วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยี่ยมสมาชิกและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดชัยภูมิ ทรงเปิดชมรม TO BE NUMBER ONE และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ โรงเรียนสตรีชัยภูมิ อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิโดยมีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ, นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต,หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิโครงการ TO BE NUMBER ONE หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ ข้าราชการทุกหมู่เหล่า นักเรียน นักศึกษาและประชาชนจังหวัดชัยภูมิเฝ้ารับเสด็จ
นายแพทย์ชลน่าน กราบทูลรายงานในการเฝ้ารับเสด็จว่า ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าพระบาททรงห่วงใยและทรงทุ่มเท ทรงงานภายใต้โครงการ TO BE NUMBER ONE เพื่อ“เยาวชน” ที่เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าและเป็นอนาคตที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมาใต้ฝ่าพระบาททรงมีน้ำพระทัยมุ่งมั่นดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ด้วยความเข้าใจ เข้าถึงอารมณ์จิตใจของเยาวชนวัยรุ่นอย่างลึกซึ้ง ทรงทำให้เยาวชนวัยรุ่น ซึ่งโดยธรรมชาติจะเป็นช่วงวัยที่ไม่ค่อยยอมรับอะไรได้ง่ายนัก แต่ทรงสามารถทำให้พวกเขารู้สึกดีและเปิดใจยอมรับโครงการ TO BE NUMBER ONE ทรงงานสุขภาพจิตโดยไม่ทรงพูดถึงสุขภาพจิต ทรงใช้หลักจิตวิทยาการให้คำปรึกษาแก่เยาวชนในทุกประเด็นคำถาม โดยไม่มีเงื่อนไข ทรงก่อให้เกิดความร่วมแรง ร่วมใจของทุกภาคส่วน ในการร่วมกันดำเนินกิจกรรม เพื่อการป้องกันปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนอย่างจริงจัง
แนวคิดและกิจกรรมในโครงการ TO BE NUMBER ONE มุ่งเน้นการให้โอกาสโดยให้เยาวชนที่เสพยาเปิดเผยตนเองและสะดวกใจในการเข้ามารับการบำบัดและเพิ่มพื้นที่บวกให้เยาวชนทั่วไปได้พัฒนาและแสดงความสามารถที่หลากหลาย ด้วยการใช้กิจกรรมเป็นสื่อเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุข และสนุกกับการเรียนรู้กิจกรรมของโครงการฯ ตามแนวทางพระราชทานไม่ได้ส่งผลเฉพาะด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดแต่ได้พิสูจน์แล้วว่าช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเยาวชนให้มีคุณภาพมีความกล้า มีความมั่นใจ ทำให้มีความรู้สึกดีๆกับตัวเอง เกิดความภาคภูมิใจในตัวเองและอยากแสดงออกในทางที่ดีต่อผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้ นำไปสู่ความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ ทำให้รู้บทบาทหน้าที่และมีทัศนคติเชิงบวกต่อสังคมโดยรวม
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ข้าพระพุทธเจ้าในนามผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทรงไว้วางพระทัย มอบหมายให้ทำหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ในภาพรวมขอถวายคำมั่นว่าจะรับใช้สนองพระปณิธานใต้ฝ่าพระบาทอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าจังหวัดชัยภูมิ ได้น้อมนำโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE มาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาวัยรุ่นและเยาวชน มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 21 ปี ภายใต้แนวคิด “เป็นหนึ่ง โดยไม่พึ่งยาเสพติด” สร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ เป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีความเชื่อมั่น เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง หลีกเลี่ยงและห่างไกลจากยาเสพติด โดยการบริหารจัดการเชิงบูรณาการ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน มีองค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุน และมีการขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 6 – 24 ปี จำนวน 217,266 คน คิดเป็นร้อยละ 94 มีอำเภอและชมรมฯ ในชุมชน สถานศึกษา สถานประกอบการ เรือนจำ สถานพินิจฯ และสำนักงานคุมประพฤติ รวม 1,479 ชมรม มีศูนย์เพื่อนใจฯ รวม 527 แห่ง จังหวัดชัยภูมิได้มุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE เพื่อตอบสนองพระปณิธานขององค์ประธานมาอย่างต่อเนื่อง
นายชัยรัตน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่าโรงเรียนสตรีชัยภูมิได้น้อมนำหลักการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE มาเป็นแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 และได้เข้าร่วมกิจกรรมของโครงการ TO BE NUMBER ONE ในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ ทุกปีอย่างต่อเนื่องและสร้างความสำเร็จตลอดมา
ชมรม TO BE NUMBER ONE โรงเรียนสตรีชัยภูมิ ก่อตั้งมาแล้ว 6 ปี ดำเนินงานโดยยึดหลัก 3ก. 3ย. ได้มีการสร้างค่านิยมในกลุ่มเยาวชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผ่านสื่อและกิจกรรมต่างๆ มีการบูรณาการร่วมกับงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิก กิจกรรมเด่นของชมรม ได้แก่ การแข่งขันประกวด Cover Dance การพัฒนาศักยภาพให้อาสาสมัครแกนนำเปิดโอกาสการเรียนรู้ที่หลากหลาย สำหรับศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE เปิดบริการทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ ในช่วงเช้า พักกลางวัน และช่วงเย็น โดยมีอาสาสมัครประจาศูนย์ 15 คน มีการให้คำปรึกษาแก่เพื่อนที่มีปัญหา และหากมีปัญหารุนแรงจะส่งต่อให้ครูที่ปรึกษาหรือครูฝ่ายแนะแนวต่อไป มีการแก้ปัญหาพัฒนา EQ เพื่อให้สมาชิกมีทักษะการดำเนินชีวิต ค้นหาและเข้าใจตนเอง มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ และมีกิจกรรมสร้างสุข ที่สมาชิกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เช่น ร้องเพลง เต้น วาดภาพ งานออกแบบเสื้อผ้า งานตัดเย็บกระเป๋าผ้าขาวม้า
ในวโรกาสนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชทานพระอนุญาตให้สมาชิก “ใครติดยายกมือขึ้น” จากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชัยภูมิ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชัยภูมิ สาขาภูเขียว และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิซึ่งเคยติดยาเสพติด และปัจจุบันมีความมุ่งมั่นที่จะเลิกเสพ เข้าเฝ้าพร้อมทั้งพระราชทานกำลังใจและคำแนะนำเพื่อป้องกันความผิดพลาดซ้ำในกลุ่มเสี่ยง และพระราชทานคำปรึกษาแก่สมาชิก TO BE NUMBER ONE จากสถานศึกษาต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ที่ซักถามปัญหาซึ่งจะนำไปสู่การจัดการกับปัญหาอย่างเหมาะสม