ค็อกพิท ร่วมกับ คาร์โร ให้บริการประเมินราคาขายรถยนต์มือสอง  เปิดเฟสแรก 4 สาขา เริ่มพฤศจิกายนนี้

0
1339

(ซ้าย)  นายอรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด(ขวา) นายธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ ผู้จัดการส่วนงานขายและปฏิบัติการ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) จำกัด

 ค็อกพิท (COCKPIT) ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร จับมือเป็นพันธมิตรกับคาร์โร (Carro) สตาร์ทอัพด้านตลาดซื้อ-ขายรถยนต์มือสองสัญชาติสิงคโปร์ ต่อยอดการดำเนินธุรกิจเปิดพื้นที่พร้อมให้บริการประเมินราคาขายรถมือสอง เติมเต็มความสะดวกสบายสำหรับเจ้าของรถ ก่อนส่งขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โร เพื่อส่งต่อประสบการณ์ซื้อ-ขายรถที่ดีกว่าเดิม ประเดิมเฟสแรก ค็อกพิท 4 สาขา ได้แก่ บางแค, บางนา กม. 2.5, รัชดาภิเษก และเกษมราษฎร์ โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

นายธนวัฒน กิตติรัตนาภรณ์ ผู้จัดการส่วนงานขายและปฏิบัติการ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที. (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ค็อกพิท (COCKPIT) เป็นศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรในประเทศไทยมากว่า 31 ปี มีสาขารวม 270 แห่งทั่วประเทศ* และด้วยความมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์บริการรถยนต์ที่จะอยู่คู่ชีวิตรถคุณตลอดการเดินทาง หรือ “Total Car Life Partner” เราจึงมีแผนการพัฒนาด้านบริการให้ครอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่ การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับคาร์โร (Carro) ในครั้งนี้ ค็อกพิท (COCKPIT) จะนำความเชี่ยวชาญด้านการดูแลรถยนต์มาต่อยอดการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้ให้บริการตรวจสอบคุณภาพรถ และประเมินราคาขายรถมือสอง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้บริการเพื่อตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดถึง 200 จุด พร้อมให้คำแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการลงขาย และเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพของรถที่จะทำการซื้อ-ขายอย่างเป็นทางการก่อนส่งขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โร เพิ่มความสะดวกสบายและลดความกังวลทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายลงได้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบันอย่างที่ดีที่สุด”

นายอรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด (Carro) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “คาร์โร (Carro) เป็นผู้นำด้านการซื้อ-ขายรถมือสองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา Painpoint สำหรับการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองของผู้บริโภค ผนึกกำลังกับ ค็อกพิท (COCKPIT) ผู้นำด้านศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดในด้านบริการเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการขายรถได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การซื้อ-ขายรถที่ดีและสะดวกกว่าเดิม ลูกค้าที่ต้องการขายรถกับคาร์โร สามารถเข้ารับบริการตรวจสภาพรถที่ค็อกพิทสาขาที่ร่วมรายการ จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการตรวจสภาพรถจะเข้าทำการเช็ค และตรวจสภาพรถยนต์ ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวก ปลอดภัย และโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมทั้งได้ราคาที่ผู้ขายพึงพอใจ โดยสามารถปิดการขายได้เร็วขึ้น และได้ราคาที่สูงบนแพลตฟอร์มของเรา”

การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างค็อกพิทกับคาร์โรเกิดจากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทย ศักยภาพในการดำเนินงานและความเชี่ยวชาญที่สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อให้บริการลูกค้าได้ครบวงจรอย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เงื่อนไขการซื้อ-ขายรถบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โร ไม่เพียงแค่มีความสะดวกและมีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังมีจุดเด่นที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า คือ การรับประกันคุณภาพนาน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กิโลเมตร และการการันตีเงินคืนภายใน 5 วัน เป็นต้น    

เกี่ยวกับ ค็อกพิท 

ค็อกพิท (COCKPIT) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ที่พร้อมให้บริการที่หลากหลาย อาทิ บริการเปลี่ยนยางรถยนต์ น้ำมันเครื่อง เบรก โช้คอัพ แบตเตอรี่ และการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะทาง ด้วยสินค้าคุณภาพสูงที่คัดสรรจากผู้ผลิตชั้นนำ เเละบริการมาตรฐานจากทีมช่างผู้ชำนาญ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ด้วยการให้บริการด้วยความุ่งมั่น  คำนึงถึงความปลอดภัยใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 270 สาขาทั่วประเทศ* (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2564)

เกี่ยวกับ บริดจสโตน ประเทศไทย

บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์ยาง เชี่ยวชาญด้านการส่งมอบโซลูชั่นเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน
สำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เราได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า, ผู้แทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจจากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับคุณภาพด้านผลิตภัณฑ์ที่ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมในประเทศ เพื่อการส่งมอบคุณค่าให้แก่สังคมและลูกค้าภายใต้เจตนารมณ์การแสดงความรับผิดชอบของ บริดจสโตน หรือ Our Way to Serve บริดจสโตนมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คน เพื่อสร้างสรรค์อนาคตของการเดินทางให้ยั่งยืน