แม้ยุคที่สถานการณ์ไม่เป็นใจในหลายธุรกิจ ยังไม่รู้ว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะกลับสู่ภาวะปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การทำตลาดก็หยุดนิ่งไม่ได้ หากอยากเป็น “แบรนด์” ในใจลูกค้า ไม่ว่าจะยุคนี้ หรือจะ New Normal กลยุทธ์ในการสร้าง Brand Loyalty มัดใจผู้บริโภคไม่ให้เปลี่ยนใจยังสำคัญเสมอ เช่นเดียวกับ “ซินเนอร์จี้” ขายตรงชื่อเก่า แต่ฝีมือเก๋า ภายใต้การนำทัพของ “Ben Magalei” (Vice President of Thailand & SEA) พร้อมสลัดเปลี่ยนลุคแบรนด์ พลิกโฉมธุรกิจให้กลับมาสดใสกว่าที่เคย
“ผมย้ายจากโตเกียวเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2020 เพื่อดูแลตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อปั้นให้ 3 ประเทศนี้เติบโตมากขึ้น เพราะสงสัยว่าทำไมที่ตลาดไทยถึงไม่โตเลย สวนทางกับตลาดเกาหลี และไต้หวันที่เติบโตมาก จึงมีแผนร่วมงานกับไทย เพื่อเพิ่มความเติบโต อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี ร่วมกับผู้นำหลายคน พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ไปสู่ผู้นำใหม่ ๆ เพิ่มความคึกคัก สดชื่น สดใสในการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่อไป”
โดยแม่ทัพฝีมือฉกาจคนนี้ บริหารธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “ซินเนอร์จี้ 2.0” เริ่มมีการใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จ หวังดึงผู้บริโภคไม่ให้เปลี่ยนใจ แถมสร้าง ‘สาวก’ ซื้อซ้ำบอกต่อ ก้าวสู่สเต็ปใหม่ในปี 2023 จึงนำแผนมาใช้ในตลาดไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซียพร้อมกัน หลังจากเข้ามาบริหารงานลำดับแรกในปี 2022 ที่ผ่านมา มีการรีแบรนด์ดิ้ง (Rebranding) ออฟฟิศใหม่ ควบคู่การใช้ระบบ อีเกิ้ล (Eagles) ส่งเสริมการเติบโตให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
“กลุ่มสินค้าตอนนี้ แบ่งเป็น 2 หมวด เดิมบริษัททำธุรกิจด้วยสินค้ากลุ่มอาหารเสริมเป็นหลัก เราดังเรื่องดีท็อกซ์ ควบคุมน้ำหนัก ข้อดีอีกอย่างเรามีโรงงานผลิตเอง วัตถุดิบปลูกเองไม่ได้นำเข้ามาขาย ทำเองหมดเลยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สร้างสัดส่วนยอดขายสูงถึง 90% ส่วนกลุ่มสกินแคร์แบรนด์ลามาร่า (L’amara) มีทั้งหมด 6 รายการ ล่าสุดพึ่งเปิดตัว ครีมกันแดด มีสัดส่วน 10% แผนงานในปีหน้าจะเห็นภาพชัดขึ้นเพราะเราจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงหลายช่วงวัย รวมถึงจัดทริปใหม่ ผลักดันการทำงานของผู้นำภายใต้การส่งเสริมของบริษัท เรายังเปิดศูนย์การเรียนรู้ที่ชั้น 2 ทุกวันจันทร์-เสาร์ ลูกค้าจะสามารถเข้ามาเลือกลองผลิตภัณฑ์ เปรียบเทียบก่อนใช้ – หลังใช้ได้ตามต้องการ”
Ben Magalei (Vice President of Thailand & SEA) ยังเปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับปี 2022 บริษัทจะเริ่มมีการเติบโต มีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป จะมองเห็นชัดเจนทีละน้อย นับจากยอดขายรวมตลอด 6 เดือนผ่านมาเท่านั้น ถือเป็นสัญญาณการเติบโตที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง
“เชื่อว่าในปี 2023 เราจะมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามา จะมีอะไรที่สนุกมากขึ้น ไม่ใช่แบบขายตรงทั่วไป เราจะทำให้สนุกขึ้น สดใสขึ้น ด้วยแผนการตลาด กิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมลดน้ำหนัก ส่งเสริมความงาม ตลอดจนการการวางระบบแบบแผนที่จะช่วยให้มั่นคงขึ้น ภายใต้ชื่อ“ซินเนอร์ไพรม์” เป็นระบบการซื้อตัดยอดอัตโนมัติทุกเดือน มีส่งฟรี มีส่วนลดให้ มีของขวัญ ของแถม เชื่อว่าหากทุกคนใช้ระบบนี้ องค์กรจะมั่นคงทั้งบริษัทและผู้นำ
นอกจากนี้เรายังมีแผนดำเนินธุรกิจโดยเน้น 3 ส่วน คือ 1. แผนดึงดูดคนที่ไม่มีประสบการณ์ขายตรงเข้ามา ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ กิจกรรมส่งเสริมการขาย 2. เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ลามาร่าและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 3. สร้างความแปลกใหม่ ให้เป็นที่จดจำและโดดเด่นขึ้นมา ต้องรอติดตามในปีหน้า”