ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จพระราชทานเกียรติบัตรแก่สมาชิก “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” รุ่นที่ 30

0
183

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE เสด็จพระราชทานเกียรติบัตรแก่เยาวชนสมาชิก “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” รุ่นที่ 30 ณ เดอะไพน์ รีสอร์ท จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ ที่ปรึกษาโครงการ TO BE NUMBER ONE และเลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี เฝ้ารับเสด็จ

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง หรือ TO BE NUMBER ONE CAMP เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มีแนวคิดเพื่อให้โอกาสและทางเลือกแก่เด็กและเยาวชนที่เท่าเทียมกันที่จะได้รับการพัฒนาทักษะทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม อย่างถูกต้องและเหมาะสม ไปพร้อมกับความสนุกสนานเพลิดเพลินมุ่งให้เยาวชนเรียนรู้อย่างผ่อนคลายและมีความสุข ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ได้ประสบการณ์และมีเพื่อนใหม่ ทำให้เกิดสังคม เกิดเครือข่ายให้เยาวชนได้ฝึกช่วยเหลือตัวเอง รู้จักปรับตัวในการอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยใช้กระบวนการกลุ่ม สร้างการเปลี่ยนแปลงจาก“ภายใน” เช่น การค้นพบความสามารถของตนเอง การนับถือ ภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตนเอง โดยให้เยาวชนเลือกทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจและชื่นชอบ มีอาจารย์หรือผู้ฝึกสอนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและเป็น Idol ของเยาวชน ใช้วิธีการสอน หรือฝึกฝนแบบไม่กดดัน ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนและสอดคล้องกับแนวคิดของโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่เน้นแนวคิดการเรียนรู้สำหรับเยาวชนในลักษณะ Play and Learn ใช้กิจกรรมเป็นสื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้อย่างมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ เพื่อให้เติบโตเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ มีความคิดเชิงบวก ไม่ท้อถอย อะไรง่ายๆ มีความพยายาม รู้จักเสียสละ อดทน มีความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเอง สามารถดำเนินชีวิตต่อไปในสังคมได้อย่างมีความสุข
หลักสูตรและกระบวนการของ “ค่าย” มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาพฤติกรรมและทักษะต่างๆ ได้แก่ ทักษะการให้คำปรึกษาเบื้องต้น ทักษะการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เพื่อพัฒนาตนเองและกลับไปเป็นผู้นำจัดกิจกรรมให้กับเพื่อนๆในพื้นที่ ทักษะการพัฒนาบุคลิกภาพและภาวะผู้นำ รวมทั้งการพัฒนาความสามารถในกิจกรรมสร้างสรรค์ ที่สมาชิกสนใจ เช่น การแสดง การเต้น การร้องเพลง ศิลปะ ภาษา ดนตรี กีฬา เพื่อให้สมาชิกนำไปต่อยอดในอนาคตและการจัดค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง รุ่นที่ 30 ครั้งนี้ มีเยาวชน ทั้งจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูมิภาคทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งสิ้น 494 คน


จากการติดตามสมาชิกที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมค่ายในรุ่นที่ผ่านมาพบว่า และสมาชิกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ทัศนคติ วิธีการทำงาน บุคลิกภาพ และสามารถนำความรู้ ทักษะและสมรรถนะที่ได้พัฒนาจากโครงการไปช่วยกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับตนเองและสังคมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังพบว่า พี่เลี้ยงพิเศษ ซึ่งเป็นเยาวชนที่ผ่านกระบวนการเข้าค่ายและสมัครเข้ามาทำหน้าที่ดูแลน้องๆ ในค่ายรุ่นต่อๆ มา มีพัฒนาการด้านต่างๆ ได้แก่ การเรียน การทำงาน การใช้ชีวิต ความมีจิตอาสา และการเป็นแบบอย่าง อันดีงามให้กับน้องๆรุ่นต่อไป และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของสังคม ส่วนกิจกรรมที่ทำให้สมาชิกค่ายรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากที่สุดคือการแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์

ในโอกาสนี้มีเยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE CAMP รุ่นที่ 30 ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนกล่าวแสดงความรู้สึกต่อหน้าพระพักตร์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธาน

