เคยสงสัยไหมว่าทั้งที่ดูแลผิวดีขนาดนี้ ซื้อสกินแคร์ราคาแพงมากแค่ไหน แต่ผิวก็ยังคงมีปัญหาเหล่านี้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น สีผิวไม่สม่ำเสมอมีจุดด่างดำ ผิวไม่เรียบเนียนมีริ้วรอย ทำให้หลายคนต้องกังวลใจและเสียเงินไปอย่างไม่รู้จบ สาเหตุหลักจากปัญหาเหล่านี้เกิดจากอะไร สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ (Nutrilite Health Institute) จะพาไปค้นหาสาเหตุ พร้อมแชร์วิธีการดูแล เพื่อให้ทุกคนมีผิวสวยใสสุขภาพดี
ว่ากันว่าความงามที่แท้จริงต้องเริ่มจากภายใน ก่อนอื่นต้องทำความรู้จักกับผิวหนังของตนเองอย่างถ่องแท้ก่อน โดยเริ่มจากโครงสร้างของผิวหนัง ที่ประกอบไปด้วย ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ซึ่งแต่ละชั้นก็จะมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
- ชั้นหนังกำพร้าหรือชั้นปราการผิว มีหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากสารพิษ แบคทีเรีย มลภาวะจากภายนอก อุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม และการสูญเสียน้ำ เปรียบเสมือนกำแพงที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งรบกวนภายนอก โดยในผิวหนังชั้นนี้มีสารที่สำคัญ ได้แก่ ไลปิดแบริเออร์ ที่เป็นไขมันเคลือบอยู่ระหว่างเซลล์ผิวชั้นนอกสุด ถ้าผิวของเราขาดไลปิดก็จะทำให้ผิวแห้งหยาบ ลอกเป็นขุย เป็นผื่นแพ้ได้ง่ายและผิวดูไม่กระจ่างใส นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญที่เป็นส่วน ประกอบของไลปิด ก็คือเซราไมด์ ซึ่งจะเห็นว่าสกินแคร์แบรนด์ต่างๆ มักจะมีส่วนผสมของ เซราไมด์ เพราะจะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง เสริมเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ และกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
- ชั้นหนังแท้ เป็นผิวหนังชั้นถัดลงมา ประกอบด้วย คอลลาเจนและอีลาสติน ที่เกี่ยวพันกันอยู่ ทำให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอย่าง กรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี และช่วยรักษาปริมาตรของผิว อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและทำให้การทำงานของผิวเป็นไปได้อย่างปกติ แต่ผิวหนังชั้นนี้มักถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินสลายตัวมากขึ้นและยังสร้างใหม่ได้ช้าลง ทำให้ผิวมีริ้วรอย หรือการโดนแสงแดด รังสียูวีแทรกซึมได้ถึงชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดริ้วรอย ฝุ่น ควัน มลภาวะ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวระคายเคือง หรือแม้แต่ในการกินอาหารทุกวัน หากอาหารที่มีน้ำตาลสูงเกินไปก็จะทำให้น้ำตาลไปจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย เกิดเป็นสารที่มาทำลายคอลลาเจนในผิว และสิ่งที่เป็นอันตรายกับผิวอย่างร้ายแรงอีกอย่างหนึ่งก็คือ บุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ก่อสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแห้ง เกิดริ้วรอย ระคายเคืองง่ายอีกด้วย
- ชั้นไขมัน อยู่ชั้นในสุดของผิวหนัง ประกอบด้วย เซลล์ไขมัน โปรตีนคอลลาเจน และหลอดเลือดต่างๆ จำนวนมาก ทำหน้าที่กักเก็บพลังงาน เป็นเหมือนเบาะกันกระแทกให้กับอวัยวะภายใน ซึ่งจำนวนของเซลล์ไขมันที่อยู่ในชั้นไขมันจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละส่วนของร่างกาย และในแต่ละคนก็จะมีไม่เท่ากัน
- ผิวหนังของคนเราพบเจอการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังถูกกระตุ้นทั้งปัจจัยภายนอก อย่างแสงแดด ฝุ่นควัน มลภาวะ สารพิษที่ปะปนมากับน้ำ และอาหาร และปัจจัยภายใน เช่น การเสื่อมลงของคอลลาเจนตามอายุที่มากขึ้น พันธุกรรม หรือ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ภาวะต่างๆ เหล่านี้ส่งผลทำให้ผิวเกิดปัญหาต่างๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นกังวล ไม่ว่าจะเป็นผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้ง มีจุดด่างดำ ดังนั้นจึงต้องมีการบำรุงผิว เพื่อเป็นการป้องกันให้เกิดภาวะต่างๆ เหล่านี้ช้าลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีมบำรุง การทาครีมกันแดด และนอกจากนั้น อาหารเสริมก็มีส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิว การรับประทานอาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการดูแลผิว เพราะเป็นการบำรุงผิวจากภายใน เพื่อสะท้อนความงามสู่ผิวชั้นนอก
-
- ของเซราไมด์ เพราะจะช่วยทำให้ผิวแข็งแรง เสริมเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะ และกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
- ชั้นหนังแท้ เป็นผิวหนังชั้นถัดลงมา ประกอบด้วย คอลลาเจนและอีลาสติน ที่เกี่ยวพันกันอยู่ ทำให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอย่าง กรดไฮยา ลูโรนิก ซึ่งมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดี และช่วยรักษาปริมาตรของผิว อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและทำให้การทำงานของผิวเป็นไปได้อย่างปกติ แต่ผิวหนังชั้นนี้มักถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินสลายตัวมากขึ้นและยังสร้างใหม่ได้ช้าลง ทำให้ผิวมีริ้วรอย หรือการโดนแสงแดด รังสียูวีแทรกซึมได้ถึงชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เกิดริ้วรอย ฝุ่น ควัน มลภาวะ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวระคายเคือง หรือแม้แต่ในการกินอาหารทุกวัน หากอาหารที่มีน้ำตาลสูงเกินไปก็จะทำให้น้ำตาลไปจับตัวกับโปรตีนในร่างกาย เกิดเป็นสารที่มาทำลายคอลลาเจนในผิว และสิ่งที่เป็นอันตรายกับผิวอย่างร้ายแรงอีกอย่างหนึ่งก็คือ บุหรี่ เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ก่อสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแห้ง เกิดริ้วรอย ระคายเคืองง่ายอีกด้วย
- สารอาหารที่ช่วยดูแลผิวในกลุ่มไฟโตเซราไมด์และไฟโตอินฟิวส์เป็นพลังสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยทำให้ผิวสวยสดใส โดยไฟโตเซราไมด์ คือ เซราไมด์ที่สกัดจากข้าวสาลี ช่วยเพิ่มเซราไมด์ในชั้นผิว มีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน ลดความขรุขระของผิว และป้องกันผิวจากมลภาวะภายนอก และในส่วนของไฟโตอินฟิวส์อีกหนึ่งสารสกัดสำคัญ ที่เกิดจากการผสานพลังจากพืช 3 ชนิดที่มากด้วยคุณประโยชน์ ประกอบด้วยเมล็ดองุ่น (Grape seed) เชอโรกี โรสฮิป (Cherokee rose hip) และวูลฟ์เบอร์รี (Wolfberry) ที่สามารถดูดซึมผ่านทางกระแสเลือด ไปออกฤทธิ์ที่ผิวหลังจากรับประทาน ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระที่มาทำร้ายผิว เพิ่มความชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นกว่า 78% อีลาสตินเพิ่มขึ้นกว่า 58% และยับยั้งการสลายของคอลลาเจนและอีลาสตินอีกด้วย
- การดูแลรักษาผิวเป็นเรื่องที่ทุกคนมิอาจละเลยได้ เนื่องจากสภาพผิวเป็นอีกหนึ่งตัวบ่งชี้ที่ทำให้ดูสุขภาพดี การรับประทานสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวนั้นนอกจากจะช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในแล้ว สารอาหารหลายๆ ชนิดสามารถส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้นได้ด้วย เพราะไม่ใช่ออกฤทธิ์ที่บริเวณผิวเพียงอย่างเดียวเหมือนกับการใช้ สกินแคร์ แต่ยัง สามารถออกฤทธ์ส่งผลต่อเซลล์อื่นๆ ในร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้น หากใครต้องการที่จะดูแลผิวให้แข็งแรงพร้อมๆ กับสุขภาพโดยรวมด้วยแล้ว การใช้ทั้งสกินแคร์ดูแลผิวภายนอกและการรับประทานสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวร่วมกัน จะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นความสวยและสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริง
-