund was at 2.6 percent and debt to equity ratio was at 2.0 which was lower than the covenant at 10 times. Lastly, the available credit line was at 29,259 million baht.”
“In terms of KTC’s business growth direction in 2022, the credit card business will focus on expanding with major partners through both new product launches and the development and revamp of co-branded credit cards. KTC has set a target of 10 percent or approximately 220,000 million baht in credit card spending growth. At the same time, the personal loans business will expand its new member base with potential by introducing the “KTC PROUD” Cash Card, targeting people with fixed incomes and those that have a higher income base. It is estimated that the business will grow by 7 percent. In terms of “KTC P BERM” and Krungthai Leasing businesses, KTC has its eyes set to reach a total debtor value of 11,500 million baht through the cooperation with the Krungthai Bank network with more than 900 branches nationwide along with maintaining the high quality of the debt portfolio at the same level. To steer the business to achieve its set goals and gain a higher market share, KTC will carry out more strategic marketing expenses than ever before. It is expected that within 2022, KTC’s total loan portfolio will be valued over 100,000 million baht with higher profit. In addition, KTC will focus on developing financial products and services to enhance the quality of life of Thais and elevate the organization to become a leader in the consumer finance business that integrates and shines a spotlight on sustainability at both national and international levels.”