พิธีบูชาพระเจ้าหวงตี้จัดขึ้นที่อำเภอหวงหลิงในมณฑลส่านซีของจีน 

0
1465

พิธีอันยิ่งใหญ่เพื่อบูชาพระเจ้าหวงตี้หรือจักรพรรดิเหลือง บรรพกษัตริย์ในตำนานของชนชาติจีน จัดขึ้นที่สุสานจักรพรรดิเหลืองในอำเภอหวงหลิง มณฑลส่านซี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเทศกาลเชงเม้ง โดยมีการจัดพิธีบูชาพร้อมกันในไต้หวัน และถ่ายทอดสดทั้งสองฝั่ง

พิธีประจำปีซึ่งร่วมกันจัดโดยสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งคณะรัฐมนตรีจีน สำนักงานกิจการชาวจีนโพ้นทะเล สหพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเลที่หวนคืนสู่มาตุภูมิ และรัฐบาลมณฑลส่านซี สามารถดึงดูดผู้คนจำนวนมากมายังอำเภอหวงหลิง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ฝังพระศพของพระเจ้าหวงตี้ 

ตัวแทนจากทุกฝ่ายที่เข้าร่วมพิธีต่างร่วมขบวนอย่างสงบนิ่ง ณ สุสานจักรพรรดิเหลือง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาเฉียวซานตามแนวแม่น้ำจวี่เหอ โดยขบวนได้เคลื่อนไปตามสะพานซวนหยวนและถนนหลงเว่ย เข้าสู่วัดซวนหยวนอย่างช้า ๆ ไปยังพื้นที่ที่กำหนดไว้ ณ จัตุรัสบูชา ภายใต้การนำขบวนของทหารกองเกียรติยศ โดยธงมังกร 56 ผืนอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของชนชาติจีน ปลิวไสวในสายลมท่ามกลางบรรยากาศอันสงบ

พิธีบูชานี้ประกอบด้วย 9 ลำดับพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าหวงตี้และวัฒนธรรมจีนโบราณ รวมถึงการแสดงศิลปะพื้นบ้านและกิจกรรมการปลูกต้นไม้ สำหรับแนวคิดของงานในปีนี้คือ “การสั่งสมพลังของชาติจีนและเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ในการฟื้นฟูชาติ”

จ้าว อี้เต๋อ ผู้ว่าการมณฑลส่านซี ได้กล่าวสุนทรพจน์ภายในงาน โดยเน้นย้ำถึงความสำเร็จทางประวัติศาสตร์ รวมถึงการบรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 (ปี 2559-2563) และความก้าวหน้าในการสร้างสังคมที่มีความเจริญระดับปานกลางในทุกแง่มุม

พระเจ้าหวงตี้ หรืออีกพระนามหนึ่งว่าซือซวนหยวน ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในฐานะบรรพบุรุษของชนชาติจีน ร่วมกับจักรพรรดิหยาน ดังนั้น ชาวจีนทุกคนจึงเรียกตัวเองว่า หยานฮวง จื่อซุน หรือลูกหลานของจักรพรรดิเหลืองและจักรพรรดิหยาน

หลังจากชนะศึกจักรพรรดิหยานและฉีโหยว พระเจ้าหวงตี้ได้กลายเป็นผู้นำ ซึ่งในรัชสมัยของพระองค์เมื่อประมาณ 4,600 ปีมาแล้วนั้น ความก้าวหน้าต่าง ๆ เช่น การเพาะปลูกพืช การเลี้ยงไหม อักษรจีน และยา ได้ถูกคิดค้นขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาอารยธรรมจีน

ฟาง กวงหัว รองผู้ว่าการมณฑลส่านซี กล่าวว่า การขุดค้นวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเหลืองได้นำมาซึ่งคุณค่าในปัจจุบัน ซึ่งช่วยให้ประเทศชาติสามารถสร้างความเชื่อมั่นทางวัฒนธรรมและสืบสานจิตวิญญาณของชาติสืบไป

ที่มา: รัฐบาลมณฑลส่านซี