เมื่อวันวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด “ทูบีนัมเบอร์วัน” (TO BE NUMBER ONE ) ประจำปีงบประมาณ 2567 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี โดยมี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้แทนจากกระทรวงต่างๆ ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรด้านสื่อมวลชน เฝ้ารับเสด็จ
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานวโรกาสให้จัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการทูบีนัมเบอร์วันเป็นประจำทุกปี เพื่อทรงรับทราบผลและแผนงานของทุกหน่วยงานที่ร่วมดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE และพระราชทานแนวทางการดำเนินงาน รวมทั้งทรงให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันพัฒนางานในโครงการให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน
สำหรับผลงานเด่นของโครงการ TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2566 ได้แก่ การรณรงค์สร้างกระแสค่านิยม “เป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด” ผ่านสื่อในรูปแบบและช่องทางต่างๆ การเสด็จเยี่ยมสมาชิกในพื้นที่ส่วนภูมิภาค รวม 18 จังหวัด นับเป็นการรณรงค์กระตุ้นการดำเนินงานที่ประสบผลสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE และสมาชิกใครติดยายกมือขึ้นทั่วประเทศ กว่า 29 ล้านคน นอกจากนี้ โครงการฯยังมุ่งเปิดพื้นที่บวกให้เยาวชน ได้แสดงออกทางความคิดอย่างสร้างสรรค์ เสริมสร้างการพัฒนาทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การประกวด TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE ในปี 2566 มีทีมเข้าร่วมแข่งขันรวม 289 ทีม และมีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมรวม 9,000 คน, การประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นต้นแบบให้กับสมาชิกทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินงานมาแล้ว 13 รุ่นๆ ละ 40 คน รวม 520 คน, การจัด “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” หรือ “TO BE NUMBER ONE CAMP” จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงปิดภาคการศึกษา ใช้เวลาร่วมกิจกรรม 6 วัน 5 คืน ทำให้สมาชิกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในหลายด้าน ทั้งการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ทัศนคติเชิงบวก การทำงานเป็นทีม บุคลิกภาพที่เหมาะสม และสามารถนำความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่ได้พัฒนาจากการเข้าค่ายไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆ สมาชิกในโรงเรียนและชุมชนของตนเอง
ส่วนกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนโครงการ TO BE NUMBER ONE คือการดำเนินงานผ่านระดับจังหวัด ปัจจุบันครบทุกจังหวัด ระดับอำเภอ มีอำเภอที่สามารถพัฒนาศักยภาพตามเกณฑ์มาตรฐานระดับดีเด่นและต้นแบบแล้ว 50 อำเภอ และระดับเขตในกรุงเทพมหานคร ครบทั้ง 50 เขต นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจฯ เรือนจำ/ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติ รวมทั่วประเทศ 75,854 แห่ง และได้ขยายไปยังห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีก 5 แห่ง
สำหรับในปี 2567 โครงการ TO BE NUMBER ONE มีแผนดำเนินกิจกรรมตามยุทธศาสตร์ 3 ส คือ สร้างกระแส, สร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ, สร้างและพัฒนาเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนเพิ่มเติม คือ การพัฒนาฐานข้อมูลใหม่ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาเกณฑ์ตัวชี้วัดการดำเนินงานจังหวัด อำเภอ เขต กรุงเทพมหานคร รวมทั้งชมรม และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในทุกประเภท ให้มีคุณภาพและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเยาวชนทั้งกลุ่มปกติและกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้น