นายโกศล โควิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปี และมีสาขามากที่สุดในประเทศ ภายใต้สโลแกน “สร้างบ้านด้วยสมอง” เปิดเผยว่า ตลาดกลุ่ม New Gen หรือผู้บริโภคอายุราว 25-39 ปี ยังคงเป็นตลาดใหม่ที่รอแยลเฮ้าส์ให้ความสำคัญ เนื่องจากตลาดกลุ่มดังกล่าว เป็นตลาดที่ยังไม่มีบริษัทรับสร้างบ้านรายใดเข้าไปครองใจ หากบริษัทสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) และสร้างการจดจำแบรนด์ (Brand Recognition) เข้าไปครองใจตลาดกลุ่มนี้ได้ก่อนเป็นรายแรก จะเป็นการขยายฐานลูกค้าที่ช่วยให้บริษัทเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน และแตกต่างจากภาพรวมผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่แข่งขันกันสูงในตลาดรับสร้างบ้านสำหรับผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
“ตลาด New Gen อาจไม่ใช่ตลาดที่สร้างยอดขาย หรือมีสัดส่วนที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจรับสร้างบ้านมากนักในระยะสั้น แต่ตลาด New Gen คือตลาดแห่งอนาคต คนกลุ่มนี้จะเปลี่ยนสถานะจากเพียงแค่ผู้สนใจ กลายเป็นกำลังซื้อคุณภาพในระยะยาว เป็นตลาดที่เราสามารถเติบโตไปพร้อมกัน” นายโกศล กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการขยายฐานลูกค้าและสร้างความยั่งยืนพร้อมรับมือทุกสภาวะเศรษฐกิจ บริษัทจึงได้มีกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1.ผลิต Social Content สร้างสื่อการตลาดสมัยใหม่โดย New Gen เพื่อให้เข้าใจและเข้าถึง New Gen เผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) สร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ปัจจุบันมีผู้สนใจ Viral Clip ของรอแยลเฮ้าส์จำนวนมาก 2.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย (Waste) ในขั้นตอนต่างๆ ของกระบวนการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้เกิดกระบวนการสร้างบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เริ่มต้นจากการเลือกใช้ใช้วัสดุที่เป็น Green Product อาทิ Easy Truss การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก CPAC ในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ ล่าสุด บริษัทยังได้รับรางวัลสร้างบ้าน สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2019 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บริษัทที่ใส่ใจในการแก้ปัญหามลภาวะที่เกิดจากการก่อสร้าง
3.การออกแบบให้โดนใจ New Gen ที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาแบบบ้านหลายแบบให้โดนใจ New Gen อาทิ แบบบ้านสไตล์ Modern Tropical แบบบ้านสไตล์ Modern Japanese แบบบ้าน Modern Loft ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในงานรับสร้างบ้าน Focus 2020 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 7 เมืองทองธานี วันที่ 12-15 มี.ค.นี้ บริษัทยังเตรียมเปิดตัวแบบบ้านใหม่ต่อยอดฐานลูกค้า New Gen อย่างต่อเนื่อง คือ แบบบ้าน โมเดิร์น มินิมอลิสต์ (Modern Minimalist) จำนวน 4 แบบ ตั้งแต่รหัส RH-MD 2171 จนถึง RH-MD 2174 โดยแบบบ้านทั้ง 4 แบบคำนึงถึงความเรียบง่าย ลดทอนหรือทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นภายในบ้านลง ให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นที่เป็น ประโยชน์จริงๆ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 136-423 ตร.ม. ในราคาเพียง 3-5 ล้านบาท สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ 4.รักษาฐานลูกค้าเดิม นำแบบบ้านของบริษัทซึ่งประกอบด้วยแบบบ้านหลากสไตล์รวมกว่า 150 แบบ เดินหน้ารักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป เพื่อให้รอแยลเฮ้าส์เติบโตไปได้พร้อมกับทุกกลุ่ม ทุกเจเนอเรชั่น โดยในปีนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าออกบูธทั้งในนามส่วนตัวและร่วมกับงานมหกรรมสำคัญต่างๆ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ ชลบุรี นครราชสีมา อุบลราชธานี เพื่อให้ผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน สามารถเข้าถึงรอแยลเฮ้าส์ได้ง่ายขึ้น
สำหรับงานรับสร้างบ้าน Focus 2020 บริษัทได้จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ มอบทองคำสูงสุด 3 บาทแก่ผู้ตัดสินใจสร้างบ้านในงาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.royalhouse.co.th สอบถามข้อมูลโทร 02-459-4646
นายโกศล กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2562 บริษัทมียอดขายทั้งสิ้น 900 ล้านบาท สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2562 ที่มีการปรับฐาน หลังจากที่ปี 2561 ทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจมีการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าปกติ ในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม เนื่องจากในปี 2563 ยังมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกหลายประการที่อาจกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค อาทิ ไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งระบบ
อย่างไรก็ดี จากการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทตัดสินใจสร้างบ้านด้วยเงินสด คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงประมาณ 77% สะท้อนว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีเงินเก็บและเงินทุนสำรองอยู่แล้ว ประกอบกับบริษัทมีผลงานสร้างบ้านคุณภาพทั้งเพื่อคน รุ่นใหม่และคนรุ่นเดิมเป็นที่ประจักษ์มาแล้วจำนวนมาก อาทิ การสร้างบ้านและคลินิกหรูให้แก่ หมอสอง-นพ.นพรัตน์ รัตนวราห การสร้างบ้านให้แก่ศิลปิน เอก-สุดเขต จึงเจริญ นักร้องนำวง Season Five จึงเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ต่างๆ จะไม่กระทบต่อธุรกิจมากนัก
บริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านมานานกว่า 30 ปี ภายใต้สโลแกน “สร้างบ้านด้วยสมอง” มีสาขาอยู่ทั่วประเทศแล้วมากกว่า 12 สาขา สร้างบ้านมาแล้วมากกว่า 5,000 หลัง ปัจจุบันดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านครอบคลุมหลายเซ็กเมนท์ ตั้งแต่ระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ระดับ 5-10 ล้านบาท ระดับ 10-20 ล้านบาท และระดับมากกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมไปถึงระดับมากกว่า 100 ล้านบาท