“นายปิยวัฒน์ ทองบัว”กล่าวว่าสวัสดีครับทูลกระหม่อม กระผมนายปิยวัฒน์ ทองบัวประธานรุ่นแรกจากชมรม TO BE NUMBER ONE รร.ทับช้างวิทยาคม ครั้งแรกที่ผมได้เข้าร่วมโครงการทูบีนัมเบอร์วันเพราะได้แรงบันดาลใจจากการเป็นส่วนหนึ่งในการรับเสด็จทูลกระหม่อมเมื่อครั้งเสด็จมาเปิดชมรมและศูนย์เพื่อนใจ ณ โรงเรียนนาทวีวิทยาคม จากวันนั้นถึงวันนี้รวมระยะเวลาเข้าปีที่ 6 ของชมรม ด้วยความตั้งใจ ความพยายาม ทุกหยาดเหงื่อ ทุกหยดน้ำตา และเวลาที่ผมอุทิศให้กับโครงการทูบีนัมเบอร์วัน ในปีนี้สิ่งที่อุทิศตนมาก็เกิดผลชมรมของผมได้เข้ารอบผลการดำเนินงานระดับประเทศเป็นครั้งแรกนั่นเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดครับ

ตอนมาครั้งแรกผมหวังแค่ได้มารับเสด็จทูลกระหม่อมแต่ตลอด 1 สัปดาห์ที่อยู่ในค่าย ผมได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย ทั้งการเป็นพิธีกร การเป็นผู้นำ ได้เรียนร้องเพลง การแสดง เรียนภาษาทั้งจีน อังกฤษ และเกาหลี รำวงมาตราฐาน ว่ายน้ำ และกิจกรรมอื่นๆที่สร้างความสุข สร้างให้พวกเราเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียวกันในนามสกุลทูบีนัมเบอร์วันซึ่งเกินสิ่งที่เด็กคนหนึ่งจะคาดหวังได้ครับ

ขอบคุณทูลกระหม่อมครับที่เห็นค่าพวกเราเยาวชนตัวเล็กๆและให้ความสำคัญกับพวกเรา ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีและทุกฝ่ายที่รักพวกเรา และสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดให้กับพวกเรา ขอบคุณทูลกระหม่อมอีกครั้งครับที่สร้างให้พวกเราแคมป์รุ่นที่ 30 เป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นจากความรักของทูลกระหม่อม

“นายวิวัฒน์ เพ็นตี้” กล่าวว่าสวัสดีครับทูลกระหม่อม ผมชื่อนายวิวัฒน์ เพ็นตี้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแก่นทองอุปถัมภ์ สำนักงานเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จากที่เมื่อก่อนผมเป็นเด็กที่เรียนอย่างเดียว และมุ่งมั่นรักษาเกรดให้ได้ 4.00 ในทุกเทอม มีโลกส่วนตัวสูง จึงไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม จนมาวันหนึ่งคุณครูและเพื่อนที่โรงเรียนได้ชักชวนให้มาเข้าร่วมโครงการ ผมก็ได้เรียนรู้ว่าทูบีนัมเบอร์วัน ไม่ใช่แค่มาร้องเพลงและมาเต้นเพียงอย่างเดียว แต่คือการมาร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่ทำให้เด็กและเยาวชนมีความสุข มีความกล้าแสดงออก ห่างไกลจากยาเสพติด เพราะทูบีนัมเบอร์วันนี่แหละครับที่เปลี่ยนชีวิตของผม จากเด็กที่เป็นเสือยิ้มยาก กลายเป็นคนที่มีเพื่อนฝูงเยอะ สามารถเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีได้ ทำให้ผมได้รับรางวัลต่างๆอย่างมากมาย ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ถึงแม้ผมจะทำกิจกรรมทุกวันแต่ก็ยังสามารรักษาเกรดเฉลี่ย 4.00 ไว้ได้อยู่ ทูบีนัมเบอร์วันทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ ว่าเราสามารถเป็นคนที่ทั้งเก่งและดีได้ ถ้าเราบริหารจัดการชีวิตเราดี การเรียนมันก็ยังดีอยู่ กิจกรรมไม่ได้เป็นตัวทำลายผลการเรียนของเรา แต่ความรับผิดชอบของเราต่างหากที่จะทำให้เราเป็นอย่างนั้น
ผมขอขอบคุณทูลกระหม่อมและโครงการทูบีนัมเบอร์วันที่ได้สร้างเด็กและเยาวชนอย่างพวกผมให้เป็นคนที่เห็นคุณค่าในตนเองและมีศักยภาพ เป็นsome one ที่มีคุณค่าและเป็น some body ที่มีความหมาย ได้ใช้พื้นที่ของตนเองให้เกิดประโยชน์ที่สุด ผมจะนำสิ่งดีดีที่ได้รับจากค่ายแห่งนี้ไปต่อยอดและพัฒนาเพื่อนพี่น้องในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ยังไม่ได้รับโอกาสแบบผม ให้ได้ค้นพบตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่รักและชอบ และเป็นเด็กทูบีวิถีเมือง พร้อมที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีดีให้กับสังคมต่อไป


