ทีเอ็มบีและธนชาต เปิดมุมมองสร้างโอกาสใหม่ในการลงทุน เคาะ 6 ธีมเด่นรับมือความผันผวน มองสหรัฐฯ-ตลาดเกิดใหม่หนุนเศรษฐกิจโลกเติบโตได้

0
1670

ทีเอ็มบีและธนชาต จัดกิจกรรมสัมมนา TMB | Thanachart Investment Forum 2020: Chance for Growth ในหัวข้อ “เปิดโลกปรับทิศเพื่อโอกาสใหม่ในการลงทุน“ เพื่อให้ความรู้เรื่องการลงทุนกับผู้ที่สนใจ โดยมีพันธมิตรจาก 7 บลจ.ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อมุนดิ (สิงคโปร์), บลจ. ทหารไทย จำกัด (TMBAM Eastspring), บลจ.วรรณ จำกัด, บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน), บลจ.ทิสโก้ จำกัด, บลจ.พรินซิเพิล จำกัด และบลจ.ธนชาต จำกัด มาร่วมกันเปิดมุมมองให้นักลงทุนในการปรับทิศการลงทุนรับมือกับความผันผวนของตลาดให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพในปีนี้ พร้อมแนะนำแนวทางการลงทุนในกองทุนประเภทต่างๆที่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อช่วยให้ทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะยาว (Financial Well-being) เพราะทีเอ็มบีและธนชาตเชื่อว่า Financial Well-being จะช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินในชีวิตได้

แม้ในปี 2563 ตลาดยังคงผันผวนจากความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยในประเทศและนอกประเทศ การลงทุนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ทีเอ็มบีและธนชาตมีมุมมองตรงกันว่า โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนยังมีอยู่ เพียงนักลงทุนต้องมองหาโอกาสลงทุนที่กว้างขึ้น และลงทุนหลากหลาย โดยกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมกับศักยภาพเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนมากขึ้นในสภาวะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังอยู่ในระดับต่ำอีกยาวนาน ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตประมาณ 3.2% และเติบโตต่อเนื่องในปีถัดไป โดยมีสหรัฐอเมริกาและตลาดเกิดใหม่ อย่างเช่น เม็กซิโก บราซิล อินเดีย และรัสเซีย รวมทั้งอาเซียน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาคือ จีน ทั้งเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19

สำหรับ 6 ธีมเด่น (Key Themes) ในการลงทุนในปี 2653 มีดังนี้ 1. ตราสารหนี้ระดับโลก (Global Fixed Income) 2. หุ้นยุโรป (European Equities) 3. หุ้นไทยปันผลสูง (Thai High Dividend Yield Equities) 4. หุ้นอาเซียน (ASEAN Equities) 5. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในประเทศสิงคโปร์และไทย และ 6. หุ้นเทคโนโลยี (Technology) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก