รพ. พญาไท นวมินทร์ จับมือ มหาวิทยาลัยเกริก ร่วมลงนาม MOU ด้านวิชาการ ยกระดับการดูแลผู้ป่วยชาวไทยมุสลิมและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง

0
509

“ก้าวสู่ปีที่ 29 ของการก่อตั้ง โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ที่เราได้อยู่เคียงข้างดูแลรักษาผู้ป่วยมากว่า 3 ทศวรรษ ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดพัฒนาเพื่อจะเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพด้วยบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกระดับบริการของเราอีกขั้นสู่การเปิดตัวโครงการร่วมมือในด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็น Halal Healthcare provider”

นายแพทย์จุมพล สิงห์หิรัญนุสรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ได้กล่าวถึงที่มาของโครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกริก ว่าปัจจุบันโรงพยาบาลมีกลุ่มผู้รับบริการมุสลิมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจเข้ารับบริการรักษาอย่างต่อเนื่องโดยมีสถิติจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ในฐานะโรงพยาบาลที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้รับบริการ จึงมุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์การรักษาที่ตอบโจทย์ความต้องการ เพราะเราไม่ได้อยากทำการรักษาเพียงเพื่อให้คนไข้หายป่วยเท่านั้น แต่เราให้ความสำคัญกับการเป็นโรงพยาบาลที่เข้าถึงความต้องการผู้รับบริการในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย จึงได้จัดทำโครงการความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกริก ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำในประเทศไทยที่มีวิทยาลัยนานาชาติอิสลามกรุงเทพ และมีความพร้อมของศูนย์ภาษาอาหรับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านองค์ความรู้ Halal Healthcare provider ทั้งด้านภาษา หลักศาสนาและวัฒนธรรม อันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการให้บริการ ภายใต้หลักคุณธรรมในการดูแลผู้รับบริการชาวไทยมุสลิม
นายแพทย์จุมพล กล่าวต่อว่า “โรงพยาบาลฯ มองว่าการเข้าถึงและสามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการจะสร้างประสบการณ์ที่ดีของการรักษาเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้รับบริการได้ตามเป้าหมายสำคัญที่ต้องการให้โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ มีบทบาทการเป็นโรงพยาบาลเพื่อผู้รับบริการอย่างแท้จริงเพื่อดูแลสุขภาพของผู้คนโดยรอบชุมชนพื้นที่ จึงได้ขยายขอบข่ายการดูแลสุขภาพผู้รับบริการ ผ่านโครงการอบรมองค์ความรู้ด้านภาษา หลักศาสนาและวัฒนธรรม อิสลาม แลกเปลี่ยนนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์และสถานที่ เพื่อการเข้าใจถึงวัฒนธรรมอิสลามร่วมกับมหาวิทยาลัยเกริก โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ในการบริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงและสามารถเข้าถึงได้ง่าย อันเกิดจากความเข้าใจและใส่ใจรายละเอียดผู้รับบริการของเรา”

พญ.พรนภา แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ กล่าวว่าในวันนี้โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ เราพัฒนาคุณภาพการรักษาผ่านการปรับพัฒนาศักยภาพการบริการในมิติต่างๆ ด้วยรูปแบบการบริหารจัดงาน อาทิ ระบบงานฝ่ายการพยาบาลเพื่อการปฏิบัติงานในทุกด้านให้มีความเข้มแข็ง พร้อมยกระดับการรักษาทั้งนวัตกรรมทางการแพทย์ ระบบการจัดการคุณภาพเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความเชื่อมั่นเพื่อคุณภาพชีวิตหลังการรักษาที่ดีของผู้ป่วย ที่มีความพร้อมรองรับด้วยศูนย์การแพทย์เฉพาะทางซึ่งพร้อมให้การรักษาที่หลากหลาย ทั้งศูนย์มะเร็ง ศูนย์หัวใจ ศูนย์ระบบประสาทและสมอง ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการ และศูนย์กุมารเวช 24 ชั่วโมง ซึ่งโรงพยาบาลมีทีมแพทย์และบุคลากรสหสาขาผู้ชำนาญการพร้อมให้บริการในทุกด้าน และมุ่งมั่นพัฒนาการตรวจวินิจฉัยและเสริมประสิทธิภาพในการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ อีกทั้งพัฒนาการบริการที่ต้องเข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงเพื่อสร้างความพึงพอใจในผลลัพธ์การรักษาที่ดีแก่ผู้รับบริการภายใต้มาตรฐานเครือ BDMS ที่มีมาตรฐานในระดับสากล
ด้าน ศ.ดร. จรัญ มะลูลีม รองอธิการบดี ฝ่ายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกริก กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนมหาวิทยาลัยเกริก รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณทางโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นให้มหาวิทยาลัย ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการให้บริการที่เข้าถึงกลุ่มผู้ป่วยชาวมุสลิมมากขึ้น เพื่อเป้าหมายร่วมกันคือมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพ การเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง โดยจะนำมาสู่ความเป็นเลิศในการให้ดูแลผู้ป่วยชาวไทยมุสลิมและกลุ่มประเทศตะวันออกกลางขั้นสูงต่อไป

นพ.จุมพล กล่าวปิดท้าย “บนความภาคภูมิใจกว่า 3 ทศวรรษของโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ กับการเพิ่มขีดศักยภาพทางการดูแลรักษาโรคต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการแต่ละบุคคลด้วยความเข้าใจ พร้อมให้ดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันและรักษาฟื้นฟูด้วยการส่งมอบบริการทางการแพทย์ที่เป็นเลิศเพื่อความพึงพอใจเหนือความคาดหมาย อันนำมาสู่การเติบโตทางธุรกิจด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งคือความภาคภูมิใจของโรงพยาบาลที่พร้อมจะมอบประสบการณ์บริการด้านสุขภาพที่ดี ที่ทั้งหมดนี้คือการสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้แก่ผู้รับบริการเพื่อขับเคลื่อนให้องค์กรพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป”