เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ แปซิฟิค ฮอลล์ ศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา จ.ชลบุรีในเวทีการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2024 รอบชิงชนะเลิศระดับภาคกลางและภาคตะวันออก นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่ากรมสุขภาพจิต ในฐานะเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ดำเนินงานสนองพระดำริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ ที่ทรงมีพระดำริให้พัฒนาเยาวชนโดยผ่านกิจกรรม เพราะทรงเห็นว่ากิจกรรม จะช่วยให้เยาวชนมีสังคมที่ดี ได้รับประสบการณ์ที่ดี มีโอกาสได้แสดงศักยภาพและเห็นคุณค่าในตนเอง ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันจิตใจในการดำเนินชีวิตในระยะยาว
TO BE NUMBER ONE DANCERCISE เป็นการเรียนรู้ในรูปแบบของActivetainment ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่นอกจากช่วยสร้างความแข็งแกร่ง แข็งแรงของร่างกายและช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี มีความสดชื่นแล้ว ยังช่วยให้เด็กๆ มีความภาคภูมิใจ มีความมั่นใจ เติมเต็มสิ่งที่ทำให้เยาวชนสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีคุณค่า ซึ่งเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จที่โครงการ TO BE NUMBER ONE คาดหวัง และยังถือได้ว่าเป็น Soft Power ที่ช่วยให้วัยรุ่นและเยาวชนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมและเกิดค่านิยมการ“เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” อีกด้วย
นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกล่าวว่าจังหวัดชลบุรีมีความยินดีและขอต้อนรับสมาชิก TO BE NUMBER ONE ผู้มีความสามารถและมีใจรักการเต้นและมุ่งมั่นสู่ความเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติดสู่การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2024 รอบชิงชนะเลิศระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มากถึง 65 ทีม จาก 20 จังหวัด กิจกรรมในครั้งนี้ช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะด้านต่างๆ สร้างความมีน้ำใจเป็นนักกีฬามีความมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกและได้รับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ ที่มาจากหลายจังหวัดในภาคกลางและตะวันออก แม้ผลการแข่งขันในวันนี้จะมีทีมที่สมหวัง ก็ขอแสดงความยินดีด้วย บางทีมที่ผิดหวังเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน ก็ขอให้มีความมุ่งมั่นพยายามฝึกฝนพัฒนาต่อไป
ด้านหม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE และที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่าสำหรับผลการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2024 ระดับภาคกลางและภาคตะวันออกมีทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศรวม 9 ทีมได้แก่ รุ่น Junior รางวัลที่ 1 ทีม Stormer รร.สาธิตพหลโยธินรามินทรภักดีจากสสจ.ราชบุรี,รางวัลที่ 2 ทีม OOMSIN POWER KID รร.ธนาคารออมสิน จาก สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ รุ่น Pre-Teenageรางวัลที่ 1 ทีม Allstar Talent รร.สาธิตพหลโยธินรามินทรภักดี จาก สสจ.ราชบุรี,รางวัลที่ 2 ทีม OOMSIN POWER GIRLรร.ธนาคารออมสินจาก สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ รุ่น Teenage รางวัลที่ 1 ทีม MAX SQUAD สถาบัน DP DANCE STUDIO จาก สสจ.ชลบุรี,รางวัลที่ 2 ทีม SISCHELLA สถาบัน FIDA DANCE จาก สสจ.ลพบุรี,รางวัลที่ 3 ทีม XZ สถาบัน Chazone Studio จาก สสจ.ปราจีนบุรี,รางวัลที่ 4 ทีม Amity สถาบัน Amity Studio จากสสจ.ราชบุรีและรางวัลที่ 5 ทีม YAKUZA DANCE CREW ทีมอิสระจาก สสจ.ราชบุรี
ซึ่งทั้ง 9 ทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ โดยทีมที่ชนะเลิศก็จะมีโอกาสเข้ารับพระราชทานรางวัล จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพมหานคร
น.ส.อรกัญญา โยศรีชา “ต้นหอม” ตัวแทนนักเต้นจาก ทีม MAX SQUAD สถาบัน DP DANCE STUDIO จาก สสจ.ชลบุรีทีมชนะเลิศรางวัลที่1 รุ่น Teenage เล่าว่าที่ผ่านมาทีม MAX SQUAD ได้ผ่านเข้ารอบระดับภาคและได้ไปแข่งขันระดับประเทศมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ได้รับรางวัลที่ 1 ในระดับภาค ใช้ธีมการแข่งขันเป็นละครบรอดเวย์มาถ่ายทอดเรื่องราว ผสมผสานกับท่าเต้นแนวฮิปฮอป แรคกิ้ง และท่าเต้นแบบเท่ๆในหลายๆแบบ ซึ่งในปีนี้รู้สึกดีใจมากที่ทีมชนะรางวัลที่ 1 ระดับภาคมาได้ เพราะที่ผ่านมาเราคาดหวังมาโดยตลอดแต่ก็ยังไม่สำเร็จ แต่เราก็อดทน ไม่เคยย่อท้อ จนมีวันนี้
ซึ่งจากนี้ไปจะขยันฝึกซ้อมให้มากเพื่อจะได้มีความพร้อมเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศต่อไป อยากฝากบอกเพื่อนร่วมแข่งขันทุกทีมว่า ทุกคนเก่งมากๆ อยากให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าย่อท้อ เพราะเวทีเต้นของ TO BE NUMBER ONE เป็นเวทีที่ให้โอกาสทุกคน ได้พัฒนาตัวเอง ได้แสดงออกในหลายๆอย่าง เป็นเวทีที่เปิดพื้นที่ให้กับเด็กทุกคน และทำให้มีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับทีมอื่นๆ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ให้เรารู้จักรักสามัคคีกัน
ครูบังอรชูทิพย์ “ครูอร” ครูผู้คุมทีม OOMSIN POWER KID และทีม OOMSIN POWER GIRL รร.ธนาคารออมสิน จาก สสจ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่ารู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เข้ารอบถึง 2 รุ่นและได้มีโอกาสเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ หลังจากที่ได้ลงแข่งขันมาแล้วถึง 5 ปี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ทีม OOMSIN POWER KID รุ่น Junior ใช้ธีม การเต้นแบบอินเดียมาประยุกต์กับเพลงไทย
โดยเลือกใช้ท่าต้นผสมผสานกับความสดใสน่ารักของเด็กๆและความสามารถพิเศษเน้น ความสนุกสนาน ความแข็งแรง ความพร้อมเพรียง ความสามัคคี ในขณะที่ทีม OOMSIN POWER GIRL รุ่น Pre-Teenage จะใช้เพลงสากลมาประกอบท่าเต้นบวกกับความสามารถพิเศษของเด็ก ทั้งการตีลังกา แยกขา แสดงถึงความแข็งแรง โดยทั้ง 2 ทีม เตรียมการซ้อมมาตลอด 1 ปี ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดหลังจากเด็กเข้ามาฝึกซ้อมการเต้นคือ เด็กมีความแข็งแรง มีระเบียบวินัย มากขึ้น และยังได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองของเด็กเป็นอย่างดี เพราะการซ้อมก็เหมือนให้เด็กได้ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง และช่วยให้เด็กห่างไกลจากโทรศัพท์มือถือได้ด้วย ผลที่ออกมาเด็กๆทุกคนดีใจมากที่ได้เข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ขอขอบคุณทูลกระหม่อมฯที่ให้โอกาสเด็กๆ ได้พัฒนาทักษะตรงนี้ ซึ่งส่วนตัวแล้วได้ติดตามข้อคิด ข้อแนะนำต่างๆที่ทูลกระหม่อมทรงมอบให้มาโดยตลอด ซึ่งจะนำไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาเด็กๆต่อไป