พฤกษาเร่งสร้างซินเนอร์จี 2 ธุรกิจใหญ่ พร้อมเพิ่มพอร์ตลงทุนหลากหลายธุรกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

0
1586

“พฤกษา” โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปี 2565  กำไรสุทธิเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สถานะโครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Gearing ratio) ต่ำ ลุยผสานสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์  ขยายโอกาสทางธุรกิจผ่านการสร้างพันธมิตร พร้อมเพิ่มพอร์ตการลงทุนอื่น ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลปรับปรุงระบบและกระบวนการทำงานต่าง ๆ ภายในองค์กร ไตรมาส 2 เดินหน้าเปิด โครงการใหม่ตามแผนพัฒนาธุรกิจอีก 9 โครงการรวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท  

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 ว่า  ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของพฤกษา แสดงให้เห็นชัดว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยจริงยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแนวราบในกลุ่มบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ที่เติบโตจากผลกระทบโควิดที่ทำให้คนอยากอยู่บ้านมากขึ้น แม้สภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะซบเซาและมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนก็ตาม ทั้งนี้ บริษัททำยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์รวม 5,344 ล้านบาท รายได้รวม 5,679 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 639 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10% ในขณะที่กำไรสุทธิของพฤกษา โฮลดิ้ง (รวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลแคร์)  อยู่ที่ 552 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 20,200 ล้านบาท เป็นยอดรับรู้รายได้ในปี 2565 ที่ 18,700 ล้านบาท และจะมีโครงการแนวสูงที่สร้างเสร็จพร้อมทยอยโอนในปีนี้อีก  7 โครงการรวมมูลค่า 15,200 ล้านบาท

กลยุทธ์ในปีนี้ พฤกษามุ่งผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลแคร์ โดยมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Mixed Use ที่จะผสานบริการด้านสุขภาพไว้ในโครงการเดียวกัน รวมถึงมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาเติมเต็มบริการตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด  ในด้านการลงทุนพฤกษาได้มีการเพิ่มพอร์ตลงทุนที่หลากหลาย  นอกจากการลงทุนในไทยที่ผสานความร่วมมือระหว่างธุรกิจเรียลเอสเตท และโรงพยาบาล ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการศูนย์สุขภาพแห่งแรกในชุมชนพฤกษา ขนาด 50 เตียง ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการพฤกษา อเวนิว บางนา-วงแหวน  ในเดือนสิงหาคมนี้ ขณะเดียวกันได้มีการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ โดยโรงพยาบาลวิมุตร่วมกับ JAS ASSET ก่อตั้งบริษัท Senera Vimut Health Service ทำโครงการ SENERA Senior Wellness บริเวณถนนคู้บอน เป็นศูนย์เมดิคอล ขนาด 5,713 ตร.ม. 4 ชั้น ขนาด 78 เตียง มีแผนเปิดให้บริการในเดือนธันวาคมนี้ นอกจากนี้ยังได้มีการลงทุนทั้งในไทย ออสเตรเลีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยเป็นกลุ่มธุรกิจประเภทนวัตกรรมด้านการพัฒนาความยั่งยืน (ESG Innovation) ระบบความปลอดภัยในโลกดิจิตอล (Digital Securities) และ เฮลท์เทค พร๊อพเทค  ที่รองรับกระแสเทรนด์ที่อยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในอนาคต 

ในขณะเดียวกันพฤกษาเองก็มีการปรับปรุงกระบวนการทำงานในองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็วและช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น การนำ Value Engineering หรือ วิศวกรรมคุณค่ามาใช้ ด้วยการนำวัสดุทดแทนที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับวัสดุเดิมมาใช้ เป็นการช่วยลดการใช้ซีเมนต์ที่ไม่จำเป็นไปได้มากกว่า 15,000 ตัน  นอกจากนั้นยังมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ระบบจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ และการพัฒนาระบบ Streamline ช่วยลดชั่วโมงการทำงานไปได้ มากกว่า 10,400 ชั่วโมง และสุดท้ายใช้การบริหารจัดการต้นทุน (Cost Management) เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มากกว่า 460 ล้านบาท หรือ 1.4% ของรายได้ 

สำหรับแผนงานในไตรมาส 2 นายอุเทน กล่าวว่า พฤกษามีแผนเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2 อีก 9 โครงการ รวมมูลค่า 5,900 ล้านบาท  แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 8 โครงการและบ้านเดี่ยว 1 โครงการ  ซึ่งการออกแบบโครงการจะอิงจากแนวคิด Tomorrow. Reimagined. ที่ได้ต่อยอดสู่ “พฤกษา ลิฟวิ่ง โซลูชั่น” ตอกย้ำแนวทางการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัยตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยใน 3 แกนหลัก ประกอบด้วย เทรนด์สุขภาพ (Health & Wellness) เทรนด์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป (Lifestyle Disruption) และเทรนด์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Development) ซึ่งเป็นตัวสะท้อนถึงความใส่ใจของพฤกษาในทุกมิติทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาบ้านและโครงการมาตรฐานใหม่พร้อมกับใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลและช่องทางออนไลน์ครบวงจร สื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมาย 

และหนึ่งในแกนที่พฤกษาให้ความสำคัญ คือ การออกแบบบ้าน “ใส่ใจเพื่อสุขภาพ” ( Healthy Home) ซึ่งทางพฤกษาได้ทีมผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลวิมุต เข้ามาร่วมให้คำปรึกษา แนะนำ ในการออกบ้านในแต่ละโครงการ เพื่อให้การออกแบบบ้านนั้นตอบโจทย์ด้านการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการออกแบบที่อยู่อาศัยแบบ Universal Design ที่รองรับคนทุกเจนเนอเรชั่นที่อยู่ร่วมกันในบ้าน เช่น การดีไซน์ประตูขนาดใหญ่เผื่อพื้นที่ไว้รองรับการเข้าออกด้วยรถเข็น  บันไดลูกนอนขนาดกว้างขึ้น ช่วยให้ขึ้น-ลงได้สะดวก พื้นภายในดีไซน์เป็นทางเรียบ (Non Step Floor) หมดห่วงเรื่องเดินสะดุดและการใช้วัสดุพื้นลดแรงกระแทก (Absorbtion Floor) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับเดียวกับญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุ หรือลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็กและผู้สูงวัย รวมทั้งการเลือกใช้โถสุขภัณฑ์ชั้นนำแบบ Senior Ergonomic Design ที่ออกแบบรองรับสรีระผู้สูงอายุ  ยังมีการออกแบบพื้นที่เพื่อส่งเสริมสุขภาพเป็นสวนหินบำบัด (River Healing Stone) ที่คัดสรรหินแต่ละก้อนอย่างพิถีพิถันและจัดวางให้เหมาะสำหรับการเดินนวดฝ่าเท้า  เป็นต้น 

ในฝั่งธุรกิจด้านสุขภาพ โรงพยาบาลวิมุตซึ่งเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางระดับตติยภูมิ ที่มุ่งให้บริการแบบ New Normal Ecosystem โดยมุ่งเน้นการรักษาแบบบูรณาการองค์รวม ผ่านศูนย์สุขภาพและโมเดลสุขภาพด้วยระบบดิจิทัล เปิดดำเนินงานครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โรงพยาบาลได้สร้างการรับรู้ในแบรนด์และส่งมอบบริการด้านสุขภาพ คุณภาพมาตรฐาน ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยใช้กลยุทธ์เร่งสร้างการเติบโต (Accelerated Growth Strategy) ทำให้ชื่อโรงพยาบาลวิมุตเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและรวดเร็วในกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

จากการให้บริการเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19  ส่งผลให้ในไตรมาส 1 ธุรกิจโรงพยาบาลวิมุตมีรายได้ 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% จากไตรมาส 4 ปี 2564 และจากการปรับโครงสร้างการบริหารองค์กรและการบริหารจัดการใหม่ของโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพได้ส่วนแบ่งกำไรจากผลประกอบการโรงพยาบาลเทพธารินทร์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แผนธุรกิจในไตรมาส 2 คาดว่ารายได้หลักจะมาจากการดำเนินงานเต็มรูปแบบของบริการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลและบริการศูนย์ฟื้นฟูดูแลสุขภาพครอบครัวและผู้สูงอายุ (ViMut Wellness Services) ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ของพฤกษาอย่างต่อเนื่องด้วย  

Aiming for sustainable growth, Pruksa synergizes 2 main businesses 

while expanding and diversifying its’ investment portfolios

Pruksa Holding PCL reported its first quarter, 2022, net profit grew 10% over the same period last year.

 Strong financial structure has a low gearing ratio. Focusing on creating synergy between real estate and health care businesses and expanding business opportunities through alliances with more diversification of other investment portfolios. As well as, increasing work efficiency by using digital technology to improve various systems and processes within the organization. In Q2 expecting to launch 9 new projects according to the business development plan, totaling Baht 5,900 million.

