นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ ที่มีการขยายตัวเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว และมีการแพร่กระจายไปยังคลัสเตอร์ใหม่ๆ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน ส่งผลให้โรงพยาบาลต่างๆ เริ่มมีปริมาณเตียงไม่เพียงพอรองรับผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวทางรัฐบาลจึงได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม (field hospitals) และขอความร่วมมือภาคเอกชนในการจัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel) เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ ขึ้นในหลายพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจประกันภัยนั้น ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการคุ้มครองผู้เอาประกันภัยที่อาจจะต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม หรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ เช่นเดียวกับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วไป เนื่องจากในเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยหรือสัญญาเพิ่มเติมมีการกำหนดคำนิยามของ “โรงพยาบาล” ไว้อย่างชัดเจน โดยหมายถึง “สถานพยาบาลใดๆ ซึ่งจัดบริการทางการแพทย์โดยสามารถรับผู้ป่วยไว้ค้างคืน และมีองค์ประกอบทางด้านสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ ตลอดจนการจัดการให้บริการที่ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีห้องสำหรับผ่าตัดใหญ่และได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนดำเนินการเป็น”โรงพยาบาล” ตามกฎหมายสถานพยาบาลของอาณา เขตนั้นๆ” ประกอบกับกฎหมายประกันชีวิตนั้น “ห้ามบริษัทให้ประโยชน์เป็นพิเศษแก่ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย” ซึ่งหากเกิดกรณีผู้เอาประกันภัยไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม หรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ อาจเกิดปัญหาไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยหรือสัญญาเพิ่มเติม และนำไปสู่ข้อโต้แย้งระหว่างผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย
การหารือร่วมกันระหว่างสำนักงาน คปภ.และภาคธุรกิจประกันภัย ก็เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า หากผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม (field hospitals) หรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel) ก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วไป โดยทางสำนักงาน คปภ. ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 16/2564 เรื่อง
การรักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือสัญญาเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริษัทประกันชีวิต เพื่อเป็นแนวทางให้บริษัทประกันชีวิตสามารถปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการยกเลิกโรงพยาบาลสนามหรือหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ
“ภาคธุรกิจประกันชีวิต พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการฝ่าฟันวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้อย่างเต็มที่ และมีความตั้งใจที่จะดูแลคุ้มครองผู้เอาประกันภัยทุกคนให้ได้รับประโยชน์สูงสุดตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันภัยรายใดมีข้อสงสัยสามารถสอบถามไปยังศูนย์บริการลูกค้า (Call Center) หรือช่องทางออนไลน์ของบริษัทที่ท่านทำประกันภัยไว้ หรือสายด่วนประกันภัย 1186 สำนักงาน คปภ.ได้” นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวในตอนท้าย