“นางสาวอารีวรรณ อังคกษมรัตน์”กล่าวว่า สวัสดีค่ะ หนูชื่อนางสาวอารีวรรณ อังคกษมรัตน์ นักศึกษาระดับชั้น ปวส.1วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จากที่หนูได้มีโอกาสทำงานในตำแหน่งสำคัญต่างๆมากมาย เช่น งานองค์การนักวิชาชีพในอนาคตแห่งประเทศไทย งานศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา แต่ก็ยังรู้สึกว่าที่หนูได้ทำ มันยังไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่หนูต้องการจริงๆ แต่พอหนูได้มีโอกาสเข้าร่วมชมรมทูบีนัมเบอร์วันของวิทยาลัย ได้ทำกิจกรรมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมพัฒนาสมาชิกภายในวิทยาลัย กิจกรรมรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด กิจกรรมปรับทุกข์สร้างสุขแก้ปัญหาพัฒนาEQ หนูรู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่ใจหนูต้องการ ผลการดำเนินงานทูบีนัมเบอร์วัน ทำให้หนูได้รับเลือกเป็นผู้จัดการศูนย์เพื่อนใจ ชมรมทูบีนัมเบอร์วันของวิทยาลัย ได้รับฟังปัญหาของทุกๆคนที่ต้องการคำปรึกษา หรือแค่ต้องการคนรับฟัง หนูพร้อมและเต็มใจที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ และในปีที่ผ่านมาหนูได้เข้าประกวดสถานศึกษาอาชีวศึกษาและได้เข้ารอบระดับประเทศซึ่งรวมถึงในปีนี้ด้วย ถ้าถามว่าอะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้หนูมาทำสิ่งเหล่านี้ ก็คือพี่น้องในชมรมทุกคนและรวมถึงสมาชิกในสถานศึกษา เหตุผลที่หนูมาเข้าร่วมแคมป์ในครั้งนี้ เพราะต้องการจะนำสิ่งที่ได้มาเรียนมารู้ ไปบอกไปส่งต่อให้กับเพื่อนๆน้องๆสมาชิกรุ่นต่อๆไปและหนูก็จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ หนูจะมุ่งมั่นสานต่อกิจกรรมทูบีนัมเบอร์วัน เพื่อให้อาชีวศึกษารุ่นต่อๆไปได้มาอยู่ในจุดๆนี้เหมือนกันกับหนู เพราะทูบีนัมเบอร์วันมีแต่ให้ เพราะทูบีสร้างคนดีและคนเก่ง
“น.ส.นูเรียยาณี โต๊ะเด”กล่าวว่าสวัสดีค่ะทูลกระหม่อมหนูชื่อน.ส.นูเรียยาณี โต๊ะเด ค่ะวันแรกที่หนูมาแคมป์หนูรู้สึกกังวลมากๆค่ะ เพราะหนูมาจากสถานพินิจเป็นเด็กที่เคยทำผิดมาก่อน หนูกลัวเพื่อนจะไม่คบ เวลาอยู่ในห้องหนูก็กลัวว่าเวลาของหายแล้วเพื่อนๆจะว่าหนูเป็นคนขโมยไป แต่หนูโชคดีที่เพื่อนในห้องหนูเข้าใจและเป็นเพื่อนเป็นที่ปรึกษาให้หนูตลอด เพื่อนๆทำให้หนูรู้สึกว่าหนูไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เพื่อนๆทุกคนดีกับหนูมาก ทำให้หนูไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกหรือแตกต่างไปจากเพื่อนๆเลย หนูก็ไม่เคยอายเลยที่หนูมาจากสถานพินิจเพราะมันเป็นความจริงที่หนูแก้ไขไม่ได้ ถึงหนูจะเคยทำผิดแต่ตอนนี้หนูเปลี่ยนไปแล้ว หนูไม่ใช่เด็กคนนั้นอีกแล้ว เด็กที่ไม่เอาไหนคนนั้นถูกกำจัดตั้งแต่หนูได้รู้จักทูบีนัมเบอร์วันและได้เป็นส่วนหนึ่งของทูบี นัมเบอร์วัน หนูรักโครงการนี้มากเพราะทำให้หนูมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น กล้าแสดงออกมากขึ้นและทูบีนัมเบอร์วันแคมป์ ทำให้หนูได้ลองก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเอง เช่น การเต้นโคฟเวอร์แดนซ์ การเป็นพิธีกร แอคติ้ง และอีกหลายๆอย่างที่หนูได้จากแคมป์นี้ และได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น หนูขอกราบขอบคุณทูลกระหม่อม ป้าหม่อม และเพื่อนๆจากชมรมทูบีนัมเบอร์วันทั่วประเทศที่คอยดูแลและมอบมิตรภาพที่ดีให้กับหนู
“เพื่อนๆจากชมรมทูบีนัมเบอร์วันทั่วประเทศเปรียบเสมือนน้ำสะอาดที่ช่วยล้างหัวใจเยาวชนที่เคยก้าวพลาดให้กลับมาสดใสอีกครั้ง” ทูบีนัมเบอร์วันแคมป์ที่ 30 รักทูลกระหม่อมค่ะ
“ นายธนพัฒน์ เทศนอก” กล่าวว่าสวัสดีครับทูลกระหม่อม กระผมชื่อนายธนพัฒน์ เทศนอก อายุ 18 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประทานชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนย่านตาขาวรัฐชนูปถัมภ์ จังหวัดตรัง ทูลกระหม่อมครับมีหลายคนในแคมป์รวมถึงตัวผมเองด้วยครับ ที่มีคำถามว่ามาแคมป์นี้แล้วจะได้อะไรกลับไป ทำไมเราเสียสละเวลามาแคมป์ ทำไมเราต้องเหนื่อย ต้องทำนู้น ทำนี่ แต่ทูลกระหม่อมเชื่อไหมครับว่า วันนี้เป็นวันที่พวกเราจะต้องจากกัน วันนี้พวกเราได้คำตอบแล้วครับ ว่ามาที่นี่แล้วได้อะไร สิ่งที่พวกเราได้คือสามารถนำประสบการณ์และทักษะที่ได้รับจากค่ายนำไปถ่ายทอดให้กับน้องๆในโรงเรียน ลงไปสู่ชุมชน และขึ้นสู่จังหวัด เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่และความเข้มแข็งให้กับ TO BE NUMBER ONE ครับ และสิ่งสำคัญที่มากกว่านั้น TO BE NUMBER ONE CAMP ไม่เคยแบ่งแยกชนชั้น ไม่เคยแบ่งแยกเพศ ไม่เคยแบ่งแยกภูมิภาค ไม่เคยแบ่งแยกภาษา ไม่เคยแบ่งแยกสีผิว เราสามารถเข้ากันได้ สามัคคีช่วยเหลือกัน เพราะคำว่าพวกเราคือครอบครัว TO BE ครอบครัวเดียวกันครับ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในค่าย พวกเราสร้างตำนาน สร้างเสียงหัวเราะ สร้างมิตรภาพ สร้างรอยยิ้ม มันมีความสุขไม่อยากกลับเลยครับ เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะได้เจอกันอีกไหม มันเป็นความรู้สึกที่ใจหายมากๆเลยครับ
ผมขอขอบคุณทูลกระหม่อมและโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ทำให้พวกเราได้มาพบกันและสร้างสิ่งดีๆต่อกัน เด็ก TO BE NUMBER ONE ทุกคนเปรียบดังเหมือนเพชร ที่มีโครงการ TO BE NUMBER ONE คอยเจียร