ทิพยประกันภัย ผนึก แกร็บ ส่งประกันภัยเพื่อรถรับจ้างผ่านแอปฯ ครั้งแรกในไทย!

0
564

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮล ดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และนายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ร่วมเปิดตัว “ประกันภัยรถยนต์

สำหรับรถรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์” เพื่อเจาะกลุ่มคนขับรถที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันเป็นครั้งแรกในไทย ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานประกันภัยรถยนต์ สำหรับบริการขนส่งสาธารณะในยุคดิจิทัล โดยชูจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นและราคาประหยัดผ่านโมเดล Pay-Per-Use ที่ให้ความคุ้มครองแบบรายวัน นับตั้งแต่พาร์ทเนอร์คนขับเข้าสู่ระบบเพื่อรับงานในแต่ละครั้ง ซึ่งมีระยะเวลาคุ้มครอง 24 ชั่วโมงและไม่ต้องจ่ายรายปี โดยจะคุ้มครองคนขับและผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก สูงสุด 5 แสนบาท นอกจากนี้ แกร็บยังได้พัฒนาแอปพลิเคชันของคนขับให้มีฟีเจอร์ในการตรวจสอบรายละเอียดและสิทธิความคุ้มครองด้านประกันภัยได้แบบเรียลไทม์ ทั้งประกันภัยอุบัติเหตุและประกันภัยรถยนต์ เพื่อให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกให้กับพาร์ทเนอร์คนขับทุกคน

ดร.สมพร สืบถวิลกุล กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างทิพยประกันภัย และแกร็บในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของวงการประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทยที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิต และพฤติกรรมของคนในยุคดิจิทัลที่หันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อสร้างรายได้ โดยกรมธรรม์นี้ให้ความคุ้มครองเป็นแบบรายวัน และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อีกทั้งภายใต้ความร่วมมือนี้ ทิพยประกันภัยพร้อมให้บริการด้านสินไหมอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงยังมี TIP Smart Assist คอยประสานงานและให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุอีกด้วย”

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กล่าวว่า “ภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้ออกกฎหมายรองรับการนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการรับส่งผู้โดยสารสาธารณะ แกร็บ ในฐานะผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มให้บริการเรียกรถสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน และได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์คนขับปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆ ของกรมการขนส่งทางบกอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำใบขับขี่สาธารณะ การตรวจสภาพ และจดทะเบียนรถทั้งยังได้พยายามพัฒนาระบบงานและอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ รวมถึงการทำประกันภัยของรถยนต์ที่ให้บริการ ซึ่งถือเป็นหนึ่ง ในข้อบังคับสำคัญของกรมการขนส่งทางบกที่มุ่งสร้างมาตรฐานในด้านความปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจให้กับคนขับ ผู้โดยสารและคนในสังคม”