“สติวเดนท์ แคร์” ผนึกกำลังกองทุนร่วมลงทุน SMEs ยกระดับการศึกษาไทยด้วยเทคโนโลยี AI สุดล้ำ หวังสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภาคการศึกษา พร้อมขยายบริการสู่ระดับนานาชาติ

0
30


บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 1) บริหารงานโดย บริษัท เอสเอสพีพี แคปิตอลส์ จำกัด และได้รับการสนับสนุนจาก SME D BANK รวมถึง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะทรัสตี โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของสถานศึกษา ครู และผู้ปกครองในยุคดิจิทัล

พิธีลงนามจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น โดยมี นายสมพร ภู่กิตติวรางกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด และ นายธันยบูรณ์ ธรรมสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสเอสพีพี แคปิตอลส์ จำกัด เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SME D BANK ร่วมเป็นสักขีพยาน

เป้าหมายความร่วมมือ
การลงนามในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาในประเทศไทยให้ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล ด้วยแพลตฟอร์ม Student Care ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของครู นักเรียน และผู้ปกครอง ครอบคลุมทั้งการบริหารจัดการสถานศึกษา การติดตามพฤติกรรมของนักเรียน ไปจนถึงการส่งเสริมศักยภาพผ่านระบบ AI อัจฉริยะที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างโซลูชันที่เหมาะสมในทุกมิติ

นายพิชิต มิทราวงศ์ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า
“ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพด้านการศึกษาในประเทศไทย บริษัท สติวเดนท์ แคร์ จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มบริหารจัดการโรงเรียนและการดูแลช่วยเหลือนักเรียน แบรนด์ Student Care มีจุดเด่นคือเป็นระบบที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจความต้องการของโรงเรียนและผู้ปกครองอย่างแท้จริง”


นายพิชิต กล่าวต่อว่า “การร่วมลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสามารถของ Student Care ในการพัฒนาระบบที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยส่งเสริมให้บริษัทสามารถตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในวงการการศึกษาในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ การสนับสนุนจากกองทุน SMEs จะช่วยขยายตลาดให้กว้างขึ้น และช่วยให้กิจการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้บริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้ในอนาคต ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า”
“Student Care ไม่ได้เป็นเพียงระบบบริหารจัดการงานโรงเรียน แต่ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ทางการศึกษาทั้งในด้านการเรียน การดูแลนักเรียน และการเชื่อมโยงระหว่างครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียน และสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระบบการศึกษาไทย”

ความโดดเด่นของ Student Care
ทางด้าน นายสมพร ภู่กิตติวรางกูร ได้เปิดเผยว่า บริษัท สติวเดนท์ แคร์ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Student Care และแอปพลิเคชัน Student Messenger ซึ่งเป็นระบบที่เน้นการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การติดตามพฤติกรรม หรือสุขภาพจิต พร้อมด้วยระบบ AI อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้แบบเรียลไทม์
“แพลตฟอร์มของเราไม่ได้มุ่งหวังแค่การแก้ปัญหา แต่เรามุ่งเน้นการป้องกันและเสริมสร้างศักยภาพให้นักเรียนในทุกด้าน เราเชื่อว่าการสนับสนุนนักเรียนตั้งแต่ในห้องเรียนไปจนถึงชีวิตประจำวัน จะช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างมั่นคงและพร้อมรับมือกับอนาคต”
นอกจากนี้ นายสมพรยังเสริมว่า การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทในการขยายบริการไปยังกลุ่มโรงเรียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นการให้บริการที่มีมาตรฐานระดับสากล
สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงการศึกษา
ความร่วมมือระหว่าง สติวเดนท์ แคร์ และกองทุนร่วมลงทุนในครั้งนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในวงการการศึกษาไทย และผลักดันการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกมิติ
“เราขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยผลักดันการศึกษาไทยให้ก้าวไกลไปพร้อมกับโลกยุคใหม่” นายสมพรกล่าวปิดท้าย