ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า การดําเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Business Sustainability) ถือเป็นประเด็นที่ทุกภาคส่วนให้ความสําคัญมากขึ้นเป็นลําดับโดยเฉพาะในเวทีระดับ นานาชาติในส่วนของภาคธุรกิจประกันภัยนั้น องค์การสหประชาชาติได้ร่วมกับธุรกิจประกันภัยจัดทําหลักการ ประกันภัยที่ยั่งยืน หรือ Principles for Sustainable Insurance มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 เพื่อกําหนดกรอบการดําเนิน ธุรกิจประกันภัยในระดับนานาชาติ ในการบริหารจัดการความเสี่ยงและแสวงหาโอกาสในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ESG
สําหรับภาคธุรกิจประกันภัยไทยนั้น สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้บรรจุ เรื่อง ESG ไว้ในแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 4 ซึ่งครอบคลุมการดําเนินการของสํานักงาน คปภ. ในช่วงปี 2564 -2568 โดย มุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจประกันภัยมีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ในขณะที่สมาคมประกันวินาศภัย ไทยได้มีการกําหนดวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์และแผนการดําเนินงานที่สอดคล้องกัน คือ การกําหนดวิสัยทัศน์ให้ สมาคมประกันวินาศภัยไทยเป็นองค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ธุรกิจประกันวินาศภัยเป็นเสาหลักของระบบ เศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน และการกําหนดพันธกิจของสมาคมฯ ในการส่งเสริมให้ธุรกิจประกัน วินาศภัยมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ธุรกิจประกันวินาศภัยถือเป็นธุรกิจที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดการณ์ได้ยากของ ระบบนิเวศประกันภัย เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด พฤติกรรมและความคาดหวังของผู้บริโภคที่ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศซึ่งก่อให้เกิดภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงการเกิดขึ้นของความเสี่ยงอุบัติใหม่ที่ยากต่อการบริหารจัดการก่อให้เกิดความท้าทายในการดําเนินธุรกิจให้ เติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้นเป็นลําดับ
ด้วยเหตุนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจและวิชาการประกันภัย จึงได้จัด สัมมนาการประกันภัยครั้งที่ 28 ขึ้น ภายใต้แนวคิด “Sustainable Insurance for Sustainable and Resilient Economy” เพื่อเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจประกันวินาศภัยในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใน โลกอนาคต และสามารถทำหน้าที่เป็นผู้บริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับทุกภาคส่วนได้อย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเปี่ยมด้วยความรู้และประสบการณ์ใน 3 เสาหลักของความยั่งยืน ได้แก่ 1) การพิทักษ์ สิ่งแวดล้อม 2) การดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคม และ 3) ธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ (Environment, Social, and Governance: ESG) มาเติมเต็มแนวคิด ESG และแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย
ดร.เสรี นนทสูติ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐและกรรมการ สหประชาชาติว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Navigating Human Capital and Culture Transformation for ESG-Driven Society”
ดร.ศรายุธ แสงจันทร์ กรรมการผู้จัดการกลุ่ม Health Products and Sustainability บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด บรรยายพิเศษ หัวข้อ “Lead – Adapt – Change” Sustainability in Action
นางบุญรักษ์ อุดมอิทธิพงศ์ รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคล บรรยายพิเศษ หัวข้อ “Social Bank” Making Positive Impact on Society
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ที่ปรึกษามูลนิธิรากแก้ว คณะกรรมการบริหาร เครือโรงพยาบาลบางปะกอก-ปิยะเวท อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บรรยาย พิเศษ หัวข้อ “Social Enterprise” Doing Good and Doing Well
“การสัมมนาในครั้งนี้สมาคมฯ ชูแนวคิดเรื่อง ESG ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและ ได้รับความสนใจจากบริษัทสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นหนึ่งในภารกิจสําคัญ ที่สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้ยึดถือและปฏิบัติต่อเนื่องมาตลอดระยะเวลากว่า 56 ปีของการก่อตั้งสมาคมฯ ใน การจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจประกันภัย ซึ่งมีส่วนช่วยจุดประกายความคิดและมุมมองที่เป็นประโยชน์ ต่อผู้บริหารของภาคธุรกิจประกันภัย และเป็นเวทีในการพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประสบการณ์พร้อมพัฒนาแนวทางในการ ดำเนินการด้าน ESG เพื่อเสริมความเข้มแข็งและขีดความสามารถของธุรกิจประกันวินาศภัยในการทําหน้าที่เป็น ผู้บริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐและเอกชนแบบมืออาชีพต่อไป”
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจประกันภัยอย่างยั่งยืน จึงมุ่งเน้น พัฒนาแนวทางในการดําเนินการด้าน ESG ให้บริษัทประกันวินาศภัยมีการบริหารจัดการความเสี่ยงแบบองค์รวม มี การกำกับดูแลกิจการที่ดี คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้านในระยะยาว พร้อมทำหน้าที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของ ระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวทิ้งท้าย