ธนาคารกสิกรไทย แจ้งผลประกอบการ ปี 2564 กำไร 38,053 ล้านบาท

0
1520

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจากที่หดตัวลงอย่างมากจากผลกระทบของโควิด-19 ในปี 2563 โดยการใช้จ่ายในประเทศได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐและการเร่งฉีดวัคซีน ขณะที่ทางการไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี ส่วนการส่งออกเติบโตในระดับสูงได้ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศอาจชะลอลงอีกครั้งในช่วงต้นปี 2565 ท่ามกลางความเสี่ยงจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ทำให้ทางการไทยต้องมีการปรับมาตรการเพื่อดูแลสถานการณ์อีกครั้ง

ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 38,053 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4 ปี 2564 จำนวน 9,901 ล้านบาท 

ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2564 จำนวน 38,053 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 8,566 ล้านบาท หรือ 29.05% ส่วนหนึ่งเกิดจากการลดลงของสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss : ECL) จำนวน 3,216 ล้านบาท หรือ 7.38% โดยธนาคารและบริษัทย่อยพิจารณาตั้งสำรองฯ ในปี 2564 จำนวน 40,332 ล้านบาท ซึ่งยังคงเป็นสำรองฯ ภายใต้หลักความระมัดระวัง และมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 สูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 159.08% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ที่อยู่ที่ระดับ 149.19% ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดสำหรับความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่อาจชะลอลงอีกครั้งในช่วงต้นปี 2565 จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งการดำเนินการเชิงรุกของธนาคารและบริษัทย่อยที่ให้ความช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 7,822 ล้านบาท หรือ 6.13% หลัก ๆ เกิดจากการให้สินเชื่อใหม่ตามยุทธศาสตร์ของธนาคารแก่ลูกค้าที่มีศักยภาพ และมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าโดยการเสริมสภาพคล่องให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ปกติ รวมทั้งลูกค้าบางส่วนยังอยู่ภายใต้มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ทำให้ธนาคารยังคงต้องมีการบริหารจัดการดอกเบี้ยค้างรับอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin : NIM) อยู่ที่ระดับ 3.21% สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 1,910 ล้านบาท หรือ 4.17% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์ และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่ลดลง แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,312 ล้านบาท หรือ 7.01% หลัก ๆ จากค่าธรรมเนียมรับจากการจัดการกองทุน และค่านายหน้ารับจากการซื้อขายหลักทรัพย์ ในส่วนของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 1,048 ล้านบาท หรือ 1.50% เกิดจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ในขณะที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายกิจกรรมทางการตลาดลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.49% 

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 4,103,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 จำนวน 444,601 ล้านบาท หรือ 12.15% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ และการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่มีศักยภาพ รวมทั้งมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้า สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 3.76% โดยธนาคารมีการติดตามดูแลคุณภาพเงินให้สินเชื่อของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด ขณะที่สิ้นปี 2563 อยู่ที่ระดับ 3.93% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ 18.77% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.49%

KASIKORNBANK announces 2021 net profit of Baht 38,053 Million

Ms. Kattiya Indaravijaya, Chief Executive Officer of KASIKORNBANK, said the Thai economy resumed growth in 2021 after a severe contraction caused by the COVID-19 outbreak in 2020. Private domestic expenditure was supported by the government stimulus program and progress on vaccination. Meanwhile, the Thai authorities relaxed pandemic-related containment measures in the second half of 2021. Exports rose along with a global economic recovery. However, the Thai economy is likely to be challenged in early 2022 by rising risks from the Omicron variant of COVID-19, which has already begun to trigger authorities’ reintroduction of tighter containment measures.

Operating performance for the year of 2021, KBank and its subsidiaries reported net profit of Baht 38,053 Million, and reported net profit of Baht 9,901 Million, for the fourth quarter of 2021.

KBank and its subsidiaries reported net profit for the year of 2021 of Baht 38,053 Million, an increase of Baht 8,566 Million or 29.05% over the previous year, due to a decrease in expected credit loss amounting to Baht 3,216 Million or 7.38%. KBank and its subsidiaries consider to set aside expected credit loss in the year of 2021 amounting to Baht 40,332 Million, which consistently conform with prudent approach. Coverage ratio as of 31 December 2021 stood at 159.08%, while at the end of 2020 this stood at 149.19% that was suitable level and in line with situation happened. However, KBank and its subsidiaries still closely assess the situation of economic uncertainties which was affected by the COVID-19 pandemic and the Thai economy is likely to be challenged in early 2022 by rising risks from the Omicron variant of COVID-19. In addition, KBank and its subsidiaries proactively work to continuously support customers through various measures.

Moreover, KBank and its subsidiaries reported net interest income increased by Baht 7,822 Million or 6.13%, mainly due to new lending in line with the Bank’s business direction to customers with potential and the Bank’s relief measures to inject liquidity for customers so that they could resume normal business operations. In addition, there are still some customers under the Bank’s relief measures covering moratorium on principal and interest payments that the Bank still continuously manage accrued interest. NIM stood at 3.21%. Non – interest income decreased by Baht 1,910 Million or 4.17%, mainly due to revenue from sales of securities and decrease in net premiums earned – net, although fees and service income – net increased by Baht 2,312 Million or 7.01%, mainly due to fees from fund management and brokerage fees. Other operating expenses increased by Baht 1,048 Million or 1.50% due to employee expenses, while premises and equipment expenses and marketing expenses decreased. Cost to income ratio stood at 43.49%.

As of 31 December 2021, KBank and its subsidiaries’ total assets were Baht 4,103,399 Million, an increase of Baht 444,601 Million or 12.15% over the end of 2020. The majority came from an increase in investments – net and loans growth to the customers with potential and the Bank’s relief measures. As of 31 December 2021, NPL gross to total loans stood at 3.76%, while at the end of 2020 this stood at 3.93%. The Bank has closely monitored and assured credit quality for customers affected by COVID-19. In addition, as of 31 December 2021, KASIKORNBANK FINANCIAL CONGLOMERATE’s Capital Adequacy Ratio (CAR) according to the Basel III Accord was 18.77%, with a Tier-1 Capital ratio of 16.49%.