ซัคเซสมอร์ พลิกวิกฤติเศรษฐกิจสู่โอกาส เดินแผนผลักดัน พนักงาน นักธุรกิจ ลูกค้า สู้พิษโควิด – 19

0
2435

บริษัท  ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM  โดย นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร และ นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมแถลงข่าวผ่าน ZOOM เผยกลยุทธ์รับมือวิกฤตการณ์โควิด -19 เดินแผนผลักดันเครื่องมือทางธุรกิจ หวังให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน มุ่งเน้นสร้างแพลนฟอร์มใหม่  รองรับการทำงานที่สะดวกและง่าย  ให้กับ พนักงาน  นักธุรกิจ และลูกค้า  พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีกด้วย

นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท  ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM  เปิดเผยว่า “จากสถาณการณ์ไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากคนเก็บตัว ตามนโยบายภาครัฐฯ  “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ทำให้บริษัทแก้เกมส์ โดยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์  ใส่ใจ สร้างแรงผลักดัน สื่อสารกับสมาชิกเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ตรงใจกับสถาณการณ์โควิด 19 ปัจจุบันนักธุรกิจซัคเซสมอร์ยังเหนียวแน่น เพราะที่ผ่านมาเราใส่ใจ distance ทางร่างกายแต่หัวใจยังใกล้ชิดกันเช่นเดิม”

นอกจากนี้ในส่วยของสาขาบริษัทฯ มีการปรับแผนใช้วิธีปรับลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า การบริหาร cash flow ที่มีประสิทธิภาพ  โดยมีหน่วย customer service ที่จัดสินค้าให้กับนักธุรกิจ เพียงโทรสั่งซื้อสินค้า และยังคงจัดส่งให้ตามบ้าน ซึ่งสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี สาขาทั้งหมดของซัคเซสมอร์ ยังเปิดให้บริการตามปกติ  ทั้งนี้จะปิดแต่มุม pick & pay ที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าได้เอง  ส่วนการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัทฯ มีพนักงานจัดของเตรียมไว้ให้อีกด้วย

สำหรับการจัดประชุมและการจัดกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ  ใช้วิธีจัดประชุมผ่าน zoom หรือไลฟ์ทาง Facebook แทน ขณะเดียวกันตลาดต่างประเทศ ซัคเซสมอร์ ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่ประเทศไทย โดยแต่ละสาขายังคงเปิดให้บริการตามปกติ

“ผลประกอบการเรายังคงดำเนินธุรกิจยึดตามแผนเดิม และเพิ่มในส่วนของการพัฒนาคน พัฒนาเครื่องมือ การเข้าใจตลาด สอนให้คนเข้าใจการทำออนไลน์ การทำ ads ที่เหมาะกับยุคปัจจุบันเราถือโอกาสนี้หล่อหลอมใจของพนักงาน ให้ซัคเซสมอร์ไปต่อ  ส่วนมาตรการณ์เคอร์ฟิว 24 ชม บริษัทฯ มีแผนรองรับ WFH 100% สำหรับเรื่องการจัดส่งสินค้า เราจะคุยกับซัพพลายเซนเรื่องโลจิสติกส์ และวิเคราะห์โอกาสว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนของคนจัดสินค้ากับโลจิสติกส์ เราดำเนินการตามปกติ เพราะวางแผนล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว”            

ด้าน  นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ กล่าวถึงกลยุท์ในการปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตการโควิด-19  ว่า  “ในวิกฤตการณ์อย่างนี้ เราจำเป็นต้องทำแผนงานให้ชัด เพื่อที่จะผลักดันกลยุทธ์และเครื่องมือทางธุรกิจเพื่อไปต่อ ให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน เดินหน้าธุรกิจได้แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1. ด้านการสื่อสารและพัฒนา

  • กลุ่มแรก คือ พนักงาน

โดยการประกาศผลลัพธ์หลักที่บริษัทฯ มุ่งเน้นอยู่ในขณะนี้ คือ

  • การดูแลพนักงานไปพร้อมๆ กับการช่วยชาติ: เน้นการปกป้องพนักงานทั้งหมดของเราให้ปลอดจากโรคโควิด -19 โดยเรามีมาตรการ Work From Home หรือถ้าจำเป็นต้องเข้าประชุม เราจะมีการเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม ทั้งนี้บริษัทฯ เน้นการใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น โปรแกรม Zoom เพื่อการวางแผนงานที่ชัดเจน มีวินัยในการทำงาน สามารถฟีดแบกการทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ เป็นการช่วยคนในชาติ ในทางอ้อมอีกด้วย
  • กลุ่มที่สอง คือ นักธุรกิจ

ทางบริษัทฯ ได้มีการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ บนดิจิตัล แพลตฟอร์ม มาใช้ เช่น Facebook, Line เพื่อให้บริการลูกค้าในตลาด ในการทำการตลาดแบบ business distance

  • กลุ่มที่สาม คือ ลูกค้า

ซัคเซสมอร์มีการสร้างมหาวิทยาลัยแบบออนไลน์ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สามารถใช้เครื่องมือดิจิทัล ในการสอนธุรกิจ ส่งมอบความรู้และแนวคิดให้สามารถส่งต่อธุรกิจเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้

  1. แผนพัฒนาบุคลลากรของบริษัทฯ โปรแกรมที่สามารถเรียนรู้ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน เนื้อหาหลักคือการให้มุมมองภาวะผู้นำ ความรู้ในการบริหารกิจการ และทักษะการเทรนบุคคลากรให้มีมุมมองในการทำธุรกิจเพื่อเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตในการเป็นชุมชนคนสุขภาพดี คุณภาพชีวิตที่ดี สร้างแบรนด์ผ่าน SCM Spirit คือ 

S: Service & Sharing:

สร้างความสุขให้ลูกค้าและสังคม คืนความสุขสู่สังคม พัฒนาคุณภาพชีวิตได้ดีขึ้น

P: Performance:

สร้างผลลัพธ์ที่ดี พัฒนาคนสายพันธุ์ใหม่ ทำชีวิตให้มีความก้าวหน้า มี Performance ที่ดีขึ้น

I: Integrity & Improvement:

ความเป็นธรรมกับธุรกิจ กับลูกค้า กับคู่ค้า กับบริษัท และสังคม ว่าองค์กรมีความซื่อสัตย์ ไว้วางใจได้

ด้วยแนวคิดถ้าเราสามารถพัฒนาคนให้ดีขึ้นวันละ 1% ปีนึงก้อจะดีขึ้น 365%

R: Respect:

ให้ความเคารพนับถือและให้เกียรติผู้คน ซึ่งเราจะให้เกียรติและให้ความจริงใจกับลูกค้าเสมอ

I: Innovation นวัตกรรม ซึ่งเป็นจิตวิญญาณเป็น Spirit ขององค์กร

T: Teamwork ทั้งในส่วนของฝ่ายบริหาร นักธุรกิจ ลูกค้า ซัพพลายเชน รวมถึงพี่น้องผู้สื่อข่าว ความเป็น

SCM Spirit จะถูกถ่ายทอดออกไปอย่างต่อเนื่อง สามารถจับต้องได้

เมื่อองค์กรสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง เราจะเผยแพร่สิ่งนี้ออกไปสู่สังคมในวงกว้าง จนประสบความสำเร็จในที่สุด

ขณะที่แผนการสื่อสาร การทำ podcast เพื่อส่งต่อแนวคิดในการดำเนินธุรกิจในช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ทั้งทาง https://ceonoppakrit.com/podcast/ , ceonoppakrit.com และ YouTube 

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ ได้แก่  1.ผลิตภัณฑ์ Phytovy Liv : นวัตกรรมการดีท็อกซ์ลำไส้และตับ ที่ส่งเสริมการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นนวัตกรรม Antibac เฉพาะตัวที่โดดเด่น การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรม Grand Prize จากประเทศเกาหลี (ซึ่งเป็นนวัตกรรมของการผสมสมุนไพรและเทคโนโลยี FIR) ส่งเสิรมการกำจัดสารพิษในลำไส้และตับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  อุดมด้วย Probiotic ช่วยปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ และเส้นใยอาหารช่วยให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่  พร้อมยับยั้งการสะสมของไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยสารสกัด Garcinia Extract จากผลส้มแขก

  1. เจลแอลกอฮอลล์ S Vera: Aloe Vera Cleansing Hand Gel เจลแอลกอฮอล์ล้างมือชนิดไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ช่วยบำรุงมือให้ความชุ่มชื่น นุ่มนวล และ 3. Mask Cosmed+ 3D Premium Anti – Microbial Mask ผ้า Premium Japanese Double Gauze Cotton /2 ชั้น เพื่อป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองจากประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถใส่ได้ทั้ง 2 ด้าน ทำความสะอาด ใช้งานได้หลายครั้ง ซึ่งนี่คือแนวทางของบริษัทฯ ในการปรับตัวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การตลาด โดยสินค้ากลุ่มนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่จะเจาะกลุ่มเป้าหมายเพื่อเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

CEO นพกฤษฏิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนกลยุทธ์ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง ที่จะใช้ดึงสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมธุรกิจ  เราใช้ Application ที่ทำให้คนเข้าหาและทำธุรกรรมง่ายและมีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ โดยใช้ข้อมูลสื่อสารในโซเซียล ต้องดีไซน์มาตอบโจทย์คนเจน Y รุ่น 30 กว่า  อีกทั้งการใช้ micro influencer เพื่อโปรโมทสินค้าของเรา วิธีใช้เครื่องมือต่างๆ เป็น การใช้ Application เพื่อเข้าหาผู้คน โดยมีการสอนทักษะการสร้างแบรนด์ส่วนตัว เช่นทำอย่างไรให้แบรนด์มีสเน่ห์ การถาม-ตอบ เกี่ยวกับการทำสินค้า การรีวิวของคนใช้ ที่ใช้เครื่องมือสำเร็จ รีวิวความพึงพอใจของผู้บริโภค และการนำผลลัพธ์มาโชว์ คือ เรามีการเทรนนิ่งแบบองค์รวมที่พร้อม”

อย่างไรก็ดี การประชุม Zoom กับหลากหลายกลุ่มผู้นำทั้ง Diamond, Platinum, Bronze broze โดยทำการประชุมกันทุกเดือน เพื่อให้ทีมงาน ได้อยู่ในบรรยากาศและมีพลังใจในการสร้างธุรกิจต่อได้ และเชื่อว่าหลังโควิด-19 ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อมอย่างมาก ในส่วนของซัคเซสมอร์ ได้มองตัวเองแป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อ-ขายสินค้าจำเป็นเป็นหลัก และเพิ่มไลน์กลุ่มสินค้าพรีเมียมเรื่องดูแลสุขภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนที่มีฐานะดี เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมองเห็นโอกาสนี้และเสริมเข้าไป

“เมื่อ คิดถึง SCM  ต้องคิดถึงชีวิตที่ยังมีความหวังไปต่อได้ และยังยืนเคียงข้างคุณเสมอ  ดังพันธกิจของบริษัทฯ ที่จะเปลี่ยนแปลงความหวังของผู้คนหลักล้านให้เป็นจริง เราเติมความรู้สึกว่า ผู้บริหารยังมุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อเขา เพื่อให้เชื่อว่าธุรกิจยังไปต่อได้อย่างแน่นอน เราเชื่อว่าในทุกๆ วิกฤตมีโอกาส คนที่ทำงานประจำถูก lock down บางธุรกิจไปต่อไม่ได้ หลายคนอยู่ในภาวะเครียด ต้องมอบโอกาส เพื่อให้ผู้คนมีทางเลือกมากขึ้น  ดังนั้นซัคเซสมอร์ไม่ได้มีแค่สินค้า แต่เราสอนว่าจะทำธุรกิอย่างมืออาชีพได้อย่างไร…ถ้าไม่ทำอะไรเลย และคิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือกแล้ว  จะไปต่อไม่ได้.. มีธุรกิจที่ทุกคนมีทางเลือก ซึ่งเรามีโรงเรียนพัฒนาคนชื่อว่า SCM Leadership Academy เราส่งมอบให้กับผู้คน มีชีวิตที่ดีได้ ซึ่ง SCM จะส่งมอบอย่างมุ่งมั่นต่อไป” CEO นพกฤษฏิ์ กล่าวทิ้งท้าย