อจินไตยเปิดแผนลงทุนครั้งใหญ่ ทุ่ม 100 ล้านบาท สยายปีกขยายลงทุนเพียบ! ทั้งธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร “Ajintai Wellness Clinic & Spa” และธุรกิจบันเทิง “Ajintai Entertainment” หวังกระโดดขึ้นมาอยู่แถวหน้าทั้ง 2 ธุรกิจภายใน 3 ปี พร้อมดันยอดรายได้แตะ 1,000 ล้านบาทใน สิ้นปี 2566 สวนกระแสเศรษฐกิจขาลง
นางสาวภิญญาพัชร์ ธีรพิริยากรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท อจินไตย ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ พร้อมเปิดอาณาจักร “AJINTAI”(อจินไตย) และพร้อมลุยขยายธุรกิจในเครือฯ เต็มสูบ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 2 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ภายใต้ชื่อ “Ajintai Wellness Clinic & Spa” (อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา) 2.ธุรกิจบันเทิง ภายใต้ชื่อ “Ajintai Entertainment” (อจินไตย เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์) ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสในการทำตลาดสูงทั้ง 2 ธุรกิจ โดยมีเป้าหมายเปิดให้บริการ “อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา” ปีละไม่ต่ำกว่า 5 สาขา หลังเปิดสาขาแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ทาวน์อินทาวน์ ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนกว่า 20 ล้านบาทนำร่องก่อน ขณะที่ธุรกิจบันเทิงก็มีเป้าหมายผลิตละคร ซีรีส์ และศิลปิน Boyband ,Girlgroup ออกสู่ตลาดต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศด้วยเช่นกัน เพื่อขยายอาณาจักร “อจินไตย” ให้เติบโตและแข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้ คาดว่าสิ้นปี 2565 ผลประกอบการของบริษัทฯ จะทำได้แตะ 300 ล้านบาท เป็นรายได้จากธุรกิจสุขภาพและความงาม หรือ Wellness 40% บันเทิง 30% และอื่นๆ 30% หลังจากโหมอัดงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจเต็มกำลังในปีนี้ เป้าหมายปี 2566 มีผลประกอบการทะลุ 1,000 ล้านบาท
“การปักธงขยายธุรกิจเต็มสูบครั้งนี้ เพราะเชื่อว่าทุกๆ ธุรกิจมีโอกาสมาก โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร ที่อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา จะมีครบทั้งคลินิกเสริมความงาม ,ศัลยกรรมตกแต่ง, ศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging และสปาเพื่อสุขภาพและความงาม โดยจะบุกขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในรูปแบบลงทุนเอง ร่วมทุน และขายแฟรนไชส์ ในทุกขนาดทั้งขนาดเล็กประมาณ 500 ตารางเมตร ลงทุน 5 ล้านบาท ขนาดกลาง 800-1,000 ตารางเมตร ลงทุน 10 ล้านบาท และขนาดใหญ่แบบ ฟูลสเกล 1,500 ตารางเมตร ลงทุน 20 ล้านบาท โดยในส่วนของประเทศไทยปัจจุบันมี 1 สาขา ตั้งเป้าปักหมุดทั่วประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 5 สาขา และภายใน 5 ปีมีครอบคลุมมากกว่า 25 สาขา ส่วนในต่างประเทศ วันที่ 29 ต.ค.นี้ คาดว่าจะเปิดสาขาแรกที่ สปป.ลาว 1 แห่ง จากนั้นก็ลุยเปิดสาขาในประเทศต่างๆ อาทิ จีน กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย ดูไบ และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น เพื่อหวังสร้างแบรนด์อจินไตย เวลเนส คลินิก แอนด์ สปา สัญชาติไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงในตลาดโลกด้วย”
ส่วนธุรกิจบันเทิงหรือเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่ตั้งเป้าบุกทั้งละคร ซีรีส์ และผลิตศิลปิน Boyband ,Girlgroup ออกสู่ตลาด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพราะเชื่อว่ายังเป็นธุรกิจที่มาแรงแซงโค้ง แม้การแข่งขันจะรุนแรงก็ตาม ซึ่งวันที่ 29 ต.ค.นี้จะแถลงเปิดตัวซีรี่ส์เรื่อง “แปลกใจนักแอบรักเธอ“ นำแสดงโดย พลอยภัช-ภัชธร ธนวัฒน์,โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์,ไผ่-พาทิศ พิสิฐกุล เริ่มออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีศิลปินดารา นักแสดงในสังกัดประมาณกว่า 20 คน ซึ่งเป้าหมายของอจินไตย ต้องการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยที่มีความสามารถและอยากเป็นศิลปินเข้ามาร่วมเป็นครอบครัวอจินไตยเพิ่มขึ้น รวมถึงผลักดันให้ “อจินไตย” ทั้งในกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร และธุรกิจบันเทิง ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของเมืองไทยภายใน 3 ปี
นางสาวภิญญาพัชร์ กล่าวต่อว่า แผนปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายธุรกิจบ้านพักคนชรา และโรงพยาบาลความสวยความงามในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศเสริมทัพในขาของกลุ่มธุรกิจศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร เพื่อรองรับลูกค้า หลังพบว่าปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง(ฮับ) ในเรื่องของ ศัลยกรรมและความงามของคนทั่วโลก รวมถึงพบว่าผู้สูงอายุทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มีเพิ่มขึ้น มีความต้องการบ้านพักคนชราที่มีบริการครบครันระดับ 5-6 ดาวมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนของอจินไตย
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสินค้าเฮ้าส์แบรนด์(house brand) ในกลุ่มเพื่อสุขภาพและความงาม ในรูปของผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สบู่ สครับผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ “Ajintai” เพื่อวางขาย ในช่องทางค้าปลีกต่างๆ รวมถึงในช่องทางขายออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม อาทิ Shopee ,Lazada ด้วย นอกเหนือจากการขายผ่านศูนย์สุขภาพและความงามครบวงจร “Ajintai Wellness Clinic & Spa” เพื่อให้สินค้าเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น ขณะเดียวกันปัจจุบันบริษัทฯ ยังได้รับทำการตลาดให้กับสินค้าแบรนด์เพื่อความงามอื่นๆ ด้วย อาทิ แบรนด์ “AOTURA SERUM” เป็นต้น
“นอกจากการทำธุรกิจแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR) ด้วย โดย ต่อปีจะใช้งบประมาณ 30% ของงบลงทุนทั้งปี ซึ่งปี 2565 นี้ ก็ใช้ 30% ของงบ 100 ล้านบาท โดยกิจกรรมใหญ่ของปีนี้ คือ เป็นเจ้าภาพ รับดูแลการจัดงานประกวดสำหรับคนหูหนวก ระดับโลก Miss & Mr. Universum 2022 โดยมีผู้เข้าประกวดที่บกพร่องทางการได้ยินเข้าร่วมกว่า 20 ประเทศ เป้าหมาย คือ การให้โอกาส ผู้บกพร่องทางการได้ยินจากทุกมุมโลก ได้แสดงศักยภาพ กล้าแสดงออก และได้รับโอกาสทางสังคมที่ดี อีกทั้งอจินไตยยังได้สัมพันธภาพและภาพลักษณ์ที่ดีจากทุกทั่วมุมโลกด้วย” นางสาวภิญญาพัชร์ กล่าวทิ้งท้าย