ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 2ฒธ-26 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งชนพนักงานสวนสาธารณะ บ 2 ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ขณะปฏิบัติหน้าที่ตัดต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. เขตบางนา ในฐานะที่รับผิดชอบพื้นที่ที่เกิดเหตุ และฝ่ายสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการประกันภัยให้กับผู้ประสบภัยและครอบครัว เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากระบบรายงานข้อมูลประกันภัยรถภาคบังคับว่า รถยนต์คันเกิดเหตุหมายเลขทะเบียน 2ฒธ-26 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 30 มิถุนายน 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 ตุลาคม 2565 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุดไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน โดยรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้แต่อย่างใด
สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ในเบื้องต้นจะได้รับค่าสินไหมทดแทน จำนวน 500,000 บาท โดยสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. เขตบางนา และฝ่ายสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นสักขีพยานร่วมกับนางสาวสิริพักตร์ สุวรรณทัต ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สำนักงาน คปภ. ในการส่งมอบค่าสินไหมทดแทนดังกล่าว
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก จะเร่งรัดให้มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมต่อไป
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงฤดูฝนอาจทำให้พื้นผิวการจราจรมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอให้ผู้ใช้รถตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ รวมทั้งเมาไม่ขับปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และเพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัยโดยเฉพาะการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย