“การเคหะแห่งชาติ” มีภารกิจสำคัญในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ยังเดินหน้าในการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกภารกิจสำคัญ ในการเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน ซึ่งจะเดินหน้าอย่างเข้มข้นมากขึ้น
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติ จากนี้จะต้องตอบโจทย์ประชาชน วันนี้ต้องเปลี่ยนเป้าหมายในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และคุณภาพชีวิต จากเดิมที่มุ่งเน้นกำไร รายได้ หันมามุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น
เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน รอยยิ้มของผู้พักอาศัย “จากนี้ไปเราจะมุ่งเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดประโยชน์ทั้งในรูปแบบที่ดินและพื้นที่ว่าง อาทิ ตลาด โรงเรียน ร้านค้าสะดวกซื้อ และพื้นที่สำหรับวางตู้อัตโนมัติ เช่น เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้นำดื่ม ตู้ขายของอัตโนมัติ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การเคหะแห่งชาติจะได้นำรายได้จากส่วนนี้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางต่อไป” นายทวีพงษ์ กล่าวผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันหนึ่งในโครงการของการเคหะแห่งชาติ ที่ถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างชัดเจน คือ “โครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า” ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมความสุข เป็นเสมือนเมืองย่อมๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีร้านค้า และการประกอบธุรกิจมากมาย ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับคนในชุมชนยกตัวอย่าง คุณจันทนา ด้วงศรี เจ้าของร้านมีน้ำยา ร้านขนมจีนบุฟเฟ่ต์ จานละ 89 บาท สาขาเคหะชุมชนร่มเกล้า กล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเดิมของครอบครัว ซึ่งได้ปรับมาเป็นร้านค้า ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ด้วยราคาที่ไม่แพง และรสชาติที่ตอบโจทย์ลูกค้า
นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ ในเพจร่มเกล้า และในกลุ่มร่มเกล้า ซึ่งทำให้คนจำนวนรู้จักร้านมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญด้วยการต้อนรับที่อบอุ่น เป็นกันเอง ทำให้ลูกค้าที่เข้ามา เขาก็จะมีความสุขไปด้วย” “นิยามคำว่าบ้านของตนคือ ครอบครัว คือพนักงานของเรา มีอะไรแบ่งปันกันทุกสิ่งทุกอย่าง เราอยู่ด้วยกันด้วยความรัก ความเข้าใจกัน มีอะไรคอยช่วยเหลือกัน และนั่นทำให้ลูกค้าของเราได้รับสิ่งนี้ไปด้วย” คุณจันทนา กล่าว
อีกตัวอย่าง สถานที่ที่แบ่งปันความสุข สถานที่ที่แบ่งปันความรู้ และขณะเดียวกันเป็นสถานที่ที่ทำให้คนสามารถประกอบอาชีพได้อีกด้วยคือ “คุณชรัต มินิ” เจ้าของร้าน Hipster Academy Barbershop กล่าวว่า ตนได้เปิดร้านแห่งนี้เป็นอคาเดมี ที่ผลิตช่างตัดผม ให้คนมีงาน มีอาชีพ มากกว่านั้น นักเรียนที่นี่ยังออกไปทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่สังคม โดยทางร้านจะพานักเรียนไปตามชุมชน บ้านพักคนชรา เด็กกำพร้า เพื่อให้บริการตัดผมฟรีแก่กลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากทำให้พวกเขาได้ฝึกฝีมือเพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย
สิ่งทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของสังคมคุณภาพ สังคมที่การเคหะแห่งชาติ มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างสังคมแห่งการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ สร้างความสุขกับผู้อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