นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา ได้อนุมัติปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายโบนัสพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานตามระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ โดยปรับให้สำนักงานสลากฯ เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 2 ประเภทที่จัดสรรโบนัสให้พนักงานได้เมื่อมีกำไรเพื่อการจัดสรรโบนัส เนื่องจากมีกำไรจากการดำเนินงาน จากเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจในกลุ่มที่ 5 ประเภทจ่ายโบนัสพนักงานคงที่ โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่ผลการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นต้นไปนั้น ตนเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ และตามที่เป็นข่าวทราบว่าอาจได้ถึง 8 เท่าของเงินเดือนเลยทีเดียวสำหรับบางคน
“อยากถามรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ว่า ในสถานการณ์นี้เหมาะสมแล้วหรือไม่กับการจ่ายโบนัสให้กับรัฐวิสาหกิจที่มีลักษณะผูกขาดเช่นกองสลาก การ กล่าวอ้างผลงานว่ากองสลากมีผลการดำเนินการด้านการเงินที่ดีมาโดยตลอดนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะเป็นการทำธุรกิจที่ผูกขาด เหมือนการบินไทยในอดีตที่เรามีสายการบินแห่งชาติเพียงสายการบินเดียวก็มีกำไรมาตลอด พอเปิดเสรีมีการแข่งขันก็พิสูจน์ที่ผลงานผู้บริหารที่มีดีบ้างไม่ดีบ้างจนการบินไทยมาถึงจุดที่เป็นจริงของตนเอง แต่กองสลากถามว่ามีผลงานอะไรบ้างมีแต่เพิ่มจำนวนสลากและแก้ปัญหาสลากแพงเกินราคาก็ไม่เคยได้ แล้วยังจะยังได้โบนัสเพิ่มเฉลี่ยปีละกว่า 62 ล้านอีก แบบนี้ผมรับไม่ได้”
นายขจิตร กล่าวต่ออีกว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)ต้องถามจิตสำนึกตัวเองว่าเหมาะสมหรือไม่กับสถานการณ์นี้ โดยส่วนตัวเห็นว่าการให้โบนัสนั้นควรมีอยู่ แต่ในจำนวนที่เหมาะสม โดยเฉพาะกับหน่วยงานที่ทำธุรกิจผูกขาดอย่างกองสลาก ที่สำคัญควรนำงบประมาณส่วนหนึ่งนั้นมาให้บุคคลกรทางการแพทย์จะดีกว่า หากตนเป็นรัฐบาลรับรองว่าจะบริหารจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้แน่นอน