Mr. Uthen Lohachitpitak Group Chief Executive Officer of Pruksa Holding Public Company Limited revealed that in the first quarter 2022, overall real estate business, Pruksa’s main activity, clearly shows the demand for housing persists, especially in the low-rise group of detached houses which has grown from the impact of the coronavirus that encourages people stay at home more. Even though the Thai economy is still in a sluggish condition and there are many factors that affect the people’s purchasing power.

The company made real estate sales of Baht 5,344 million, total revenue of Baht 5,679 million, with a net profit of Baht 640 million, growing 10% from the same period last year, while Pruksa Holding’s net profit (combining real estate and healthcare business) was Baht 552 million. Its backlog was Baht 20,200 million and expect to achieve total revenue of Baht 18,700 million in 2022. 7 high-rise projects are expected to be completed and transferred this year, worth around Baht 15,200 million in total. 

Mr. Uthen further explained that this year’s strategy aims to integrate the real estate and healthcare businesses. “There is a mixed-use real estate development plan that will integrate health services into the same project, as well as looking for new partners to complement the services that best fulfill the consumers’ need. In terms of investment, Pruksa has expanded a diversified portfolio. Combining cooperation between the real estate business and the healthcare business, we are about to open the first 50-bed health center in a Pruksa community, located in front of Pruksa Avenue Bangna-Wongwaen in August this year. At the same time, new business alliances have been established. Vimut Hospital has joined with JAS ASSET to establish Senera Vimut Health Service to undertake the SENERA Senior Wellness project on Khubon Road. It is a medical center, with 5,713 sq.m., 4 floors, and 78 beds, planned to be opened in December. In addition, there have been investments in Thai, Malaysia, Australia, and Singapore. The corporate venture focuses on investment in businesses related to ESG Innovation, Digital Securities, Health Tech and Prop Tech, which supports the consumer trends toward housing as well as health and wellness. 

Pruksa has also improved its work processes within the organization, in order to increase efficiency, speed and reduce unnecessary costs. including the adoption of Value Engineering by using substitute material that are as efficient as the original materials. The new system has reduced unnecessary cement usage more than 15,000 tons. We also have introduced a Blockchain technology electronic procurement system and the development of the Streamline system. These cutting-edge systems enable man hours reduction more than 10,400 hours., Last but not least, cost management has been used to control expenses effectively, which helps the company saves cost more than Baht 460 million, or approximately 1.4% of total revenue. 

As for Q2 plans, Mr. Uthen revealed that Pruksa expects to launch 9 new projects with a total value of Baht 5,900 million, consisting of 8 townhouse projects and a single detached house project,  for which the project design will be based on the ‘Tomorrow, Reimagined’ concept, which has been extended to “Pruksa Living Solution”, reinforcing the guidelines for the development of housing quality, responding to 3 main areas of  the consumer trends: Health & Wellness, Lifestyle Disruption, and Sustainability, which reflects Pruksa’s committing to elevate the quality of lives in every dimension. Pruksa continues to penetrate the market by developing new standard homes and projects as well as using integrated digital marketing tools and online channels to communicate directly with the target audience.

One of  Pruksa’s core principles is excellence in home design for healthy living. Pruksa welcomes a team of experts from Vimut Hospital to give advice on the house design in each project to meet the needs of healthy living especially the universal housing design that supports people of all generations living together in the house. This might include designing larger doors to accommodate wheelchair access, wider stairways and interior floors designed as a smooth path (Non Step Floor), with no need to worry about tripping, and the use of shock absorbing floor, which is the same standard as using in Japan, which also helps prevent accidents or reduces injuries. Also included are the selection of Senior Ergonomic Design toilet bowls that allow elderly to sit and get up easily. There is also a well-designed area to promote health as a River Healing Stone Garden, where each stone has been meticulously selected and arranged to be suitable for foot massage.

Leading our healthcare business is Vimut Hospital, a tertiary specialty hospital that aims to provide services in the New Normal Ecosystem by focusing on holistic integrated treatments through health centers and digital health models. The hospital was opened in May 2021, during the Covid-19 pandemic. The hospital quickly gained public awareness and a reputation for delivering healthcare services with international standard quality at an accessible price. By using the Accelerated Growth Strategy, Vimut Hospital is quickly well known among both Thai and international customers for its services as a COVID-19 vaccination center. As a result, in the first quarter, the Vimut Hospital business had a revenue of Baht 244 million, an increase of 59% from the 4th quarter of 2021. Furthermore, due to the restructuring of the organization and the new management of Theptarin Hospital. As a result, the health care business receives a share of profit from the performance of Theptarin Hospital which has continued to grow. The business plan for the second quarter includes the full operation of medical services, and hospitals and rehabilitation centers for family and elderly health care (ViMut ​​Wellness Services), which will continue to develop along with Pruksa’s new housing projects.