เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE หรือ TO BE NUMBER ONE IDOL รอบชิงชนะเลิศประจำปี 2567 ณ ศูนย์การค้าเจเจมอลล์ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
การประกวด TO BE NUMBER ONE IDOL รุ่นที่ 14 ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ จำนวน 41 คน ได้เข้าเก็บตัวในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตนเองจากวิทยากรที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เน้นการเรียนรู้ในแนวทางที่สร้างสรรค์ โดยใช้รูปแบบการแข่งกันทำความดี สอดแทรก เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาให้เยาวชนมีภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ มีความภาคภูมิใจในตนเอง มีพฤติกรรมที่มุ่งค้นหาความเป็นหนึ่งของตนเอง ด้วยการแสดงความสามารถที่หลากหลาย เพื่อแสดงให้คนทั่วไปรับรู้ว่าเยาวชน สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นทั้งคนเก่ง และคนดีได้ TO BE NUMBER ONE IDOL ไม่ได้เน้นการสร้างเด็กให้เป็น “ดาราหรือศิลปิน” แต่เป็นการสร้างเด็กคนหนึ่งให้เป็นตัวของตัวเอง เป็นคนเก่งและคนดี ยกระดับความสามารถทั้งด้านการแสดง การเข้าสังคม การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ เป็นการติดอาวุธให้กับเด็กให้มีความพร้อมที่จะก้าวออกมายืนอยู่แถวหน้า เพื่อเป็นต้นแบบและแรงจูงใจให้กับเยาวชนคนอื่นๆได้
โดยในปี 2567 นี้ เยาวชนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้ง 17 คน ได้มาบอกเล่าถึงความประทับใจระหว่างการฝึกฝน เรียนรู้ ทักษะการร้อง การเต้น การแสดง บุคลิกภาพ ทักษะทางอารมณ์ ภายในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL และการขึ้นแสดงโชว์ในแต่ละสัปดาห์เริ่มจาก…
นายวชิรวิทย์ แสงจันดา (นิว) TI 39 จ.ยโสธร ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 1 เล่าว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การเข้าประกวดครั้งนี้ช่วยให้ตนเองได้ประสบการณ์มากมายได้ฝึกฝนพัฒนาในด้านต่างๆมากขึ้น ทั้งการร้อง การเต้น และการได้อยู่ในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้รู้สึกประทับใจที่ได้ร่วมฝึกฝนร่วมกับเพื่อนๆ IDOL ทุกคน ประทับใจในการดูแลเอาใจใส่ของทีมพี่เลี้ยง ครูผู้ฝึกสอน ป้าหม่อมและคณะกรรมการทุกท่านที่ช่วยสอนและแนะนำในเรื่องต่างๆ ตนเองคิดว่าจะนำประสบการณ์ที่ได้จากเวทีนี้ไปต่อยอดพัฒนาเป็นอาชีพในอนาคตได้ รู้สึกประทับใจในทูลกระหม่อมฯที่ได้ก่อตั้งโครงการดีๆแบบนี้มาให้กับเด็กๆทุกคน ให้พวกเราได้มีเวทีในการแสดงออกและเรียนรู้ที่จะพัฒนา ฝึกฝนตนเองให้ดียิ่งขึ้น
นายนิธิโชติ อิ่มแสง (เก้า) TI 36 จ.ตาก ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 2 เล่าว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลที่ 2 จากการประกวดในเวทีนี้ ประสบการณ์ที่ตนได้รับจากบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ช่วยเปลี่ยนจากคนที่เต้นไม่เป็นให้เต้นได้ ร้องได้ดีขึ้น มีคนรู้จักมากขึ้น ทำให้ได้รู้จักเพื่อนทั่วทุกภาคในประเทศไทย และยังได้รับความรู้มากมายจากครูผู้สอนที่มากประสบการณ์ ตนเองจะนำประสบการณ์ที่ได้ไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆและน้องๆที่สนใจ และจะนำความสามารถที่ได้ไปลองหาพัฒนาเป็นอาชีพ อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯถ้าไม่มีท่านคงไม่มีคนเก่งและดีออกมาให้ผู้คนได้เห็นมากขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณท่านที่ก่อตั้งโครงการดีๆแบบนี้ขึ้นมา
นายณัฎฐ์ธเนศ นาดี (โฟล์ค) TI 14 จ.นครราชสีมา ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 3 เล่าว่า ประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกฝนในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ช่วยให้ตนเองเป็นคนที่ตรงต่อเวลามากขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้นและขยันมากขึ้น ตนเองมีความประทับใจคุณครูทุกท่านที่ทุ่มเทให้กับการสอนพวกเราเป็นอย่างมาก ประทับใจในพี่เลี้ยงทุกคนที่ดูแลเอาใจใส่พวกเราเป็นอย่างดี และประทับใจในเพื่อนๆทุกคนที่ผ่านอะไรมาด้วยกันและทุกคนก็เป็นกำลังใจให้กันเป็นอย่างดี ตนเองอยากจะเชิญชวนเพื่อนๆในโรงเรียนให้มาสมัคร TO BE NUMBER ONE IDOL เพราะการที่จะได้มาทำอะไรแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาทำที่ไหนก็ได้ และเชื่อว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ท่านทรงเป็นกันเองกับเด็กๆ และทรงมีพระเมตตากับพวกเราทุกคน
นายอนาวิล แฮร์ริสัน (นาวิน) TI 19 จ.อุดรธานี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 4 เล่าว่า รู้สึกดีใจที่ตนเองได้รับคัดเลือกมาในเวทีนี้ ทำให้ตนเองเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ทั้งการร้อง การเต้น การแสดง มารยาท ทุกอย่าง ตนเองอยากนำประสบการณ์ที่ได้ไปพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นและใช้ประโยชน์ในการทำงานในอนาคต รวมทั้งนำไปใช้กับครอบครัว และรู้จักที่จะเป็นคนดีที่อยู่ร่วมกับคนอื่นๆได้ ความประทับใจในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ที่ได้รับรู้สึกประทับใจกับครูทุกท่านที่สอนให้ตนเองมีความเข้าใจและสามารถทำโชว์ทุกสัปดาห์ให้ออกมาได้ดีที่สุด รู้สึกดีใจที่ตนเองเลือกมาสมัครในโครงการนี้ ถ้าไม่มีโครงการนี้ปิดเทอมตนก็คงไปทำอย่างอื่น ตนรู้สึกโชคดีที่ได้มาเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL
นายศิริชัย คนเพียร (ลีจุน) TI 28 จ.ระยอง ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 5 เล่าว่าตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาตนเองได้รับความรู้มากมายและสามารถนำมาพัฒนาตนเองได้ การได้เป็น TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้เราได้พัฒนาความสามารถ การเข้าสังคม ระเบียบวินัย มีความละเอียดในการใช้ชีวิตมากขึ้น และการได้เป็น 17 คนสุดท้ายถือเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอนาคตของตนเอง ทำให้เรารู้เส้นทางของตัวเอง ต่อจากนี้จะเป็นก้าวแรกและนำไปสู่ความฝันของตัวเองที่ตั้งใจไว้ รู้สึกประทับใจพี่เลี้ยงและป้าหม่อมที่ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่มอบโครงการดีๆแบบนี้มาให้พวกเรา รู้สึกประทับใจในพระองค์ท่านที่เป็นกันเองกับเด็กทุกคน คำแนะนำของพระองค์ท่านทำให้เราสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
นายศตาชิน ศิริสาคร (ชิน) TI 06 จ.จันทบุรี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่าสิ่งแรกที่ทำให้ตนเองรู้สึกเปลี่ยนแปลงคือโจทย์เพลงที่ได้ในแต่ละสัปดาห์ทำให้เรากล้าที่จะลองทำในสิ่งใหม่ ออกจากกรอบความคิดของตนเอง เช่น เพลงลูกทุ่ง ที่ไม่คิดว่าจะทำได้แต่ก็สามารถทำได้สำเร็จ ตนเองรู้สึกประทับใจกับมิตรภาพในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ทุกคนคอยช่วยเหลือกันและให้กำลังใจกันเสมอ ทำให้รู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่บ้านแต่เป็นเหมือนครอบครัวหรือบ้านอีกหลังในชีวิต การได้รับเลือกเป็น 17 คนสุดท้ายนั้นแสดงถึงสิ่งที่สำคัญคือการเป็นแกนนำของแกนนำ ซึ่งตนเองจะนำจุดนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต กล้าที่จะเป็นแบบอย่างในการทำความดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ตนเองอยากจะเป็นต้นแบบที่เก่งและดีให้กับคนรอบตัว อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ให้โอกาสแก่พวกเราและรู้สึกประทับใจที่ท่านเข้าใจเด็กในยุคสมัยใหม่
นายจักรชัย ฮอ (ปั้น) TI 42จ.สุพรรณบุรี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่า มองว่าสิ่งแรกที่บ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ให้คือ ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ความรู้ และความรับผิดชอบ ที่สามารถช่วยให้ตนเองนำไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้และยังช่วยเปลี่ยนแปลงให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น รู้สึกประทับใจในมิตรภาพของเพื่อนๆและครูผู้สอนทุกท่าน คิดว่าประสบการณ์ที่ได้รับจากเวทีนี้จะนำไปใช้ในอนาคตได้ ทั้งเรื่องการร้อง การเต้น การมีความรู้จักรับผิดชอบ ระเบียบวินัยต่างๆ เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ทรงสร้างโครงการ TO BE NUMBER ONE ขึ้นมา ทำให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสแสดงศักยภาพตามที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ และนำไปพัฒนาตนเองต่อไปได้
นายอันเดร กิตติพัจน์ เย็ค (อันเดร) TI 17 จ.ขอนแก่น ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่า การได้เป็น TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้ตนเองได้ฝึกฝนทักษะทั้งการร้อง การเต้น ทักษะทางอารมณ์ บุคลิกภาพและอีกหลายอย่าง จึงอยากใช้ความเป็น TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นกระบอกเสียงถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆรุ่นต่อๆไปว่า คนที่ไม่ค่อยมีทักษะก็สามารถพัฒนาจนได้เป็น 1 ใน 17 คนได้ อยากให้ทุกคนที่ชอบการร้อง การเต้น มาแสดงออกบนเวทีนี้ด้วยกันเพื่อโชว์ศักยภาพของตนเอง สำหรับตนเองการได้เป็น 1 ใน 17 คน ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากแล้ว ตนจะใช้ประสบการณ์จากเวทีนี้เพื่อทำตามความฝันและเป็นศิลปินตามที่ตั้งใจไว้ และสิ่งที่ได้รับจากเวทีนี้อีกอย่างก็คือความประทับใจในมิตรภาพของเพื่อนๆ จากที่ตนเองการร้อง การเต้นไม่ดี ก็มีเพื่อนๆที่คอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้เราไม่ย่อท้อและก้าวผ่านความยากลำบากต่างๆมาได้
นายวีระพงษ์ หนุนฐิติพันธุ์ (อามัส) TI 31 จ.กาฬสินธุ์ ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่า สำหรับตนเองสิ่งแรกที่ได้จากบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL คือ ความรับผิดชอบในหน้าที่ต่างๆ มีตารางเวลาการใช้ชีวิต ความรับผิดชอบต่อบทเพลงที่ได้รับโจทย์ในแต่ละสัปดาห์ ทำให้เข้าใจการทำงาน และรู้จักพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมในด้านต่างๆทั้งการร้อง การเต้น การแสดง เพื่อนำไปใช้ในอนาคต การได้รับเลือกเป็น 17 คนสุดท้ายเป็นสิ่งที่ตนเองรู้สึกภูมิใจมาก และจะนำประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดในระดับมหาวิทยาลัย และนำไปใช้ในชีวิตต่อไปได้ ตนเองยังรู้สึกประทับใจสังคมในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ทั้งป้าหม่อม ครู พี่เลี้ยง และที่สำคัญคือเพื่อนๆที่ช่วยดูแลกันและกัน อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ให้โอกาสเด็กๆ ในโครงการนี้ ทำให้เด็กได้รับความรู้มากมายจากกิจกรรมต่างๆและยังช่วยให้ห่างไกลจากยาเสพติดอีกด้วย
