ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จติดตามการดำเนินงาน โครงการ TO BE NUMBER ONE ณ จังหวัดจันทบุรี

0
80


เมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยี่ยมการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ทรงเปิดชมรม TO BE NUMBER ONE และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ โรงเรียนสอยดาววิทยา อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี โดยมีนายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต,หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE และเลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจังหวัดจันทบุรีเฝ้ารับเสด็จ

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ตลอดเวลา 22 ปี จังหวัดจันทบุรี ได้ดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ภายใต้การบริหารจัดการเชิงบูรณาการของคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE จังหวัดจันทบุรี ดำเนินงานตาม 3 ยุทธศาสตร์หลักของโครงการฯเพื่อร่วมดูแลบุตรหลานและประชาชนในพื้นที่ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนของจังหวัดจันทบุรี เกิดค่านิยมที่ถูกต้อง เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด มีภูมิคุ้มกัน ทางจิตใจ เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อมั่น เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มีการสร้างและพัฒนาเครือข่ายชมรมให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืน
ปัจจุบันจังหวัดจันทบุรี เป็นจังหวัดต้นแบบระดับเพชร ปีที่ 3 มีสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 6-24 ปี จำนวน 96,794 คน คิดเป็นร้อยละ 98.65 มีชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เรือนจำและสำนักงานคุมประพฤติ รวมทั้งสิ้น 1,073 ชมรม มีศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE รวม 191 แห่ง มีเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL เข้าสู่รอบระดับประเทศตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 14 มีทีม TO BE NUMBER ONE DANCERCISE จำนวน 1 ทีม

นางนฤมล กงกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสอยดาววิทยา กล่าวว่าโรงเรียนสอยดาววิทยาได้น้อมนำหลักการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE มาใช้เป็นแนวทางในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2555 ด้วยความร่วมมือจากผู้ใหญ่ใจดีที่เห็นความสำคัญ ผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่น คณะครูที่เอาใจใส่ ชุมชนมีส่วนร่วม มีเครือข่ายที่เข้มแข็งและที่สำคัญเด็กและเยาวชนเป็นพลังในการขับเคลื่อนโครงการ ทำให้ชมรม TO BE NUMBER ONE ของโรงเรียนสอยดาววิทยา มีความเข้มแข็งและเป็นเครือข่ายในการสอดส่องดูแลสมาชิกทุกคน “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” และเป็นพลังที่จะสร้างเด็ก และเยาวชนให้มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง เก่ง ดี มีสุข และห่างไกลจากยาเสพติดตลอดไป
นางสาวพนิตสุภา คุณหนู ประธานชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนสอยดาววิทยากล่าวว่า
ทางชมรมมีกิจกรรมเด่น คือการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด การสอดส่องดูแลสมาชิกทุกคน การสนับสนุนให้สมาชิกเล่นกีฬา ดนตรี งานศิลปะ และกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่สนใจ ส่งเสริมให้สมาชิกมีจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม เพราะทุกพื้นที่ คือ TO BE NUMBER ONE สำหรับปีนี้ทางชมรมได้ร่วมการประกวดผลการดำเนินงานระดับภาคกลางและภาคตะวันออก ณ จังหวัดปทุมธานี

ซึ่งแกนนำได้ร่วมกันวางแผน ออกแบบ และดำเนินงานจนสำเร็จ โดยมีครูคอยให้คำปรึกษาตามหลักการที่ว่า “เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” ผลสำเร็จของชมรม คือ สมาชิกทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มีจิตอาสา สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมและดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก มีภาวะผู้นำ มีสุข สนุก อบอุ่นห่างไกลยาเสพติด
นายฐิติโชติ ชื่นจิตรผู้จัดการศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE กล่าวว่าศูนย์เพื่อนใจของโรงเรียนสอยดาววิทยา เปิดให้บริการมาแล้ว 12 ปี ให้บริการทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในช่วงเช้า พักกลางวัน และช่วงหลังเลิกเรียน มีอาสาสมัครที่ผ่านการอบรม 30 คน ดำเนินงานภายใต้แนวคิด “ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนาEQ” กิจกรรมภายในศูนย์ของเราประกอบด้วย บริการให้คำปรึกษา กิจกรรมพัฒนา EQ การร้องเพลง การเต้น กิจกรรมสร้างสุข และส่งเสริมทักษะอาชีพต่าง ๆ ในปีนี้ มีผู้มาขอรับคำปรึกษา 156 คน ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเรียน การคบเพื่อน ความรัก และครอบครัว

ในวโรกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก “ใครติดยายกมือขึ้น” จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดจันทบุรี และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดจันทบุรี เข้าเฝ้าพร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจและคำแนะนำเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำในกลุ่มเสี่ยง และพระราชทานคำปรึกษาแก่สมาชิก TO BE NUMBER ONE จากสถานศึกษาต่างๆ ที่ซักถามปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่การจัดการกับปัญหาอย่างเหมาะสม