วิริยะประกันภัยสางปัญหายอดเคลมประกันภัยโควิดล้นทะลัก สั่งศูนย์ปฎิบัติการสินไหมทดแทนที่ตั้งอยู่ทุกทิศทั่วไทย เพิ่มขีดความสามารถในการจ่ายสินไหมทดแทนประกันภัยโควิดให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยการขยายกำลังเจ้าหน้าที่และจัดพื้นที่เฉพาะขึ้นมารองรับเป็นการเฉพาะ เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความสะดวก รวดเร็ว เข้าใจ และจ่ายจบภายใน 15 วัน เผยกลุ่มผู้เอาประกันที่ยื่นสินไหมผ่านระบบออนไลน์ไปแล้ว สามารถติดตามเรื่องเดิมที่ศูนย์สินไหมฯใกล้บ้านได้เช่นกัน
นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 2 หมื่นคนต่อวัน จึงย่อมส่งผลให้ปริมาณเรื่องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยที่ซื้อความคุ้มครองประกันภัยสุขภาพและประกันภัยโควิด “เจอ จ่าย จบ” พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะวิริยะประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทที่ผู้บริโภคได้ให้ความไว้วางใจซื้อความคุ้มครองไว้เป็นจำนวนมาก มีปริมาณเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเฉลี่ยวันล่ะกว่า 1,000 คน และบริษัทได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทต้องขอยอมรับว่าในระยะแรกของการให้บริการสินไหมทดแทนประกันภัยโควิด โดยเฉพาะจากกรมธรรม์ประกันภัยประเภท “เจอ จ่าย จบ” ด้วยระบบและขั้นตอนงานที่วางไว้ในขณะนั้น บริษัทฯ มั่นใจว่ามีความสมบูรณ์แบบ สะดวกรวดเร็วแน่นอน แต่เมื่อต้องเจอกับปริมาณการเรียกร้องค่าสินไหมที่คาดไม่ถึงว่าจะมีจำนวนมาก จนส่งผลต่อระบบการบริการที่วางไว้ อาทิ ระบบออนไลน์ล่ม การเกิดภาวะคอขวดของการเบิกสินไหมทดแทน เพราะผู้เอาประกันภัยมีความเชื่อว่า มายื่นเอกสารโดยตรงที่สำนักงานใหญ่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนที่รวดเร็วกว่า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ย่อมทำให้ ผู้เอาประกันภัยบางรายอาจไม่ได้รับความสะดวกและเกิดปัญหาความล่าช้า ซึ่งบริษัทฯ ต้องขออภัยมาในโอกาสนี้ที่ไม่สามารถบริการให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดได้
นายสยมเปิดเผยต่อไปอีกว่า ปัญหาการให้บริการสินไหมที่เป็นไปทั้งธุรกิจนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานคปภ.และสมาคมประกันวินาศภัยต่างได้ร่วมกันหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นการออก 3 มาตรการเร่งด่วนเฉพาะกิจเพื่อให้ผู้เอาประกันภัยได้รับความคุ้มครองอย่างสะดวกรวดเร็ว เช่นเดียวกับวิริยะประกันภัยได้มีการปรับปรุงกระบวนการให้บริการ ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เป็นจริงอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการบริการให้เท่าทันกับปริมาณความต้องการที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มขีดความสามารถของศูนย์ปฎิบัติการสินไหมทดแทนที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศ ทั้งได้ขยายอัตราเจ้าหน้าที่และจัดพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับการบริการสินไหมทดแทนประกันภัยโควิดเป็นการเฉพาะ และนำโมเดลการจ่ายสินไหมทดแทนของประกันภัยรถยนต์มาใช้ กล่าวคือไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าซื้อประกันจากช่องทางไหน อยู่ภูมิลำเนาใด ผู้เอาประกันภัย ณ เวลานั้นสะดวกจะเบิกที่ศูนย์ปฎิบัติสินไหมทดแทนที่ตั้งอยู่พื้นที่ไหนที่ใกล้สุดหรือสะดวกสุด ก็สามารถไปยื่นเรื่องหลักฐานเบิกค่าสินไหมทดแทนและสามารถรับค่าสินไหมทดแทนได้ที่นั้นทันทีหรือจะให้โอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ หรือกล่าวได้ง่ายๆว่าผู้เอาประกันภัยสามารถกำหนดได้เองว่าจะไปยื่นหลักฐานเพื่อเบิกค่าสินไหมที่ศูนย์ฯ ไหน และจะประสงค์รับค่าสินไหมที่ศูนย์ฯ ใดได้ตามใจชอบ
“บริษัทเชื่อว่าการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการครั้งนี้ ทำให้ผู้เอาประกันภัยได้รับค่าสินไหมทดแทนที่รวดขึ้นกว่าเดิมและไม่เกิน 15 วันตามกติกาที่กำหนดกันไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการครั้งนี้มิได้จำเพาะเจาะจงผู้เอาประกันภัยที่ประสงค์ขอเบิกค่าสินไหมทดแทนรายใหม่เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงผู้ที่ได้ยื่นเรื่องไว้แล้ว โดยเฉพาะผู้เอาประกันภัยที่ยื่นผ่านระบบออนไลน์ และอยู่ในระหว่างรอคอยมีความประสงค์จะตรวจสอบความคืบหน้า ก็สามารถติดต่อศูนย์สินไหมทดแทนที่ อยู่ใกล้บ้านท่านได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามประเมินผลแบบเรียลไทม์ เพื่อที่จะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นอีก ได้อย่างทันท่วงที” นายสยมกล่าวในที่สุด