ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจที่อยู่อาศัยโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือยังขยายตัวต่อเนื่อง ชี้แผนบูรณาการด้านคมนาคมบวกการเกิดใหม่ของเมกกะโปรเจค ยังเป็นตัวกระตุ้นหลักของกลุ่มกำลังซื้อ real demand ที่เน้นความคุ้มค่าคู่ทำเลทอง -เตรียมพร้อมรับมือ COVID-19 เสริมความมั่นใจลูกค้า-

0
1607

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ คาดหลังเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีแดงเต็มระบบ ทำเลย่านรังสิต-ปทุมธานีจะเนื้อหอมยิ่งขึ้น หลังผู้ประกอบการทั้งในพื้นที่และแบรนด์ยักษ์ใหญ่รุกปักหมุดพัฒนาโครงการตอบกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นจากอานิสงส์ของระบบบูรณาการด้านการพัฒนาเครือข่ายคมนาคมของรัฐ และการอัดเม็ดเงินผุดโปรเจคยักษ์ใหญ่ของเอกชนดูดกำลังซื้อใหม่ๆ สู่ตลาด 

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี’ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ ย่านรังสิต-ปทุมธานี ได้รับการพัฒนาจากทั้งภาครัฐและเอกชนจนเปลี่ยนไปจากอดีตแบบพลิกฝ่ามือ และเอื้อต่อการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ครบครันทั้งด้านเครือข่ายคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ สิ่งที่น่าจับตาคือการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบไร้รอยต่อ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เมื่อกลางธันวาคมที่ผ่านมาที่สามารถเดินทางเข้าสู่ CBD ได้อย่างสะดวก และการวางแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ในเดือนมกราคม 2564 รวมถึงทางยกระดับลอยฟ้ารังสิต- องครักษ์เชื่อมทางด่วนศรีรัชและอุดรรัถยาที่อยู่ระหว่างขอ EIA นั้น จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นหลักให้ทั้งกลุ่มลูกค้าในพื้นที่และต่างพื้นที่หันมาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวมากขึ้นกว่าเดิม 

  “บริษัทฯ ยังคงสานต่อแผนการพัฒนาโครงการในย่านรังสิต-ปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นจากปัจจุบันที่โครงการของเราในย่านนี้ได้รับการตอบรับ​           อย่างดี 

โครงการที่มีทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต (สถานีหลักหก) ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในเรื่องการเดินทางคมนาคม อย่างโครงการ ไลโอ บลิสซ์ รังสิต-บางพูน ทาวน์โฮมไซส์ใหญ่ 4ห้องนอน 2ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 1.89-2.59 ล้านบาท ที่สามารถเชื่อมส่วนต่างๆ เพื่อให้เข้าตัวสู่เมืองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังห่างจากทางพิเศษอุดรรัถยา (สายบางปะอิน–ปากเกร็ด) และ ใกล้จุดขึ้นทางยกระดับอุตราภิมุข(ดอนเมือง-โทลเวย์) เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น โดยยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อย่าง​         ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หรือแหล่งชุมชนอย่าง ตลาดรังสิต ที่จะอำนวยความสะดวกในเรื่องการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันอีกด้วย

         และโครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) ที่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สะพานใหม่-ลำลูกกา) อย่าง ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป วงแหวนฯ-ลำลูกกา คลอง 6 บ้านเดี่ยวโครงการใหม่  4ห้องนอน  3ที่จอดรถ ที่มาพร้อมคลับเฮ้าส์ส่วนตัว พร้อมพื้นที่ใช้สอยอย่างครบครัน ราคาเริ่มต้น 2.9-4 ล้านบาท 

        และทาวน์โฮมคุณภาพ อย่าง ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ วงแหวนฯ-ลำลูกกา คลอง 6 ที่มีพื้นที่ใช้สอย 4ห้องนอน 2 ที่จอดรถ โดยห้องอเนกประสงค์ด้านล่างสามารถปรับฟังก์ชั่นให้ Work from Home ได้อย่างอิสระ ซึ่งมีราคาเริ่มต้น 1.79-2 ล้านบาท เรียกว่าศักยภาพในเรื่องทำเลยังโอบล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง แฟชั่นไอส์แลนด์ หรือในเรื่องการเดินทางยังสามารถเชื่อมต่อถนนวงแหวนตะวันออก ได้อย่างสะดวกสบาย

        โดยกำลังซื้อหลักในย่านนี้กลุ่มหลักยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหาบ้านหลังแรก เป็นกลุ่มผู้ที่ทำงานข้าราชการ องค์กรเอกชน รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจค้าขายในพื้นที่ใกล้เคียง นาย​           ชูรัชฏ์ ชาครกุล กล่าวเพิ่มเติม 

       ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คุ้มค่า ในทำเลที่สะดวก รายล้อมด้วยสาธารณูปโภคที่จำเป็น เอื้อต่อการอยู่อาศัยจริง ทั้งแบบบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยมุ่งให้ความสำคัญด้านฟังก์ชั่นภายในบ้านที่เหมาะสมต่อความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ “ทีมพัฒนาธุรกิจของเราทำการสำรวจความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าอยู่เสมอ และนำข้อมูลที่ได้มาสร้างเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ทำให้เรามีทางเลือกที่เหมาะสมกับทุกความต้องการที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน” นาย​        ชูรัชฏ์ ชาครกุลกล่าวเสริม “สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าราคาคือความสะดวกสบายของความเป็นคอมมูนิตี้คุณภาพ ตั้งอยู่ในแหล่งที่ครบครันทั้งสถานศึกษา โรงพยาบาล แหล่งสันทนาการของครอบครัว เพราะเราเชื่อว่า ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้คือหนึ่งหัวใจสำคัญของการอยู่อาศัยได้ในระยะยาว”

        ทั้งนี้จากการระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้เพิ่มมาตรการลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ สำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะเข้าชมเยี่ยมโครงการ สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.lalinproperty.com ได้อีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลตอบคำถามลูกค้าได้เสมือนไปเยี่ยมชมโครงการด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยี Virtual Reality (VR360) หรือเทคโนโลยีภาพจำลองเสมือนจริง ที่สามารถสร้างประสบการณ์สมจริงเสมือนอยู่ในเหตุการณ์มาถ่ายทอดทุกมุมมองทั้ง interior และ exterior ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตในบ้านของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้อีกด้วย 

        อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ลูกค้ากว่า 90% ต้องการทราบ ณ เวลาที่กำลังเลือกซื้อบ้านคือ การประเมินศักยภาพการผ่อนชำระของตนเอง ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้พัฒนาระบบผู้ช่วยส่วนตัวในการคำนวนสินเชื่อเบื้องต้น เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อบ้านได้แบบ one stop service ทำให้ประหยัดเวลาและสามารถเปรียบเทียบข้อเสนอได้แบบ real time” นายชูรัชฏ์ ชาครกุล อธิบายเพิ่มเติม

      นอกจากนี้ยังได้จัดเวรเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและสำนักงานขายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการเข้าเยี่ยมชมหรือรับมอบบ้านจากบริษัท “เรากำหนดขั้นตอนการคัดกรองผู้เข้ามาติดต่อในโครงการ ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิและจัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้ในทุกจุดที่ต้องมีการสัมผัส พนักงานทุกคนของเราจะสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือก่อนให้บริการแก่ลูกค้าทุกครั้ง เพราะเราเล็งเห็นว่าความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าคือภารกิจหลักของเรา”