การเคหะแห่งชาติมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุ ภายใต้ “โครงการบ้านสบายเพื่อยายตา” จำนวน 71 หลัง กระจายทั่วทุกภูมิภาค

0
66

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุ “บ้านสบายเพื่อยายตา” ภายใต้โครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย และผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยมี นายอณุศาสณ์ อรรถวิทยา กรรมการการเคหะแห่งชาติและประธานกรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ พร้อมด้วย ผศ.ดร. อำนาจ จำรัสจรุงผล กรรมการการเคหะแห่งชาติ และกรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ นางสาวอุษณี กังวารจิตต์ กรรมการการเคหะแห่งชาติ และกรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ ผศ.ดร.นพดล พันธุ์พานิช กรรมการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ (ผู้ทรงคุณวุฒิ) ให้เกียรติเข้าร่วมในพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุ “บ้านสบายเพื่อยายตา” และ นายธนัญชัย โชติศรีลือชา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ คณะผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ นางปิยนาฏ เสงี่ยมศักดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมภาคีเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ณ สำนักงานเทศบาลตำบลหอไกร จังหวัดพิจิตร

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีภารกิจในการพัฒนาและจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ควบคู่ไปกับการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมถึงให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้โครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้หรือ “บ้านสบายเพื่อยายตา” โดยดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมตามสภาพหรือจัดทำที่อยู่อาศัยใหม่ให้ทั้งหลัง รวมทั้งการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและตามคุณลักษณะเฉพาะของผู้อยู่อาศัย เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตด้านการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างปกติสุขในชุมชนเดิมอย่างยั่งยืน

โครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ (บ้านสบายเพื่อยายตา) ดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2553 ที่ตำบลบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และขยายผลอย่างต่อเนื่องไปในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ นับตั้งแต่ปี 2553-2566 การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการปรับปรุง ซ่อมแซม สร้างบ้านใหม่ รวมทั้งสิ้น 441 หลัง แบ่งออกเป็นสร้างใหม่ 121 หลัง และปรับปรุง 320 หลัง โดยปี 2567 ได้ดำเนินการรวมทั้งสิ้น 71 หลัง ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ชัยภูมิ พะเยา ประจวบคีรีขันธ์ สตูล ตราด และสุพรรณบุรี และเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 การเคหะแห่งชาติได้คัดเลือก “บ้านสบายเพื่อยายตา” เพื่อจัดพิธีส่งมอบบ้านให้กับผู้สูงอายุ ในจังหวัดพิจิตร จำนวน 12 หลัง โดยได้ดำเนินการ ดังนี้ 1) การสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหลัง จำนวน 1 หลัง
2) ปรับปรุงที่อยู่อาศัยและสร้างห้องน้ำใหม่ จำนวน 3 หลัง 3) สร้างห้องน้ำใหม่ จำนวน 6 หลัง และ 4) ปรับปรุงห้องน้ำพร้อมเปลี่ยนอุปกรณ์ จำนวน 2 หลัง

สำหรับการดำเนินโครงการฯ การเคหะแห่งชาติสนับสนุนงบประมาณในรูปแบบของเงินบริจาคให้กับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการประชาคมจากหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงบ้านตามสภาพความเป็นจริง ให้ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย ตามความต้องการของผู้สูงอายุ ทั้งนี้กระบวนการดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการบ้านสบายเพื่อยายตาของการเคหะแห่งชาติ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยมีผู้รับจ้างหรือจิตอาสาในพื้นที่ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยตามสภาพหรือจัดสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งหลังจนแล้วเสร็จ

นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยและผู้ยากไร้ของการเคหะแห่งชาติ (บ้านสบายเพื่อยายตา) เป็นอีกหนึ่งในโครงการแห่งความภาคภูมิใจ โดยเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องตอบโจทย์ของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร ด้านที่ 5 การสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว ที่นอกจากเรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนทุกช่วงวัยและทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายในด้านที่ 3 สร้างพลังผู้สูงอายุ ในเรื่องการส่งเสริมให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำกิจวัตรประจำวันและการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุอีกด้วย