งานพลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024 จุดประกายขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงโลกปัจจุบันสู่ความยั่งยืน

0
151

การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในปัจจุบัน อุณหภูมิโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วกว่าปกติ สภาพอากาศที่ผิดเพี้ยนไป อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อความรุนแรงของพายุที่เพิ่มขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลคือผลจากพฤติกรรมของมนุษย์ ที่ร่วมกันปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ

หลายประเทศทั่วโลกเริ่มตระหนักให้หันมาให้ความสำคัญในประเด็นนี้อย่างจริงจัง ขณะที่ประเทศไทยเอง ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศเป้าหมายสำคัญคือประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2065

แน่นอนว่าการจะไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น จำเป็นต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

นอกจากภาครัฐจะเป็นผู้กำหนดทิศทางของนโยบายหลัก ภาคเอกชนและภาคประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการจัดงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024: Plastics & Rubber Thailand 2024” ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Step to Net Zero” มีเป้าหมายในการผลักดันให้ไทยสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ โดยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักอุตสาหกรรมกว่า 44,773 คน เข้าร่วมงานและเป็นหนึ่งงานใหญ่ที่จัดพร้อมกันกับงานอินเตอร์แมค งานซับคอน ไทยแลนด์ และไทร์เอ็กซ์โป เอเชีย 2024

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจ อุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่กำลังเติบโต ในฐานะผู้จัดงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024: Plastics & Rubber Thailand 2024” ให้ข้อมูลว่า “สถานการณ์อุตสาหกรรมพลาสติกและยางไทย ปีนี้จะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปี 2566 ที่การผลิตและการบริโภคผลิตภัณฑ์พลาสติกและยาง เติบโตได้เพียงเล็กน้อย โดยมองปัจจัยหนุนปี 2567 มาจากเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆ ฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนความต้องการใช้พลาสติกและยางของอุตสาหกรรมปลายทาง อาทิ บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ก่อสร้าง และเครื่องมือแพทย์ ฯลฯ เพิ่มสูงขึ้น

โดยงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024: Plastics & Rubber Thailand 2024” เกิดจากความร่วมมือกันจัดงานระหว่าง อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประทศไทย และ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย นอกจากเป้าประสงค์ที่จะผลักดันให้งานครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำจุดแข็งการจัดงานที่ระดมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิต การสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัยในแวดวงอุตสาหกรรมพลาสติกและยางไว้มากที่สุด พร้อมส่งเสริมโซลูชันสู่เป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการผลิตเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) และส่งเสริมความพร้อมแก่นักอุตสาหกรรมสำหรับการมาของมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่จะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าไปสู่ยุโรป และเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภาคเอกชนที่มาร่วมออกบูธภายในงาน จะนำเทคโนโลยี นวัตกรรมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมพลาสติกและยางมาจัดแสดงแบบครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกที่จะไม่ใช่แค่การรีไซเคิลแบบเดิม แต่เป็นการยกระดับความยั่งยืน เพิ่มมูลค่าจนนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่การหมุนเวียนกลับมาเป็นขวดพลาสติก หรือ บรรจุภัณฑ์
รีไซเคิลเท่านั้น

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ที่มาร่วมออกบูธในงาน คืออีกหนึ่งองค์กรที่ยกระดับการรีไซเคิลไปสู่การ Upcycling และ Upstyling ที่นำขยะพลาสติกมาสร้างผลิตภัณฑ์ Eco-Design ที่จับมือกับผู้ประกอบการแฟชั่นเสื้อผ้า พัฒนาเป็นสินค้าใหม่ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แม้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีราคาแพงขึ้นจากสินค้าทั่วไป แต่เป็นการสร้างความภูมิใจให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย ที่ได้มีส่วนร่วมในการปกป้องโลก ลดปริมาณขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ขณะที่มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกจากพืช หรือ วัตถุดิบธรรมชาติ ที่เรียกว่า ไบโอพลาสติก (Biodegradable Plastic) ซึ่งจะเป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ในเวลาไม่นาน โดยวัตถุดิบที่นำมาพัฒนาเป็นไบโอพลาสติก เช่น ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง มันเทศ ข้าวสาลี ซึ่งทั้งหมดจะสามารถย่อยสลายได้ด้วยจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Bio Compostable) จนเหลือเพียงน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และสารปรับปรุงดิน เช่น บริษัท Siam Modified Starch ที่พัฒนาพลาสติกมาจากมันสำปะหลัง

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกมีราคาแพงกว่าพลาสติกทั่วไป 1 ถึง 2 เท่า ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ แต่สถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับนโยบายของภาครัฐไทย และนโยบายของหลายประเทศทั่วโลก จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการในไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีสินค้าเพื่อการส่งออก นั่นเพราะนโยบายของหลายประเทศจะเริ่มพิจารณาสินค้าตั้งแต่การเป็นวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน จนถึงการทำลายเมื่อหมดอายุการใช้งาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะต้องแสดงเครื่องหมาย Carbon Footprint ที่แสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่าตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่

การมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องไปอีก 20 – 30 ปี แต่ปัจจุบันพบว่า มีผู้ประกอบการเพียง 25% ที่เริ่มปรับตัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมากกว่า 55% ยังไม่ได้ดำเนินการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์

อย่างที่ทราบกันดีว่า แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คือ การปรับเปลี่ยนมาสู่การใช้เชื้อเพลิงและพลังงานหมุนเวียน การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2024: Plastics & Rubber Thailand 2024” ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Step to Net Zero” จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาศึกษา ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลาสติกและยางที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการทำความรู้จักกับองค์กร หรือ ผู้ประกอบการที่สร้างนวัตกรรมพลาสติกที่มาจากการรีไซเคิล สู่กับ Upcycling หรือ ไบโอพลาสติก ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต

ต้องถือว่างานนี้เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญในหนทางของการดำเนินงานของธุรกิจภายใต้แนวคิด Sustainable ที่ใส่ใจสังคม สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ในฐานะผู้จัดงานตัวกลางที่สร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเตรียมเดินหน้าจัดงาน “พลาสติกแอนด์รับเบอร์ ไทยแลนด์ 2025” ในปีหน้า แล้วพบกันอีกครั้งระหว่างวันที่ 14 – 17 พฤษภาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมนิทรรศการไบเทค บางนา

Plastics & Rubber Thailand 2024
drives change towards sustainability

The planet is heating up rapidly. Global temperatures are steadily increasing, causing polar ice to melt at an accelerated pace. This warming, coupled with rising sea temperatures, is intensifying storm activity around the world. These environmental disasters are largely the result of human activities that increase emissions and disrupt the natural balance.

Numerous countries, Thailand included, are taking significant steps to mitigate or at least decelerate the adverse effects on the environment. During the previous administration under the leadership of General Prayuth Chan-ocha, the government announced important goals for the nation to become carbon neutral by 2050 and achieve net zero by 2065.

Achieving these ambitious environmental goals necessitates transformative changes and collaborative efforts among government, private, and public sectors.

The government provides essential policies and strategic direction, while the private and public sectors implement these initiatives on the ground. A prime example is the “Plastics & Rubber Thailand 2024” trade fair. Themed “Step to Net Zero,” this event took place from May 15-18, 2024, as part of INTERMACH, SUBCON Thailand 2024, and TyreXpo Asia 2024. The event, which attracted 44,773 participants, showcased the commitment to sustainability across multiple industries.

Mr. Sanchai Noombunnam, Country General Manager – Thailand, Informa Markets, the organiser of Plastics & Rubber Thailand 2024, said, “Thailand will continue to see continuous growth in plastics and rubber industries. In 2023, the industries started to see slight expansion. This year, we observed slow recovery of the Thai and global economy, which drives demand for plastics and rubber in downstream industries, such as packaging, automobile and parts, electrical appliances and electronics, construction, medical equipment, etc.”

“Plastics & Rubber Thailand 2024” represents a strategic partnership between Informa Markets Thailand and Messe Düsseldorf Asia aimed at elevating the trade fair to new heights in both scale and impact. This year, Plastics & Rubber Thailand 2024 reiterates its strength as an event in which most specialists in production technology and innovations participate. The event also promotes net zero and preps industrialists for the Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) that will unavoidably affect Thai exports to Europe.

Participating private sector will showcase their technologies and innovations, especially new plastic product development beyond recycle that will not only add values but also promote sustainability.

PTT Global Chemical Public Company Limited (GC) participated at the event by showcasing its innovative products made from upcycling and up styling process. Its eco-design products are produced in collaboration with fashion business operators to create fashion items like clothes, bags, and shoes. Although such products are slightly more expensive than others, they are the pride of both sellers and buyers who are proud to make sound contribution to protecting the planet, and reducing waste and emission.

Meanwhile, other participating exhibitors from the private sector showcased their biodegradable plastics made from corn, sugarcane, cassava, yam, wheat, etc. which are naturally degraded with the help of bacteria in the nature. After the bio-compost process, these products will become water, carbon dioxide and some soil improvement substance. Siam Modified Starch, for example, has developed new plastic products from cassava roots.

Price of bioplastic products is however 1-2 times higher than plastics, which may affect business operators’ costs. New government policies in Thailand and other countries also encourage Thai business operators, especially exporters, to adapt to the new policies and regulations. Many countries will start to consider the entire production process from sourcing, production, transport, use and treatment at the end of the product life cycle. These products will have to carry Carbon Footprint label that shows the level of emission throughout the entire product life cycle.

To successfully reach the net zero goal, sustained cooperation from all sectors is essential over the next 20-30 years. Currently, only about 25% of business operators have begun to modify their practices and reduce their environmental impact. In contrast, more than 55% have not yet evaluated their carbon footprint. One effective strategy to decrease emissions involves transitioning to renewable energy sources, adopting environmentally friendly packaging, and enhancing production efficiency.

Plastics & Rubber Thailand 2024, with its Step to Net Zero, opened an opportunity for business operators to study and learn more about new technology and grow network of producers who focus on recycling, upcycling and bioplastic.

In a nutshell, Plastics & Rubber Thailand 2024 is one of the key drivers of sustainable business operations and development that will lead to better quality of life and society by reducing impact on the environment. As the event organiser, Informa Markets Thailand is ready to work with all participants to prepare for next year’s event which will be held from 14 – 17 May 2025 at Bitec, Bangna.