ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จติดตามการดำเนินงาน โครงการ TO BE NUMBER ONE ณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

0
34


วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยี่ยมสมาชิกและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทรงเปิดชมรม TO BE NUMBER ONE และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยมีนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต, นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต, หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE และเลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เฝ้ารับเสด็จ นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้น้อมนำโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาวัยรุ่นและเยาวชน

ภายใต้แนวคิด“เป็นหนึ่ง โดยไม่พึ่งยาเสพติด”เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อมั่น เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง หลีกเลี่ยงและห่างไกลจากยาเสพติด โดยการบริหารจัดการเชิงบูรณาการ มีองค์กรภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน ร่วมสนับสนุน และมีการขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 6 – 24 ปี จำนวน 107,379 คน มีอำเภอ และชมรม TO BE NUMBER ONE ครอบคลุมทุกประเภท รวม 371 แห่ง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้มุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัด TO BE NUMBER ONE ต้นแบบระดับทองปีที่ 2 มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ อำเภอปราณบุรีและ โรงเรียนหัวหิน ระดับดีเด่น วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล ต้นแบบระดับเงิน ปีที่ 2 และยังได้กำหนดนโยบายเพื่อกระตุ้นเตือนให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง แสดงสื่อสัญลักษณ์โครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดโดยการให้ข้าราชการ ประชาชนสวมเสื้อ TO BE NUMBER ONE ทุกวันพุธ

ดร.วัชระ เกิดสิน ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล กล่าวว่า วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวลได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ อาคารเรียนเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2528 ปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษา จำนวน 2,127 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 97 คน ได้น้อมนำหลักการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE มาใช้เป็นแนวทางในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในสถานศึกษา ด้วยความร่วมมือจากคณะครู ผู้ปกครอง และหน่วยงานต่างๆ ประกอบกับความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทของนักเรียน นักศึกษา ทำให้ชมรม TO BE NUMBERONE ของวิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล มีความเข้มแข็งในการสอดส่องดูแลสมาชิกทุกคน ทั้งยังมีการสร้างและพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง

นางสาวเสาวลักษณ์ เถื่อนพงษ์ ประธานชมรม TO BE NUMBER ONE วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล กล่าวว่า ชมรม TO BE NUMBER ONE วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล ตั้งขึ้นเมื่อปี 2563 มีกิจกรรมในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในรูปแบบต่างๆ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด การสอดส่องดูแลสมาชิกทุกคน สนับสนุนให้สมาชิกมีกิจกรรมทำในเวลาว่างจากการเรียน เช่น ดนตรี นันทนาการ ศิลปะ และกิจกรรมอื่นๆ ตามที่สนใจ ส่งเสริมให้สมาชิกมีจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม มาอย่างต่อเนื่อง ดำเนินงานตามแนวทางเด็กคิด เด็กทำ เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน ผลสำเร็จคือสมาชิกทุกคนมีพื้นที่ในการแสดงความสามารถ กล้าคิด กล้าทำ เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มีจิตอาสา สามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมและดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

ส่วนศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล เปิดมาแล้ว 4 ปีให้บริการทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในช่วงเช้า พักกลางวัน และช่วงหลังเลิกเรียน มีอาสาสมัครประจำศูนย์ฯ 25 คน ยึดหลักในการทำงานคือ ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง โดยมีบริการให้คำปรึกษา กิจกรรมพัฒนา EQ กิจกรรมสร้างสุขและส่งเสริมทักษะอาชีพต่างๆ

ในวโรกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก“ใครติดยายกมือขึ้น” จากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน ซึ่งเคยติดยาเสพติดและปัจจุบันมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้าพร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจและคำแนะนำเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำในกลุ่มเสี่ยงและพระราชทานคำปรึกษาแก่สมาชิก TO BE NUMBER ONE จากสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ซักถามปัญหาซึ่งจะนำไปสู่การจัดการกับปัญหาอย่างเหมาะสม