วันที่ 13-14 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จัดกิจกรรมการนำเสนอผลงานจังหวัด อำเภอ และชมรม TO BE NUMBER ONE ระดับภาคใต้ ประจำปี 2567 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินโครงการตามแนวพระดำริขององค์ประธาน โดยพัฒนารูปแบบและเกณฑ์การนำเสนอผลงานกลุ่มประเภทต่าง ๆ รวมทั้งขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุม ทั้งในระดับนโยบาย การบริหารจัดการทั้งในจังหวัด อำเภอ ชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน/ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เรือนจำ/ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติ โดยมีนายธนู ขวัญเดช รองเลขาธิการสภาการศึกษา รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลพระราชทานฯ มีนายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้บริหารกรมสุขภาพจิตร่วมพิธี
นายธนู ขวัญเดช รองเลขาธิการสภาการศึกษา รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหนึ่งในหน่วยงานที่รับผิดชอบกลุ่มเป้าหมายหลัก ในโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้น้อมนำแนวทางการดำเนินงานตามโครงการ TO BE NUMBER ONE กำหนดเป็นนโยบายในการขยายผลสู่ผู้บริหาร ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา ทั้งในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา เพื่อขับเคลื่อนโครงการให้มีความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมอบหมายให้ผู้บริหารสถานศึกษานำนโยบายไปสู่การปฏิบัติและจัดทำแผนปฏิบัติการอำนวยการ กำกับ ติดตามผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของโครงการ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดตั้งชมรม ทุกสถานศึกษาและการสร้างเครือข่ายสมาชิกชมรม TO BE NUMBER ONE ในกลุ่มผู้บริหาร ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง และสถานศึกษา มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมในการสร้างการรับรู้ โดยการประชาสัมพันธ์รณรงค์การปลุกจิตสำนึกในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และสร้างกระแสนิยมตามแนวทางการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ให้กับนักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นอนาคตและกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม มีทักษะชีวิต และภูมิคุ้มกันในการป้องกันยาเสพติด
การประกวดผลงานในครั้งนี้เป็นการแสดงความสำเร็จของการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ตามแนวพระดำริขององค์ประธาน ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ชุมชน และชมรมประเภทต่างๆและยังเป็นเวทีการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของเครือข่ายภาคใต้ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง มีจังหวัดเข้าร่วมนำเสนอผลงานประเภทจังหวัด TO BE NUMBER ONE ครบทั้ง 14 จังหวัด อำเภอและชมรมฯ ประเภทต่างๆทั้งในระดับต้นแบบและดีเด่นเข้าร่วมนำเสนอผลงาน ทั้งสิ้น 296 แห่งโดยประเภทจังหวัดและอำเภอ TO BE NUMBER ONE มีเกณฑ์การพิจารณาตัดสินที่สำคัญคือนโยบาย แผนงาน การบูรณาการงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนกลุ่มปกติและกลุ่มเสี่ยงภายใต้จังหวัดที่เข้มแข็งชัดเจนและการดูแลช่วยเหลือผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ภายใต้โครงการ “ใครติดยายกมือขึ้น”
ส่วนชมรม TO BE NUMBER ONE ซึ่งประกอบด้วย ชมรมฯ ในชุมชนภูมิภาค ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และอาชีวศึกษา-อุดมศึกษา ในสถานประกอบการ ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เรือนจำ/ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติ มีเกณฑ์การพิจารณาคือ มีการดำเนินงานตามองค์ประกอบชมรมฯ 3 ก. ที่ชัดเจน และเข้มแข็งภายใต้แนวทาง “สมาชิกเพื่อสมาชิก” และ “เพื่อนช่วยเพื่อน” เพื่อดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์ตามยุทธศาสตร์โครงการ คือ การรณรงค์ปลุกจิตสำนึกและสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แก่เยาวชน รวมทั้งการสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
นายธนูกล่าวต่อไปว่า ผลงานที่ได้รับรางวัลประเภทจังหวัด ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนราธิวาส ประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ในชุมชนภูมิภาค ได้แก่ ชุมชนบ้านลิพอนเขาล้าน จังหวัดภูเก็ต ชุมชนบางมรา-ตอตั้ง จังหวัดพังงา และชุมชนตำบลคลองท่อมใต้ จังหวัดกระบี่ ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา จังหวัดพังงา และโรงเรียนนราสิกขาลัย จังหวัดนราธิวาส ระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาผดุงประชายะลา จังหวัดยะลา และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในสถานประกอบการ ได้แก่บริษัท พี.เจ. 37 พาราวู้ด จำกัด จังหวัดยะลา และชมรม TO BE NUMBER ONE บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในโอกาสนี้ นายธนูยังได้กล่าวเชิญชวนผู้บริหารและผู้เข้าประกวดทุกคนได้น้อมระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ทรงทุ่มเททรงงานอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีพระปณิธานมุ่งมั่นที่จะทรงงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับประเทศชาติ ด้วยพระเมตตา พระอัจฉริยภาพ และพระวิริยะอุตสาหะ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเยาวชนไทยปลอดภัยห่างไกลยาเสพติด และเติบใหญ่เป็น คนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ นอกจากวัยรุ่นและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงทั่วไปแล้ว ยังพระราชทานโอกาสให้วัยรุ่นและเยาวชนในสถานพินิจ/ศูนย์ฝึกฯ ผู้ต้องขัง ในเรือนจำและทัณฑสถาน ผู้ถูกคุมประพฤติ ในสำนักงานคุมประพฤติ รวมทั้งกลุ่มวัยแรงงาน ในสถานประกอบการ สมัครเป็นสมาชิกและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ TO BE NUMBER ONE เพื่อให้สามารถเลิกยาเสพติดได้อย่างถาวร
วันที่ 15 มีนาคม 2567