พิธีพระราชทานปริญญาบัตร นับได้ว่าเป็นพิธีที่มีเกียรติสูงยิ่ง ที่บัณฑิตทุกคนจะได้รับจากสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2473 โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาเวชบัณฑิต หรือแพทยศาสตร์บัณฑิตในปัจจุบัน จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้พระราชทานพระบรมราโชวาท ความตอนหนึ่งว่า “การศึกษาเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการวัดความเจริญของประเทศต่าง ๆ ในโลก”ในกาลต่อมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง หรือพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ พระราชโอรส พระราชธิดา เสด็จ ฯ แทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นับถึงปัจจุบันเป็นเวลามากกว่า 90 ปี
สำหรับสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ จัดตั้งขึ้นเพื่อมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยี หรือสายปฏิบัติการ เริ่มจัดการเรียนการสอนครั้งแรกในปีการศึกษา 2556 มีผู้สำเร็จการศึกษารุ่นแรก ในปีการศึกษา 2557 ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา ครั้งที่1 ประจำปีการศึกษา 2557 – 2559 จำนวน 3,573 คน ครั้งที่2 มีผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2560 จำนวน 3,470 คน ครั้งที่3 มีผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2561 จำนวน 3,229 คน สำหรับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่4 ซึ่งมีผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 – 2564 จำนวน 7,256 คน จัดขึ้นในวันที่ 30 – 31 สิงหาคม พ.ศ.2565 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า เนื่องในวาระอันเป็นมงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 – 2564 ผมขอแสดงความยินดี และภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สถาบันการอาชีวศึกษาสามารถผลิตบัณฑิตใหม่ ซึ่งเป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการที่มีคุณภาพ รวมทั้งสิ้น 7,256 คน อันเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยี นำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดแก่สังคม ชุมชน และสถานประกอบการ สามารถประกอบอาชีพอิสระ พัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการ และวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ขอแสดงความชื่นชมในความวิริยะ อุตสาหะ และความพากเพียรในการศึกษาจนประสบความสำเร็จในวันนี้ และขอให้บัณฑิตทุกคนระลึกเสมอว่า ท่านเป็นผู้ทรงคุณค่าแก่ปริญญาอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งนำความปลื้มปีติยินดีมาสู่ครอบครัว และคณาจารย์ จงนำวิชาความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาไปสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และประเทศสืบไป
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวต่อว่า พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2565 ในครั้งนี้ ขอเชิญพสกนิกรร่วมรับเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 30 – 31 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
ในส่วนของการเตรียมความพร้อม พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2565 ในวันที่ 30-31 สิงหาคม 2565 สถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 23 แห่ง ได้ดำเนินการ ดังนี้
– การเตรียมความพร้อมของบัณฑิต ที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรสถาบันการอาชีวศึกษาได้กำหนดการฝึกซ้อม แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ
1. การซ้อมย่อยระดับสถานศึกษา
2. การซ้อมย่อยระดับสถาบันและ
3. การซ้อมใหญ่ ณ สถานที่จริง ในระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม 2565
– การเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ เช่น อาคารพิธีพระราชทานปริญญาบัตร อาคารพักคอยบัณฑิต อาคารรับรองญาติบัณฑิต ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อาทิ เช่น สถานที่จอดรถ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ บ้านพักครู วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จำนวน 40 คัน ลานวัดบางพูน จำนวน 250 คัน อาคารมากเปี่ยมแมนชั่น จำนวน 50 คัน (เสียค่าบริการจอดรถ) และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ในซอยวัดบางพูน จำนวน 300 คัน (เสียค่าบริการจอดรถ) ร้านค้าจำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม จุดพักคอยและห้องน้ำอย่างเพียงพอ
– การเตรียมความพร้อมด้านการเดินทางและประชาสัมพันธ์ สามารถใช้เส้นทางในการเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีแดง รถโดยสารประจำทางสาย59 , สาย59(ปอ.) สาย 90 และสาย522 เสริมพิเศษ หรือเพื่อความสะดวกในการเดินทางให้เดินทางโดยรถยนต์สาธารณะ (TAXI) และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 3 เบอร์โทรศัพท์ 097-2424377 , 065-8504427 และ097-0969719 เว็บไซต์ www.ivec3.ac.th
ตัวแทนนักศึกษาที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ได้แก่ นายสุริโย บัวแก้ว บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 สาขาวิชาการจัดการสำนักงาน จากสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 3 วิทยาลัยเทคนิคนครนายก ได้กล่าวถึงความประทับใจ ในการร่วมพิธีครั้งนี้ ว่า มีความรู้สึกภาคภูมิใจทั้งตนเองและครอบครัว ที่ได้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เป็นผลของความมุ่งมั่นตั้งใจตลอดระยะเวลาที่ต้องศึกษาและทำงานไปด้วย ซึ่งตนจะนำความรู้ และทักษะที่ได้รับการศึกษาไปต่อยอด เพื่อไปพัฒนางานและการประกอบอาชีพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว องค์กรและประเทศต่อไป ส่วนนายสิทธิพัฒน์ เกตุเพ็ง บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 สาขาวิชาการบัญชี จากสถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี กล่าวว่า สถาบันการอาชีวศึกษาสามารถตอบโจทย์ความต้องการการใช้กำลังคนของสถานประกอบการ เพราะเป็นสถาบันฯการศึกษาที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ทำงานได้มีโอกาสศึกษาต่อ เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะ ไม่ว่าจะอยู่ในภูมิภาคใดของประเทศ
ประการสำคัญ บัณฑิตทั้งสองท่าน ได้กล่าวตรงกันว่า ที่ผ่านมาตนเองได้ยึดถือหลักการทรงงาน อันเปี่ยมไปด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทำให้ตนเองมีพลังกาย พลังใจ ในการศึกษาเล่าเรียนจนประสบความสำเร็จ และเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในครั้งนี้