“อมตะวีเอ็น” กางแผนโชว์ศักยภาพการลงทุนในพื้นที่นิคมฯในเวียดนาม 4 โครงการ บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคเหนือ กลางและใต้ บนพื้นที่ 3,000 เฮกตาร์ หรือกว่า 18,000 ไร่ เน้นรองรับอุตสาหกรรมสีเขียวและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน FDI มากกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งเป้าปี 2567 เป็นแม่เหล็กนักลงทุนต่างชาติและสร้างรายได้เติบโต 15 – 20%


นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยในงานแถลงข่าว “AMATA Vietnam: Driving Progress in 2024 and Beyond” แผนกลยุทธ์และภาพรวมการลงทุนในปี 2567 ว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่กลุ่มอมตะฯได้เข้าไปลงทุนที่เวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่ลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติทั่วโลก ซึ่งสะท้อนได้จากความสำเร็จของอมตะฯในการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่งและโครงการนิคมฯร่วมทุนกับพันธมิตรนานาชาติอีก 1 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมฯอมตะซิตี้ เบียนหัว 2.นิคมฯอมตะซิตี้ ลองถั่น 3.นิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลอง และ 4.นิคมฯ กว่างจิ (Joint Venture) คิดเป็นมูลค่าลงทุนทั้งสิ้นกว่า 860 ล้านเหรียญสหรัฐ บนพื้นที่ดินที่ได้รับใบอนุญาติ 3,000 เฮกตาร์ (18,750 ไร่) ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดกว่า 200 บริษัทคิดเป็นมูลค่าลงทุนมากกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 60,000 คน

สำหรับการพัฒนานิคมฯอมตะซิตี้ เบียนหัวซึ่งเป็นนิคมแรกตั้งอยู่ที่เมืองเบียนหัว จ. ดองไน เป็นโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Industrial Park) ถือเป็นต้นแบบให้กับการพัฒนานิคมฯอื่นๆ ของทั้งประเทศเวียดนาม ส่วนนิคมฯอมตะซิตี้ ลองถั่น พัฒนาเป็นนิคมฯไฮเทคในพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในภาคใต้ซึ่งห่างจากสนามบินใหม่เพียง 10 นาที สำหรับภาคเหนือ นิคมฯอมตะซิตี้ ฮาลอง
ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.กว่างหนิง อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Economic Zone)ที่กำลังได้รับความสนใจสูงสุดจากนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีหลายด้านจากเวียดนาม และเร็วๆนี้อมตะยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก บริษัท Marubeni Corporation ในการเข้าถือหุ้น สัดส่วน 20% เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจในด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม การตลาดและการเงิน ส่วนนิคมฯกวางจิ (JV)ในภาคกลางเป็นนิคมร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 2 ราย ประกอบด้วย Singapore Industrial Park J.V Co., Ltd (VSIP) และ Sumitomo Corporation ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ
ปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติจำนวนมากสนใจเข้ามาลงทุนในเวียดนาม ดังนั้นในปี 2567 บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) มียอดขายที่รอโอน (Backlog) ประมาณ 60 เฮกเตอร์ และได้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 15 – 20%