คปภ. ลงพื้นที่ช่วยเหลือกรณีตึกถล่มที่ภูเก็ตมีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย พบแล้วมีการทำประกันภัยอุบัติเหตุ พร้อมประสานการจ่ายสินไหมเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว

0
1597

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีอาคารกำลังก่อสร้างทรุดตัวบริเวณถนนเพชรเกษม ตำบลเทพกษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดภูเก็ต ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมเร่งอำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้ประสบภัย ตลอดจนติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก สำนักงาน คปภ. ภาค 8 (สุราษฎร์ธานี) ว่า อาคารกำลังก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้จัดทำประกันภัยแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตจำนวน 3 รายมีบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิตของธนาคารและได้ทำประกันภัยไว้ คือ รายแรก Mr.Nay Myo Win หนังสือเดินทางเลขที่ MC464050 มีประกันอุบัติเหตุ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 71901001271 คุ้มครองวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 – 30 พฤษภาคม 2563 ทุนประกัน 200,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 14001-168-190001602 ทุนประกัน 100,000 บาท รวมทั้งสิ้น 300,000 บาท รายที่สอง Mr. Kay Thi Khang เลขประจำตัว 0083011794146 มีประกันอุบัติเหตุ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 51910014116 คุ้มครองวันที่ 17 ตุลาคม 2562 – 17ตุลาคม 2563 ทุนประกัน 100,000 บาท และประกันอุบัติเหตุ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 14001-168-190001600 ทุนประกัน 100,000 บาท รวมทั้งสิ้น 200,000 บาท และ รายที่สาม นายกฤษณะ ขันบุตร มีประกันภัยอุบัติเหตุ K-MAX กับ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 4162026600964127 คุ้มครองวันที่ 31 ตุลาคม 2562 – วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ทุนประกัน 100,000 บาท และมีความคุ้มครองการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มอีก 100,000 บาท โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตชาวพม่าสองรายที่ตรวจสอบพบประกันภัยข้างต้น จะต้องตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและหมายเลขไอดีจากพาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนั้น สำนักงาน คปภ.จังหวัดภูเก็ตได้ประสานงาน และบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทประกันภัยดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อกับทายาทของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย โดยจะดำเนินการเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์โดยเร็วต่อไป นอกจากนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบอุบัติเหตุมีการทำประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น กรมธรรม์ประกันชีวิต กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุประเภทอื่นๆ อีกก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้เพิ่มเติมอีกด้วย

“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชน ควรใช้ความระมัดระวัง และใช้ความรอบคอบในการทำงานหรือทำกิจกรรมใด ๆ โดยเฉพาะการดำเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อร่างกาย ชีวิต ทรัพย์สิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งควรหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่ทำไว้ ตลอดจนควรทำประกันภัยคุ้มครองความเสี่ยงต่าง ๆ และประกันชีวิตด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัย จะได้เข้าไปช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย