ภาคีชาวไร่ยาสูบบุกสภา ยื่น 2,000 รายชื่อต่อส.ส. พรรคฝ่ายค้านจากพื้นที่ปลูกยาสูบ ชี้รัฐบาลเตะถ่วง แก้ปัญหาภาษีบุหรี่ปีต่อปี ชะลอจ่ายเงินชดเชยโควตา จี้กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตหาแนวทางปรับอัตราภาษี และพืชทดแทนภายในเดือนธันวาคมนี้
นายสัน หารสุโพธ์ แกนนำเครือข่ายยาสูบภาคอีสาน และสมาชิกภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย นำชาวไร่ยาสูบ 50 รายจาก 5 จังหวัดภาคอีสาน น่าน เชียงราย สุโขทัย เพชรบูรณ์ ยื่นหนังสือพร้อมรายชื่อชาวไร่กว่า 2 พันรายต่อนายนายสุทิน คลังแสง ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หลังกรมสรรพสามิตชี้แจงช่วยเลื่อนภาษียาสูบ 40% ให้ 1 ปีแล้ว และกำลังศึกษาพืชอื่นที่นำมาปลูกทดแทนพืชยาสูบ ส่วนการจ่ายเงินชดเชย ให้การยาสูบแห่งประเทศไทยทำเรื่องมาอีกครั้ง เพราะนายกรัฐมนตรีได้สั่งชะลอไว้ เนื่องจากให้ความช่วยเหลือมาตรการโควิดไปแล้ว
“พวกเราผิดหวังที่รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการดูแลความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ แก้ปัญหาแบบขอไปที ไม่มีความชัดเจน ปัญหาของชาวไร่ยาสูบถูกพูดถึงมาโดยตลอดในสภาผู้แทนราษฎร มี ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหลายท่านซึ่งมาจากพื้นที่ปลูกจากยาสูบและเข้าใจในปัญหาของพวกเรา ลุกขึ้นอภิปรายในสภาฯ อย่างต่อเนื่อง พร้อมขอให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวไร่ยาสูบและหาแนวทางการขึ้นภาษีให้เหมาะสม ไม่ให้กระทบกับปากท้องและรายได้ของชาวไร่ยาสูบ เพราะตั้งแต่รัฐบาลขึ้นภาษีสรรรพสามิตยาสูบและภาษีเพื่อมหาดไทยเมื่อปี 2560 พวกเราโดนลดโควตารับซื้อใบยา 3 ปีซ้อน รายได้ในชุมชนท้องถิ่นหายไปรวม ๆ กันเกือบ 3 พันล้านบาทตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลก็ทำได้แค่เลื่อนภาษี 40% ออกไปเพียง 1 ปี ซึ่งเป็นแก้ปัญหาปีต่อปีเท่านั้น ชาวไร่ไม่สามารถวางแผนอนาคตหรือคาดการณ์อะไรได้เลย เงินชดเชยที่ชาวไร่ควรได้รับเพราะโดนตัดลดโควตารับซื้อ ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วก็โดนนายกรัฐมนตรีสั่งชะลอการจ่าย ขณะที่เกษตรกรกลุ่มอื่น เช่น อ้อย ลำไย มันสำปะหลัง กลับได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม อยากให้รัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับชาวไร่ยาสูบบ้าง”
ด้านนายสงกรานต์ ภักดีจิตร ตัวแทนชาวไร่ยาสูบ จากจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า “พวกเราชาวไร่ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีอีกเท่าตัวในครั้งเดียว จึงได้นำรายชื่อชาวไร่เพชรบูรณ์และสุโขทัยกว่า 2 พันราย พร้อมขอเรียกร้อง 3 ประการให้ 1) เร่งจ่ายเงินชดเชยโควตายาสูบ ฤดูกาลปลูก 2562/62 ให้กับชาวไร่ 2) กระทรวงการคลังประกาศงดการขึ้นภาษีบุหรี่ไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อรอให้เศรษฐกิจกลับมาลืมตาอ้าปากได้ และให้ชาวไร่มีส่วนในการพิจารณาเรื่องการปลูกพืชทดแทน เพราะการปลูกพืชแบบอื่นซึ่งอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปีขึ้นไป และ 3) พิจารณาอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ที่ไม่ขึ้นแบบก้าวกระโดดทีละมากๆ ในคราวเดียว และประกาศการขึ้นภาษีในระยะยาวเพื่อให้ชาวไร่สามารถวางแผนการปลูกและปรับตัวได้ในอนาคต”
