ปลูกฝังเยาวชน-ชุมชนร่วมลดขยะ ดูแลสิ่งแวดล้อมยั่งยืนก่อนขยายผลสู่โรงเรียน 392 แห่ง “ซีพี ออลล์” ร่วมเดินหน้าแก้ปัญหาการจัดการขยะอย่างจริงจัง เซ็น MOU โรงเรียน CONNEXT ED นำร่อง 54 โรงเรียน ต่อยอดโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” โครงการปลูกฝังเยาวชน-ชุมชน ร่วมลดปริมาณขยะ ที่ประสบความสำเร็จในการลดปริมาณขยะจาก 15 ตัน เหลือ 2 กิโลกรัมต่อเดือน หวังโรงเรียน-ชุมชน แก้ปัญหาขยะและร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม มีขั้นตอน และยั่งยืน เล็งขยายผลต่อเนื่อง สู่ 392 โรงเรียน CONNEXT ED ภายในปีการศึกษา 2565
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโสคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารออลล์ ออนไลน์ และเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า หลังจากการดำเนินงานโครงการต้นกล้าไร้ถัง ของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โครงการที่ปลูกฝังเยาวชนและชุมชนให้ลดปริมาณขยะอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิธีการและขั้นตอนต่างๆ ประสบความสำเร็จ จนสามารถลดปริมาณขยะจากประมาณ 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน ล่าสุด บริษัทจึงนำร่องลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับโรงเรียนภายใต้มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) จำนวน 54 โรงเรียน สนับสนุนโดยซีพี ออลล์ ในการนำโครงการดังกล่าวไปขยายผล ให้แต่ละโรงเรียนนำไปดำเนินการในโรงเรียนของตัวเอง และสร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เพื่อช่วยลดปริมาณขยะทั้งในโรงเรียนและชุมชนใกล้เคียง
“อาจไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่จะลดขยะได้จาก 15 ตัน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะแต่ละโรงเรียนมีบริบทที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เราต้องการเห็น และต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดขึ้น คือการส่งต่อองค์ความรู้และทักษะในการจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดการลดปริมาณการก่อขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมทั้งปลูกฝังจิตสำนึกในการลดขยะไปยังเยาวชน ซึ่งเป็นต้นกล้าแห่งอนาคต เพื่อให้เกิดความใส่ใจดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บรรเทาปัญหามลภาวะอย่างยั่งยืน” นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับโครงการต้นกล้าไร้ถัง ของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการลด ละ เลิก การใช้สิ่งที่สามารถกลายมาเป็นขยะ เช่น หลอด จาน กระดาษ แก้วน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยอาศัยการสร้างความร่วมมือกับพ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียนยกเลิกการขายสินค้าที่จะสร้างขยะ การซื้อแก้วน้ำส่วนตัวให้นักเรียนเพื่อลดการใช้แก้วน้ำแบบครั้งเดียวทิ้ง ขณะเดียวกัน ก็บ่มเพาะนักเรียนในโรงเรียนให้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในชีวิตประจำวันตั้งแต่ต้น พัฒนาและบูรณาการหลักสูตรให้เกี่ยวข้องกับ การจัดการขยะ นำสิ่งที่คนมองว่าเป็นขยะมารียูส รีไซเคิล มาจัดการเป็นวัสดุอินทรีย์ สร้างรายได้ กลับสู่โรงเรียนจากการจัดการขยะ
โดยซีพี ออลล์ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งให้คำแนะนำ จนเกิดการพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เพื่อมอบองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะ ให้แก่คนในชุมชน ส่งผลให้โครงการต้นกล้าไร้ถัง เป็นโครงการจัดการขยะวิถีใหม่ แตกต่างจากวิถีเดิม ที่มุ่งเน้นการจัดการขยะแบบมีถัง เน้นเพียงการแยกขยะสำหรับถังสีต่างๆ เท่านั้น
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับ 54 โรงเรียนนำร่องในครั้งนี้ จะได้รับคู่มือการดำเนินการจัดการขยะ แบบโครงการต้นกล้าไร้ถังพร้อมสื่อการเรียนรู้ เพื่อจัดทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เพื่อกลับไปใช้ดำเนินการต่อในโรงเรียนของตัวเอง ขณะเดียวกัน จะได้รับคำแนะนำ การติดตาม และประเมินผลอย่างใกล้ชิด จากทั้งโรงเรียนอนุบาลทับสะแก โรงเรียน Best Practice ภายใต้โครงการ CONNEXT ED ที่ริเริ่มโครงการนี้ และทางซีพี ออลล์ ตลอดช่วงปีการศึกษา 2563
“ทุกโรงเรียนต่างมีความมุ่งมั่นในการลดปริมาณขยะในโรงเรียนและชุมชนโดยรอบอยู่แล้ว วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังเยาวชน บ่มเพาะต้นกล้า ให้มีความรู้และทักษะในการจัดการขยะอย่างถูกวิธี และยั่งยืนต่อไป” นายสุวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ ได้วางโรดแมป การขยายผลโครงการต้นกล้าไร้ถังไปสู่ทั่วประเทศ โดยจะเริ่มดำเนินการกับโรงเรียนที่อยู่ในเครือข่ายสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ภายใต้ความดูแลของซีพี ออลล์ จำนวน 392 โรงเรียน เริ่มจากปีการศึกษา 2563 จำนวนประมาณ 54โรงเรียน ปีการศึกษา 2564 เพิ่มเป็น 100 โรงเรียน และปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เพิ่มจนครบ 392 โรงเรียน
สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในพันธมิตรก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) และเป็น 1 ใน 41 องค์กรเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญและตอบรับการมีส่วนร่วมทางการศึกษา โดยปัจจุบัน ซีพี ออลล์ ดูแลโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED จำนวน 392 แห่ง ทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนโรงเรียนให้สามารถดำเนินโครงการด้านต่างๆ ทั้งโครงการที่ช่วยลด ความเหลื่อมล้ำ โครงการพัฒนาคุณภาพคน โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากในองค์กรร่วมลงพื้นที่และคอยให้คำแนะนำในการพัฒนาโครงการของโรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด