สยามคูโบต้าเปิดรายรับปี 64 โตขึ้น 30% มั่นใจทิศทางตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรปี 65 ยังเติบโต ล่าสุดเตรียมพัฒนาสินค้ารับเทรนด์เกษตรสมัยใหม่ Smart Farm เน้นการทำการตลาดแบบ Personalized Marketing เพื่อยกระดับการให้บริการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เน้นดูแลสังคมด้วยนโยบาย ESG เดินหน้าสู่แบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมเปิดตัวแคมเปญสื่อสารใหม่ “Renew your Agri-life together ก้าวสู่ชีวิตเกษตรใหม่ไปด้วยกัน”
นายทาคาโนบุ อะซึมะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 22% โดยปัจจัยบวกมาจากสภาพอากาศปริมาณน้ำฝนสำหรับการเพาะปลูกมีเพียงพอ ส่งผลให้ผลประกอบการของสยามคูโบต้าในปี 2564 เพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่ารวม 6.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 30% โดยปัจจัยหลักของการเติบโตมาจากแรงงานคืนถิ่นกลับสู่ภาคการเกษตรเพื่อต่อยอดการทำเกษตรของครอบครัว ทำให้มีความต้องการซื้อเครื่องจักรเพื่อใช้งานมากขึ้น ซึ่งสินค้าหลักคือกลุ่มแทรกเตอร์ และรถเกี่ยวนวดข้าว รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ซึ่งมีการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น ในขณะเดียวกันราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี
สำหรับในปี 2565 สยามคูโบต้าตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 6.3 หมื่นล้านบาท เนื่องมาจากในปี 2564 ที่ผ่านมาพบว่ามีแรงผลักดันจากสถานการณ์โควิด-19 งบประมาณภาครัฐที่สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรผ่านโครงการเกษตรแปลงใหญ่ รวมถึงยอดการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดการณ์ว่า ยอดขายยังคงเติบโตเท่ากับที่ตั้งเป้าไว้เมื่อเทียบกับปี 2563 จากแนวโน้มภาคการเกษตรที่ยังอยู่ในความสนใจของเกษตรกรและผู้ประกอบการ
ขณะเดียวกัน เราก็จะสานต่อนโยบายของคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ที่มุ่งมั่นทำให้คูโบต้าเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก หรือ Global Major Brand (GMB) ภายในปี 2573 โดยวางเป้าหมายเป็น “Essentials Innovator for Supporting life” สร้างความเชื่อมั่นในนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรในรูปแบบต่างๆ ให้กับลูกค้าที่มีทั่วโลก พร้อมกับการเป็นองค์กรที่ตอบแทนสังคม ดำเนินธุรกิจโดยการพัฒนาสินค้าเพื่อสานต่อความยั่งยืนทั้งด้านอาหาร น้ำ และสิ่งแวดล้อม
สยามคูโบต้าเชื่อว่า ในปี 2565 จะเป็นเทรนด์แห่งการเกษตรสมัยใหม่ Smart Farm เราจึงร่วมกับ เอสซีจี และคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท “เกษตรอินโน KasetInno” ให้บริการโซลูชั่นการเกษตรครบวงจร ด้วยการนำเอาองค์ความรู้ด้านพืช เครื่องจักรกลการเกษตร และระบบ IoT ที่ทันสมัย เพื่อให้การทำเกษตรก้าวข้ามขีดจำกัดสู่ความเป็นไปได้สำหรับทุกคน
ด้าน นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เปิดเผยว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจภาคการเกษตรของไทยภายในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่การส่งออกสินค้าทางการเกษตรกลับมีแนวโน้มที่ดีขึ้น คาดในปี 2565 ตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรน่าจะยังเติบโตต่อไปได้ด้วยเทรนด์โลกในด้านความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) ที่มีความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพอย่างต่อเนื่องซึ่งเกษตรกรจะหันมาใช้เครื่องจักรทดแทนแรงงานมากขึ้น อันจะส่งผลดีต่อธุรกิจของคูโบต้า
ขณะเดียวกัน สยามคูโบต้ายังคงเดินหน้าโครงการ KUBOTA On Your Side ที่เข้าไปช่วยเหลือและร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในวิกฤตโควิด-19 หรือแม้กระทั่งโครงการ Zero Burn เกษตรปลอดการเผา เพื่อลดมลภาวะ PM 2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการก้าวสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่ไม่ได้คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสังคมด้วยนโยบาย ESG ที่มุ่งเน้นใน 3 มิติ ได้แก่ 1.ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) นำเอาเทคโนโลยีผสานองค์ความรู้ มาช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการคูโบต้าฟาร์ม และเกษตรปลอดการเผา 2.ด้านสังคม (Social) ผ่านกิจกรรม CSR ที่ช่วยเหลือสังคม ตลอดจนส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเกษตรให้มีรายได้อย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่ 27,000 ไร่ และมีเกษตรกรภายใต้โครงการกว่า 1,700 ราย และ3.ด้านบรรษัทภิบาล (Governance) เป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือ บริหารงานอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล ทั้งนี้เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้เกษตรกรไทยอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืนด้วยการใช้เทคโนโลยีอีกทั้งยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ ซึ่งในปีนี้สยามคูโบต้าจะมุ่งเน้นไปที่การจัดการน้ำและปุ๋ยที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ดิจิทัลแพลตฟอร์มส่งเสริมเกษตรแม่นยำ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ลดการปล่อยมลพิษลง โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero CO2 ในปี 2593 ตามแนวทางคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ญี่ปุ่น
ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “Renew your Agri-life together ก้าวสู่ชีวิตเกษตรใหม่ไปด้วยกัน” มุ่งหวังในการสื่อสารแบรนด์ในฐานะผู้นำนวัตกรรมการเกษตรที่เข้าถึงหัวใจทุกคน ทั้งเกษตรกร กลุ่มคนรุ่นใหม่ และคนเมืองที่สนใจด้านการเกษตร เพื่อสร้างจุดเปลี่ยน ด้วยการนำนวัตกรรมที่พร้อมพาผู้คนก้าวข้ามสู่โลกแห่งการทำเกษตรในรูปแบบใหม่ ที่จะเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของภาคการเกษตรไทยในอนาคต
นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ เปิดเผยว่า ในปี 2564 สยามคูโบต้ายังคงเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร และตลาดรถขุดเล็ก เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด ในปีนี้จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มพืชมูลค่าสูง อาทิ เครื่องตัดหญ้าเนเปียร์ สำหรับธุรกิจฟาร์มโคนมและพลังงานชีวมวล แทรกเตอร์ B2401 พร้อมเครื่องตัดหญ้าใต้ท้องรถ (Mid mower) โดยในปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกทุเรียนของไทยเติบโตสูงถึง 60% ส่งผลให้เกษตรกรหันมาเพิ่มพื้นที่ปลูกทุเรียนโตขึ้นเฉลี่ย 10% และพัฒนารถดำนาเดินตาม 6 แถวใหม่ นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าสู่นอกภาคเกษตรอย่างรถกระบะบรรทุกหนัก มุ่งรุกตลาดน้ำมันเครื่องยนต์ดีเซล ตราช้าง ซุปเปอร์ คอมมอนเรล โดยอาศัยกลยุทธ์การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing รวมถึงให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล (Digitalization) เพื่อสื่อสารและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีจำนวนมากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ระบบ QROC หรือ Quick Response Operational Center ที่คอยตอบคำถามเพื่อสนับสนุนการทำงานของช่างบริการผ่านช่องทางไลน์ ระบบ Scan QR code เพิ่มความสะดวกสบายในการจ่ายค่าบริการที่หน้างานของลูกค้า รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์แชทสอบถามข้อมูลอะไหล่ในเว็บไซต์ KUBOTA Store ทั้งนี้เพื่อมุ่งยกระดับการบริการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าและรับบริการที่ดีเยี่ยม สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีแผนขยายศูนย์กระจายอะไหล่สยามคูโบต้าไปยังภูมิภาคต่างๆ อีก 2 แห่งที่จังหวัดนครราชสีมา และฉะเชิงเทรา รองรับการจัดส่งอะไหล่แท้พร้อมถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วและอุ่นใจยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้สยามคูโบต้ายังมีกิจกรรมด้านความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง จึงได้วางแผนสานต่อ “โครงการ
คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ เฟส 2” ทั้งการขยายจำนวนเพิ่มชุมชนต้นแบบบริหารจัดการเครื่องจักรแบบรวมกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฟสแรกมีวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการแล้ว 124 กลุ่ม ใน 48 จังหวัด และเสริมศักยภาพด้านอื่นๆ เพื่อให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนต้นแบบมีความเข้มแข็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเจตนารมณ์ของสยามคูโบต้าที่จะร่วมขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
SIAM KUBOTA forges ahead towards becoming a Global Major Brand (GMB)
with the new “Essentials Innovator for Supporting Life” concept for 2022,
focusing on sustainable organization developmentand ESG-led improvement of farmers’ quality of life
Reporting a 30% revenue increase in 2021, SIAM KUBOTA is confident for the growth of the farming machinery market to continue into 2022 and is currently developing new products in response to the trend of smart farming. SIAM KUBOTA is also focusing on personalized marketing to elevate service standards as well as on the sustainable development of organization, placing emphasis on social engagement through its ESG policy, with the goal of becoming a global major brand. In tandem, SIAM KUBOTA will also be launching its new communication campaign: “Renew Your Agri-life Together.”
Mr. Takanobu Azuma, President of SIAM KUBOTA Corporation Co., Ltd., stated that Thailand’s agricultural machinery market saw 22% growth in the past year, attributable to sufficient rainfall for farming. Consequently, SIAM KUBOTA’s operating results in 2021 rose to be 69 billion baht in total, or approximately 30%, compared to the previous year. The major factors for the growth include the return of labor to the agricultural sector to take over their family’s farming businesses, which brought about greater demand for farming machinery, primarily tractors and combine harvesters, as well as greater state support for large scale farming and decent prices for agricultural commodities.
For the year 2022, SIAM KUBOTA has set the revenue target at 63 billion baht. While, in 2021, there was a push from the COVID-19 pandemic as well as government budgets supporting the use of technology to boost agricultural efficiency through Large Scale Farm project and increasing export sales, this year, sales are expected to grow as targeted compared to 2020 as farmers and entrepreneurs remain interests in agricultural trend.
At the same time, SIAM KUBOTA will continue carrying out KUBOTA Corporation Japan’s policy of transforming KUBOTA into a Global Major Brand (GMB) by 2030 and becoming an “Essentials Innovator for Supporting Life” in order to foster confidence among customers across the world in KUBOTA’s farming machinery. The company is also seeking to contribute to society through its business operations and develop products that support to food, water, and environmental sustainability.
With the belief that the year 2022 will see the rise of the new trend of smart farming, SIAM KUBOTA has made a joint investment with SCG and KUBOTA Corporation Japan to establish KasetInno, a company that delivers integrated farming solutions by bringing together agricultural knowledge, farming machinery, and state-of-the-art innovation, serving as an assistant that will make farming possible for everyone.
Mrs. Waraporn Osathapan, Senior Executive Vice President, said despite the impact of COVID-19 on the economy in Thailand’s agricultural sector in the past year, exports of agricultural products showed an upward trend. It is also projected that the farming machinery market in 2022 will continue growing in response to the global trend of food security, leading to a consistent increase in demand for quality agricultural commodities and food. This will prompt more farmers to adopt farming machines in place of labor, thus benefiting KUBOTA’s business.
At the same time, SIAM KUBOTA will continue KUBOTA On Your Side Project to provide assistance to various sectors during the COVID-19 pandemic as well as the Zero Burn Project, which aims at reducing PM 2.5 and environmental issues. Both of these projects mark an important step for SIAM KUBOTA towards becoming a GMB that looks beyond just business conduct and also focuses on taking care of society through an ESG policy, which places emphasis on three dimensions: 1. Environment; to bring technology to combine knowledge helping reduce costs, increase productivity, increase farming efficiency that does not harm the environment under KUBOTA Farm and Zero Burn project. 2. Social; through CSR activities that help society as well as to promote and develop agricultural community enterprises for sustainable income, which there are over 1,700 farmers joining a covering area of 27,000 Rai 3. Governance; to be a reliable organization transparent management and have good governance. SIAM KUBOTA also seeks to sustainably enhance the well-being of Thai farmers through technology and reduce resource consumption. In this year, a particular emphasis is placed on eco-friendly water and fertilizer management, digital platforms for precision farming, and product development to reduce pollution, with the goal of achieving the net zero CO2 target by 2050, in line with KUBOTA Corporation Japan.
Furthermore, SIAM KUBOTA has recently launched the “Renew Your Agri-life Together” Campaign to communicate the brand’s leadership in agricultural innovation to everyone, including smart farmers and urbanites’ interests in farming, in order to introduce innovations that help people transition to new farming models, thus providing a vital step for ushering in changes to Thailand’s agricultural sector in the future.
Mr. Phisanu Milintanush, Vice President and General Manager – Sales, Marketing and Service, stated that SIAM KUBOTA reigned supreme in the farming machinery and mini excavator market in 2021. To reinforce that leadership, the company is introducing new products that address changing needs in the agricultural sector especially high-value crops, such as Napier grass cutters for the dairy and biomass industries, and B2401 tractor with a mid-mount mower, which caters to durian farmers in response to the 60% growth in durian export value in the last year and 10% increase in farming land dedicated to durian plantation and new six-row walk-behind transplanters.It also expands its customer base to non-agricultural sectors such as heavy-duty pickup trucks as well as aims to penetrate the diesel engine oil market, Tra Chang Super Common Rail brand. SIAM KUBOTA will also employ personalized marketing as its strategy and focus on driving digitalization in order to communicate with its expanding customer base and promptly meet their needs. In this regard, relevant initiatives include the QROC system or Quick Response Operational Center, an online channel for inquiries that provides support to technicians; QR code systems, which offer customers a more convenient option of service fee payment; and the addition of a chat feature to the KUBOTA Store website for inquiries on mechanical parts. The purpose behind these initiatives is to elevate the services, ensure excellent customer experiences, and cater to the modern lifestyle. In addition, SIAM KUBOTA is going to launch two new regional parts distribution centers in Nakhon Ratchasima and Chachoengsao to ensure faster delivery and provide assurance to customers that they will get authentic parts.
To further advance its farmer assistance efforts, SIAM KUBOTA will also continue with the second phase of its “KUBOTA And Farmer Cooperation” (KFC) Project, which will see an even larger number of model communities for collaborative machinery management participating compared to the first phase, which was joined by 124 community enterprises across 48 provinces. This project will also seek to enhance their capabilities in other areas so as to strengthen their enterprises, in line with one of SIAM KUBOTA’s aspirations to contribute to the sustainable growth of Thailand’s agricultural sector.