กว่า 28 ปี บนเส้นทางธุรกิจความงาม “กิฟฟารีน” ภายใต้การนำทัพของ คุณหมอต้อย-พญ.นลินี ไพบูลย์ แบรนด์สุขภาพความงามสัญชาติไทย ที่อยู่ในใจคนไทยมาอย่างยาวนาน และสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยนับแสนครอบครัว ล่าสุด เปิดใจถึงเคล็ด(ไม่)ลับความสำเร็จ พร้อมเผยวิสัยทัศน์ถึงเทรนด์ความงามในอนาคตกับสาวๆ และบทบาทของผู้หญิงยุคใหม่
คุณหมอต้อย-พญ.นลินี ไพบูลย์ บอสใหญ่ กิฟฟารีนกล่าวว่า“เป็นความตั้งใจมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจเลยค่ะ ที่อยากทำให้กิฟฟารีนเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้คนไทยหลายแสนครอบครัว และทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นสิ่งที่ภูมิใจมากค่ะในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีโดยแบรนด์ไทย มอบให้กับผู้บริโภคทุกๆ คนค่ะ”
ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ “กิฟฟารีน” สามารถฝ่าฟันวิกฤตและอุปสรรคต่างๆ มาได้อย่างแข็งแกร่ง และมองว่าปัจจัยสำคัญ คือ การปรับตัวอย่างรวดเร็ว การแก้เกมธุรกิจอย่างทันท่วงที และสำคัญที่สุด คือ การไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
“ที่ผ่านมากิฟฟารีน ผ่านมาได้ทุกสถานการณ์ ทุกวิกฤต เพราะเราปรับตัวได้เร็ว และแก้เกมธุรกิจได้อย่างทันท่วงที ที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี เราทุ่มเทและไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ดีๆ เพื่อผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
ที่ผ่านมากิฟฟารีน ผ่านมาได้ทุกสถานการณ์ ทุกวิกฤต เพราะเราปรับตัวได้เร็ว และแก้เกมธุรกิจได้อย่างทันท่วงที ที่สำคัญเราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี เราทุ่มเทและไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ดีๆ เพื่อผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
“กิฟฟารีน” ยืนหยัดบนเส้นทางธุรกิจความงาม โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เทรนด์ตลาดควบคู่ไปกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งมั่นใจว่า เทรนด์ความงามในอนาคตจะเน้นเรื่องการดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งผิวพรรณและสุขภาพ โดยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ
“เทรนด์ความงามในอนาคต มองว่าคนเราในยุคปัจจุบันดูแลตัวเองกันมากขึ้น นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และ เทคโนโลยีก็มีความสำคัญมากขึ้นด้วยเช่นกัน ต้องยอมรับว่าตลาดความงามการแข่งขันสูงมาก ซึ่งมองว่าเป็นความท้าทายให้เราคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ใช้แล้วเห็นผล และต้องแข่งกันเอาใจ เข้าใจผู้บริโภค ที่สำคัญพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และพยายามทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุด นั่นหมายความว่าทำอย่างไร ให้ผู้บริโภคอยากได้ อยากลอง และกลับมาซื้อซ้ำมากที่สุด”
จากความเชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ “กิฟฟารีน” จึงรู้ใจผู้บริโภค และมีความชำนาญในการทำตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โดยเฉพาะ “ซีรั่ม” ซึ่งถือว่า “กิฟฟารีน” เป็นผู้เชี่ยวชาญลำดับต้นๆ ของวงการก็ว่าได้ การันตีจากยอดจำหน่ายซีรั่มมาแล้วมากกว่า 3,000,000 ขวด “ปัจจัยหลัก ที่ทำให้กิฟฟารีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการทำตลาดซีรั่ม คือ ความรู้จริงเรื่องซีรั่ม และเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และได้พัฒนา ผลิตภัณฑ์ซีรั่มใหม่ Giffarine Reju Glow Serum ซีรั่มผิวกระจก ด้วยส่วนผสมหลัก PDRN 5000 ppm ผสานส่วนผสมอื่นๆ ที่ดูแลผิวหน้าให้เรียบเนียบ รูขุมขนกระชับ ผิวฉ่ำวาว โกลว์ใส แข็งแรง ดุจผิวกระจก จากผลการทำ clinical test เราได้ทำการตรวจผิวหน้าของอาสาสมัคร ที่ใช้ต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ เห็นผลชัดเจนมากๆ ผิวโกลว์ใสขึ้น ยิ่งใช้ ผิวยิ่งเห็นผลชัดเจนค่ะ”
นอกจากนี้ คุณหมอต้อย ยังได้แนะนำอีกว่า การดูแลผิวยิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ พร้อมเผยเคล็ดลับส่วนตัวในการดูแลผิวพรรณให้สวยสุขภาพดีตลอดเวลาว่า ต้องดูแลตัวเองแบบองค์รวม ทั้งเรื่องอาหาร อากาศ ออกกำลังกาย พักผ่อน ที่สำคัญ คือ การบำรุงผิวพรรณอย่างสม่ำเสมออีกด้วย
เกี่ยวกับ “กิฟฟารีน”
“ทุกครั้งที่คุณใช้กิฟฟารีน นั่นคือความรับผิดชอบของเรา…ทุกครั้งที่คุณเชื่อมั่นในกิฟฟารีน นั่นคือ ความภูมิใจของเรา” กิฟฟารีนก่อกำเนิดจากความมุ่งมั่นของคณะแพทย์ และเภสัชกรที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านการรับรองที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ด้วยปณิธานยึดมั่นในความจริงใจ และความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคอันเต็มเปี่ยม “กิฟฟารีน” มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่องอันเกิดจากการวางแผนการตลาดที่มีวิสัยทัศน์ แผนการขายที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความมั่นคงให้แก่นักธุรกิจกิฟฟารีน พร้อมทั้งการสนับสนุนด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายที่พร้อมจะตอบสนอง และสร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภคในระยะยาว ปัจจุบัน “กิฟฟารีน” มีโรงงานที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก ด้วยเงินลงทุนสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด รวมไปถึงสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต ตลอดจนคัดเลือกคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีที่สุด
