นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี การเคหะแห่งชาติ พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพความพร้อมรับภัยพิบัติระหว่าง นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ Mr. Hans Guttman Executive Director, ADPC ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย และดร.พิจิตต รัตตกุล ประธานเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเสวนา “การตั้งถิ่นฐานมนุษย์ที่เหมาะสม ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” จากหน่วยงานภาคีเครือข่าย โดยมี คณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ ผู้บริหารระดับสูงการเคหะแห่งชาติ ผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย และผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 5 สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการลดก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นการเคหะแห่งชาติจึงจัดกิจกรรมวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเนื่องในโอกาสครบรอบ 51 ปี การเคหะแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมแนวทางการตั้งถิ่นฐานมนุษย์ที่เหมาะสมภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และแสดงบทบาทของการเคหะแห่งชาติในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นการขยายภาคีเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพความพร้อมรับภัยพิบัติระหว่างการเคหะแห่งชาติ ศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย และมูลนิธิเตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติในประเทศไทย เพื่อบูรณาการฐานข้อมูลที่อยู่อาศัย การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ งานวิจัยต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาและการออกแบบที่อยู่อาศัยรองรับภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศโลก โดยร่วมกันศึกษาและหาแนวทางการพัฒนามาตรฐานการออกแบบที่อยู่อาศัยของโครงการที่จะพัฒนาใหม่
ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การเคหะแห่งชาติมีภารกิจสร้างที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางซึ่งไม่เฉพาะแค่สร้างบ้าน แต่ยังพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสังคมให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนด้วย โดยจะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้เป็น Eco Friendly-Housing มุ่งลดทรัพยากร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ออกแบบด้วยเกณฑ์ Universal Design โดยออกแบบผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยและนวัตกรรมการก่อสร้าง เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของคนทุกวัย รวมทั้งผู้สูงอายุและผู้พิการและ NHA Eco-Village ออกแบบ ก่อสร้าง และบริหารจัดการ ที่พักอาศัย ด้วยแนวคิดการลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“การตั้งถิ่นฐานมนุษย์ที่เหมาะสมภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย รวมถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือฯ (MOU) จะเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนแผนรองรับภัยพิบัติด้านที่อยู่อาศัย ในประเทศไทย ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ มิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามบริบทของพื้นที่ เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยที่สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติจะนำไปสู่ความมั่นคงในที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป”
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีการเสวนา หัวข้อ “การตั้งถิ่นฐานมนุษย์ที่เหมาะสม ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา นางสาวระเบียบ ภูผา ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เสวนาหัวข้อ “แนวทางการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย” นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เสวนาหัวข้อ “แนวทางการขับเคลื่อนแผนรองรับภัยพิบัติที่อยู่อาศัยกับการอยู่อาศัยและการเตรียมความพร้อมแผนฟื้นฟู” รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสวนาหัวข้อ “ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร” ดร.พีรนันท์ โตวชิราภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิศาสตร์และสารสนเทศศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชียเสวนาหัวข้อ “บทบาทและแนวทางการทำงานด้านการจัดการภัยพิบัติของศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย” และ ผศ.ดร.วรธิดา ไชยปะ ผู้เชี่ยวชาญนโยบายสาธารณะด้านสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย และอาจารย์ประจำสถาบันนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