นายพบธรรม ทรัพย์สุพรรณ (ซันวา) TI 07 จ.สุพรรณบุรี ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่า ประสบการณ์จาก TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้ตัวเองเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือความมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา และการมีสมาธิมากขึ้น การที่ตนเองได้รับเลือกเป็น 17 คนสุดท้ายเหมือนเป็นบันไดขั้นแรกของความฝัน เพราะในอนาคตตนเองอยากเป็นศิลปิน การเป็น 1 ใน 17 คนสุดท้ายถือเป็นการเปิดทางให้ตนเองได้เดินตามความฝันและทำในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบ ความประทับใจที่ได้จากบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ตลอด 5 สัปดาห์ ช่วยให้ตนเองพัฒนาขึ้น ทั้งการร้อง การเต้น การแสดง การได้รับคำแนะนำที่ดีๆจากครู ป้าหม่อม ถือเป็นกำลังใจที่ดี ที่ทำให้เราเรียนรู้ที่จะก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้
นายโรจน์ฤทธิ์ นนท์พละ (ตะวัน) TI 01 จ.สกลนคร ผู้ชนะเลิศฝ่ายชายอันดับที่ 6 เล่าว่า การฝึกฝนในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้เรามีความเปลี่ยนแปลงในหลายด้านทั้งความสามารถ ทัศนคติ ความคิด และด้านร่างกาย สิ่งต่างๆเหล่านี้สำหรับตนเองรู้สึกพัฒนาขึ้นมาก จากคนที่ไม่มีพื้นฐานการเต้นเลยก็มีการพัฒนาขึ้น และการได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆทำให้เราได้สังคมเพื่อนที่ยอดเยี่ยม ได้ฝึกการใช้ชีวิต การเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเอง การได้ผ่านมาถึง 17 คนสุดท้ายทำให้ตนเองภาคภูมิใจมาก ตั้งใจที่จะนำสิ่งที่ได้รับในครั้งนี้ไปต่อยอดทำตามความฝันในอนาคตต่อไป และอยากนำประสบการณ์ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนและน้องๆรุ่นต่อไป อยากขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ให้โอกาสและคำแนะนำดีๆแก่พวกเรา
นางสาวชุติกาญจน์ บุญเพ็ง (ป๋องแป้ง) TI 40 จ.นครนายก ผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิงอันดับที่ 1 เล่าว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 การได้เป็น TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้ตนเองกล้าแสดงออกมากขึ้น จากคนที่ไม่กล้าแสดงออกมาก่อน การได้ฝึกฝนพัฒนาทั้งการร้อง การเต้น การแสดง ทำให้เราได้เรียนรู้ และบอกตัวเองว่าต้องขยันมากขึ้นและต้องรู้จักอดทน มีความตั้งใจ มีสมาธิกับสิ่งที่ทำ การเรียนรู้ในบ้าน TO BE NUMBER ONE IDOL ทำให้เราพัฒนาทักษะต่างๆมากขึ้นและสามารถนำไปต่อยอดสอนน้องๆที่โรงเรียน หรือต่อยอดไปเป็นศิลปินในอนาคตได้
นางสาวนันท์ลินี พูลสวัสดิ์ (ใบข้าว) TI 05 จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิงอันดับที่ 2 เล่าว่า รู้สึกดีใจที่ได้เป็น 17 คนสุดท้ายของ TO BE NUMBER ONE IDOL มองว่าการได้มาฝึกฝนทำให้ได้พัฒนาตนเองในหลายๆด้าน ทั้งความสามารถ การมีระเบียบวินัย ซึ่งช่วยขัดเกลาพฤติกรรมให้กับเราได้เป็นอย่างดี มองว่าพวกเราคือเยาวชนต้นแบบเก่งและดี ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆและน้องๆ ควรต้องประพฤติตัวให้เหมาะสมให้สมกับที่เราได้รับคัดเลือกมา รู้สึกประทับใจที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ มองว่าเป็นโครงการที่ทำ