นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี รู้สึกห่วงใยในสถานการณ์การแพร่
1.) ห้องตรวจและคัดกรองผู้ที่มี
2.) ชุดอุปกรณ์ติดตามสุขภาพทางไกล (Tele-Monitoring) ที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Internet of things (IoT) โดย Living Solution ของเอสซีจี ช่วยติดตามข้อมูลสุขภาพผ่
3.) ห้องน้ำสำเร็จรูป (Modular Bathroom) โครงสร้างผลิตจากคอนกรี
4.) CT Scan ที่ช่วยตรวจและคัดกรองผู้ที่มี
5.) อุปกรณ์ทางการแพทย์ป้องกั
1. แคปซูลความดันลบสำหรับเคลื่อนย้
2. ห้องตรวจเชื้อความดันลบแบบเคลื่
3. กล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย (Aerosol Box) ช่วยในปฏิบัติการใส่ท่อช่
นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ในเอสซีจี ยังสนับสนุ
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี รู้สึกห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ “ช่วยกันแคร์ดูแลกัน” ให้ประเทศไทยพ้นภัยครั้งนี้ ด้วยการมอบนวัตกรรมป้องกันโควิด-19 ให้โรงพยาบาล 7 แห่ง เพื่อตอบโจทย์การยกระดับความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ใกล้ชิด ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทของ มูลนิธิเอสซีจี โดยประกอบด้วย
1.) ห้องตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง (Modular Screening & Swab Unit) ซึ่งมีระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม จึงช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับการตรวจ โดยใช้เวลาในการติดตั้งที่หน้างานเพียง 3 วัน ด้วยนวัตกรรมของ SCG HEIM และ Living Solution ของเอสซีจี จำนวน 12 ยูนิต รวมมูลค่า 27 ล้านบาท
2.) ชุดอุปกรณ์ติดตามสุขภาพทางไกล (Tele-Monitoring) ที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี Internet of things (IoT) โดย Living Solution ของเอสซีจี ช่วยติดตามข้อมูลสุขภาพผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเก็บตัว จึงช่วยลดการสัมผัสของบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วยได้ จำนวน 70 ชุด รวมมูลค่า 2 ล้านบาท
3.) ห้องน้ำสำเร็จรูป (Modular Bathroom) โครงสร้างผลิตจากคอนกรีตเบาแบบเบ็ดเสร็จพร้อมใช้งานจากโรงงานทำความสะอาดฆ่าเชื้อง่ายจึงช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดี โดยจัดวางแยกพื้นที่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง จำนวน 28 ห้อง รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
4.) CT Scan ที่ช่วยตรวจและคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว จำนวน 1 เครื่อง มูลค่า 15 ล้านบาท
5.) อุปกรณ์ทางการแพทย์ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ได้แก่
1. แคปซูลความดันลบสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อ (Isolation Capsule) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย จำนวน 20 ยูนิต รวมมูลค่า 4 ล้านบาท
2. ห้องตรวจเชื้อความดันลบแบบเคลื่อนที่ (Isolation Chamber) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคระหว่างการตรวจสอบเชื้อ จำนวน 5 ยูนิต (ยูนิตละ 3 ห้อง) รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
3. กล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย (Aerosol Box) ช่วยในปฏิบัติการใส่ท่อช่วยหายใจ ผลิตจากแผ่นอะคริลิกชนิดใส จำนวน 200 ชิ้น รวมมูลค่า 3 แสนบาท
นอกจากนี้ ธุรกิจต่าง ๆ ในเอสซีจี ยังสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้ภาคส่วนต่าง ๆ เพิ่มเติม อาทิ เอสซีจี โลจิสติกส์ สนับสนุนการขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นและมูลนิธิต่าง ๆ การมอบบรรจุภัณฑ์ Fest ให้โรงพยาบาลรัฐฯ และมอบเจลล้างมือให้ กทม. เพื่อส่งต่อให้กับชุมชนแออัดและพนักงานกวาดถนน รวมทั้งเชิญชวนพนักงานจิตอาสา ทำอุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตาจากสารคัดหลั่ง (Face Shield) เพื่อส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องการใช้งาน และร่วมเย็บหน้ากากผ้า ลดการใช้หน้ากากอนามัย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีหน้ากากใช้งานอย่างเพียงพอ พร้อมร่วมแบ่งปันหน้ากากผ้าให้กับผู้ที่ขาดโอกาสด้วย