บิ๊กขายตรงโมเดิร์นเทรด จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) ควงสมาชิกบินลัดฟ้าไกลไป “กินหรู อยู่สบาย สไตล์ J&C” ที่นครดูไบ(DUBAI) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ระหว่างวันที่ 18-22 กุมภาพันธ์ 2565) ภายใต้มาตรการควบคุมโรคติดต่อ Covid-19 ซึ่งมีการตรวจเช็คเอกสารสำคัญโดยเฉพาะวัคซีนพาสปอร์ตและต้องผ่านการตรวจ RT-PCR TEST ก่อนออกเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง
โดยวันแรกของการท่องเที่ยว นครดูไบ เมืองแห่งความมหัศจรรย์ ดินแดนทะเลทรายที่พัฒนาสู่ความเป็นดินแดนแห่งความมั่งคั่งในการค้าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จนเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวของตะวันออกกลางนั้นเริ่มต้นด้วยเขตพักผ่อนยอดนิยมของชาวเมืองดูไบ “ชายหาดจูไมร่า” ที่มีทิวทัศน์ริมอ่าวที่งดงามและเป็นศูนย์รวมโรงแรมชั้นนำโดยเฉพาะโรงแรมสุดหรูระดับ 7 ดาว ณ Burj Al Arab ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสะดุดตารูปใบเรือ พร้อมทั้งพาช้อปปิ้งศูนย์การค้ารูปทรงอาหรับโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ติดริมริทะเลชื่อ MADINAT JUMEIRAH SOUK จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ ที่ภัตตาคาร Danial Mazaya แบบ Buffet และเข้าที่พักที่โรงแรม Grand Millennium Dubai Barsha Heights
ต่อด้วยวันที่สองนำเที่ยว ดูไบเฟรม (THE DUBAI FRAME) ตึกสถาปัตยกรรมมหัศจรรย์ และปัจจุบันถือเป็นกรอบเฟรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยซึ่งตัวตึกประกอบด้วยหอคอยแนวตั้งสูง 150 เมตร พร้อมถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพานขนาด 100 ตารางเมตร ทำให้สถานที่แห่งนี้คือที่สุดของการชมสกายไลน์เมืองดูไบอันงดงาม และยังเป็นสถานที่เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียอย่างมาก นอกจากนี้ยังแวะถ่ายรูปกับ AIN DUBAI, ชิงช้าสวรรค์สูงที่สุดในโลก ณ เกาะบลูวอเตอร์ (BLUE WATERS) จากนั้นรับประทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคารอาหารจีนจี China Club ในโรงแรม Radisson Blu Creek ก่อนพาขึ้นรถ 4WD ท่องทะเลทราย ชมพระอาทิตย์ดินที่สวยงามรวมทั้งพาไปสนุกสนานกับการขี่อูฐ และพักผ่อนในแคมป์กระโจนแบบอาหรับให้ได้สวมชุดพื้นเมืองชาวอาหรับเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและรับอาหารค่ำแบบพื้นเมืองที่กลางทะเลทรายพร้อมชมโชว์พื้นเมือง
ส่วนวันที่สามพาชม “นิทรรศการระดับโลก WORLD EXPO 2021” ที่จัดแสดงวัฒนธรรมและนวัตกรรมของแต่ละประเทศในโลกและแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารอาหารไทย Little Bangkok จากนั้นนำเที่ยวห้างสรรพสินค้า Mall of Emirates หนึ่งในห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และชมสุดยอดโครงการอลังการที่ เดอะปาล์ม ไอส์แลนด์ โดยการถมทะเลให้เป็นเกาะเทียมที่สร้างเป็นรูปใบปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะแห่งนี้มีโรงแรม รีสอร์ต อพาร์ต เมนต์ ภัตตาคาร ฯลฯ นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลกเลยทีเดียว พร้อมนำชมโรงแรมหรูสุดอลังการที่ส่วนของยอดต้นอินทผลัม “โรงแรมแอต แลนติส ปาล์ม จูไมราห์” (Atlantis Hotel Palm Jumeirah) อลังการด้วยสถาปัตยกรรมแบบมหานครแอตแลนติสโบราณในตำนานภายในมีร้านอาหารและบาร์หลากประเภท ก่อนแวะรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร Saffron Buffet Restaurant ในโรงแรม แอตแลนติส
และในวันที่สี่เดินทางสู่ “กรุงอาบูดาบี้ เมืองหลวงของ UAE” นครที่ได้รับสมญาว่าเป็น GARDEN OF GULF เพราะความเขียวขจีของตัวเมืองระหว่างทาง และชมสุเหร่าประจำเมือง Sheikh Zayed bin Sultan al Nahyan Grand Mosque ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3ของโลกและเป็นสุเหร่าประจำเมืองของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต
โดยสุเหร่าแห่งนี้มีพรมผืนใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลกนำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง จากนั้นแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร Le Vendome ในโรงแรมที่หรูหราอลังการ The Emirates Palace ก่อนแวะถ่ายรูป Ferrari World และนำชมประวัติความเป็นมาของรถเฟอรารี่ที่คลาสสิคที่สุดในโลกแล้วเดินทางกลับนครดูไบเพื่อไปเที่ยว “ห้างดูไบมอลล์ (Dubai Mall)” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร Red Lobster ก่อนมุ่งตรงไปสนามบินนานาชาติดูไบเพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพและเข้าสู่กระบวนการกักตัว Test&Go ซึ่งจะมีรถจากโรงแรมมารับไปรับการตรวจ RT PCR ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้กำหนดไว้อย่างเข้มงวดอีกด้วย
