กสิกรไทยเร่งเครื่องดิจิทัล ยอดผู้ใช้ K PLUS พุ่ง เพิ่มขึ้น 2 ล้านราย การทำธุรกรรมผ่าน K PLUS โตก้าวกระโดด 53% ยอดเงินธุรกรรมผ่าน K PLUS แตะ 10 ล้านล้านบาท

0
494

“ธนาคารกสิกรไทยมุ่งมั่นเสริมแกร่งสถานะผู้นำธนาคารดิจิทัลตัวเลือกอันดับหนึ่งของไทย โดยใช้นวัตกรรมและการลงทุนในเทคโนโลยีที่ถูกต้อง เป็นส่วนหนึ่งภายใต้การผสานความเป็น ‘ชาเลนเจอร์แบงก์’ เข้ามาในองค์กร โดยเพียง 6 เดือนหลังการประกาศเป้าหมายมุ่งทำให้บริการของธนาคารเรียบง่าย รวดเร็ว และสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับทุกคน ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ เรารู้สึกขอบคุณและตื่นเต้นที่แพลตฟอร์มดิจิทัลของเราได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แสดงถึงการตอบรับที่ทุกคนมีต่อธนาคารกสิกรไทย”

วันนี้ ธนาคารกสิกรไทย (KBank) เปิดเผยยอดการใช้งาน แพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคารกสิกรไทยเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพียงแค่ 6 เดือนหลังประกาศแผนผสานความเป็น “ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้ามาในองค์กร เพื่อเปิดโอกาสให้คนจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคารได้ โดยการทำให้บริการธนาคารเรียบง่ายขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า “ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีคนจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน สมัครใช้งาน K PLUS ของเรา โดยในจำนวนนี้ มีมากกว่า 1 ล้านคนเป็นผู้ที่เพิ่งใช้บริการธนาคารกสิกรไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งความนิยมแพลตฟอร์มดิจิทัลของธนาคารกสิกรไทยที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลอย่างเต็มภาคภูมิ โดยปัจจุบันธุรกรรมของธนาคารกสิกรไทย เป็นธุรกรรมที่ทำผ่านระบบออนไลน์ถึง 98%”

นางสาวขัตติยากล่าวว่า ผลจากการเติบโตของธุรกรรมออนไลน์ดังกล่าว ทำให้ธนาคารกสิกรไทยสร้างสถิติใหม่ โดยเป็นครั้งแรกที่ยอดเงินโอนผ่าน K PLUS มากกว่ายอดเงินโอนผ่านช่องทางอื่นๆ ทั้งหมดของธนาคารรวมกัน ทั้งการทำธุรกรรมที่สาขาธนาคาร เครื่องทำรายการอิเล็กทรอนิกส์ และตัวแทนธนาคาร

“ด้วยเทคโนโลยีของเรา ทำให้คนจำนวนมากขึ้นได้รับประโยชน์จากบริการธนาคาร ในแต่ละชั่วโมงมีจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 1 ล้านรายการต่อชั่วโมง

นอกจากนั้น ยอดเงินที่เป็นการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมียอดเงินสูงเกือบ 10 ล้านล้านบาทในปี 2565

การเติบโตดังกล่าวช่วย “ตอกย้ำความเป็นผู้นำของธนาคารกสิกรไทยในฐานะธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งของไทย”

นางสาวขัตติยากล่าวว่า “ความนิยมที่เพิ่มขึ้นทำให้เรามีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ตามไปด้วย ที่จะต้องก้าวล้ำไปข้างหน้ากับเทคโนโลยีต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยระบบที่มีเสถียรภาพสูง นั่นเพราะวิสัยทัศน์ของเรามองไปไกลเกินกว่าขอบเขตประเทศไทย โดยเป้าหมายของเราอยู่ที่การเป็นผู้นำการให้บริการธนาคารดิจิทัลที่ดีที่สุดระดับภูมิภาค”

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยการใช้บริการ K PLUS โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการป้องกันและตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติควบคู่ไปกับการใช้งานที่สะดวกและเหมาะสมกับลูกค้าทุกกลุ่มของธนาคาร

นางสาวขัตติยากล่าวเพิ่มเติมว่า แพลตฟอร์มออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทยกำลังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ด้วยการมอบต้นทุนทางด้านการเงินที่ต่ำกว่า และเป็นธนาคารเดียวในประเทศไทยที่ไม่ถูกหักค่าธรรมเนียมการโอนจากธนาคารตัวกลาง สำหรับการโอนเงินจากประเทศไทย ไปยัง 32 ประเทศคู่ค้า

LINE BK

ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2565 การจับมือกับ LINE เพื่อให้บริการธนาคารผ่านทางโซเชียลมีเดีย มีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีผู้ใช้บริการรายใหม่ เพิ่มขึ้นจำนวนมากกว่า 1,400,000 ราย และ ณ สิ้นปี 2565 มียอดสินเชื่อปล่อยกู้ผ่าน LINE BK กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท โดยจำนวนมากเป็นการให้กู้ยืมแก่ลูกค้าที่ไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีเงินเดือนประจำ เช่น คนทำงานอิสระและผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยอื่นๆ

“เนื่องจากคนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้มักจะไม่มีรายได้ประจำหรือไม่มีสลิปเงินเดือน จึงทำให้พวกเขามีความยากลำบากในการได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร เพื่อที่จะเอามาช่วยเหลือตัวเองในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่มาเป็นครั้งเป็นคราว และบ่อยครั้งก็ทำให้เขาต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ” นางสาวขัตติยากล่าว

LINE BK ในฐานะผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารผ่านโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวของไทย มีบทบาทสำคัญในการทำให้เป้าหมายของธนาคารกสิกรไทยในการผสานความเป็นชาเลนเจอร์แบงก์เข้ามาในองค์กรประสบความสำเร็จ เนื่องจาก LINE BK ช่วยให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือเข้าถึงได้ยาก สามารถเข้าถึงบริการธนาคารได้ แม้จะเป็นผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ก็สามารถสมัครขอสินเชื่อผ่าน LINE BK ได้ โดยจะทราบผลการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อภายใน 24 ชั่วโมง บริการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ให้บริการอิสระ และเจ้าของแผงค้าขายขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นก้าวแรกที่นำคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบธนาคาร ทำให้มีประวัติเครดิต ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยับขยายกิจการในอนาคตของพวกเขาได้ด้วย

LINE BK ใช้ระบบเอไอในการวิเคราะห์ข้อมูล และข้อมูลสมัยใหม่อื่นๆ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมจากบริการที่เกี่ยวข้องของ LINE ซึ่งได้รับอนุญาตจากผู้สมัครขอสินเชื่อก่อน เพื่อประเมินความสามารถและความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้ของผู้กู้

เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเดินหน้าโครงการเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่าการผสานความเป็น “ชาเลนเจอร์แบงก์” เข้ามาในองค์กร ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการเข้าถึงเงินกู้และบริการต่างๆ ของธนาคารให้กับคนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการธนาคารหรือเข้าถึงได้ยาก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 ล้านคน

“ชาเลนเจอร์แบงก์” เป็นปรากฏการณ์ดิสรัปชั่นของวงการธนาคาร ที่มาท้าทายธนาคารหลักต่างๆ ในหลายประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยเหลือธุรกิจขนาดย่อมและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือไม่มีรายได้ประจำ เวลาที่คนกลุ่มนี้ยื่นขอสินเชื่อ จะมีโอกาสได้รับการประเมินขีดความสามารถและประเมินความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้อย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ชาเลนเจอร์แบงก์ยังดึงดูดลูกค้าของธนาคารในปัจจุบัน ด้วยการกำจัดกระบวนการที่ขาดความคล่องตัว ให้บริการที่รวดเร็วกว่า ใช้งานง่ายกว่า และสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ตลอดเวลา

นางสาวขัตติยาอธิบายกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยว่า เป็นการหลอมรวมดีเอ็นเอของความเป็นชาเลนเจอร์แบงก์เข้าไปในแก่นของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอยู่แล้วในฐานะธนาคารในยุคปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับเชื่อถือในความสามารถในการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม

ภายใต้โครงการดังกล่าวนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้จัดสรรงบประมาณ 22,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยี ในช่วงปี 2565 – 2567

KBank digitisation drive adds more than two million new users to its K PLUS online banking app

Transactions on K PLUS jump 53%

Funds transacted across K PLUS reach Baht 10 trillion

“KBank committed itself to widening its lead as Thailand’s most preferred digital bank through innovation and investment in the right technologies as part of our ‘challenger bank’ programme. Only six months after launching those ‘challenger bank’ goals to make banking simpler, faster, and more accessible for everyone through smart technology, I am humbled by the surge in popularity of our digital platforms and with which the public has rewarded our bank.”

Ms. Kattiya Indaravijaya, Chief Executive Officer, KASIKORNBANK

Bangkok, 21 March 2023 – KASIKORNBANK (KBank), today (21 March), reported surging use of its digital platforms six months after launching its ‘challenger bank’ programme to enable more people to use banking services and products by making banking simpler through the use of advanced technology.

Ms. Kattiya Indaravijaya, Chief Executive Officer, KASIKORNBANK, said, “During 2022, two million more people chose to become new users of our K PLUS online banking app, with more than a million of them also new to our bank. This growth in the popularity of our digital platforms has made us a truly digital bank with 98% of all KBank’s transactions now being conducted online.”

She said that as a result of the growth, for the first time, KBank recorded more money transferred over its K PLUS digital banking app than all other channels combined, including its physical branches, e-Machines, and Banking Agents.

“We can clearly see that our technology is helping more people to benefit from banking. The number of online transactions has increased with a million more transactions being conducted every hour. That adds up to a stunning 11 billion more transactions during 2022 than in the previous year,” she said.

The amount of money being transacted on K PLUS has also grown rapidly and reached almost Baht 10 trillion during 2022.

The growth has widened KBank’s lead as Thailand’s most preferred digital bank.

Ms. Indaravijaya said, “This places huge responsibility on us to stay at the forefront of technology to ensure that users get access to banking products and services like never before, and, of course, with outstanding system stability, because our vision extends beyond Thailand and our goal is to be the leader in providing digital banking services, regionally.”

She said that KBank is supporting small enterprises to do business internationally through lower banking costs and is the only bank in Thailand with no intermediary bank fee for international transfers to 32 partner countries via its online banking platform.”

In addition, she said that KBank is further advancing security features for K PLUS as well as increasing its ability to detect and prevent unusual transactions while at the same time remaining convenient for all users.

LINE BK

KBank also reported strong growth with LINE BK, which is a partnership with LINE to offer banking products through social media.

During 2022, LINE BK added more than 1,400,000 new users and, at the end of 2022, had more than Baht 18 billion extended in loans, many to people who have no fixed income or salary, such as freelancers and other small business operators.

“People in these professions with no fixed incomes or salary slips often have little or no access to bank loans to carry them through temporary difficulties, and they are sometimes compelled to turn to loan sharks,” Ms. Indaravijaya said.

LINE BK, as the only provider of banking products and services through social media, plays an important role in the fulfilment of KBank’s ‘challenger bank’ goals because it enables KBank to reach many unbanked and underbanked players. Even applicants who have no banking account can apply for a loan through LINE BK and get a decision within 24 hours. The service has proven particularly attractive to freelancers, independent service providers and small stallholders, and is a first step in bringing them into the banking system to build a credit record that can support them in growing their enterprises in the future.

LINE BK is using an AI system for intelligent data analysis as well as other non-traditional data, such as behavioral data sourced from the LINE ecosystem, with the applicant’s permission, to evaluate their ability and willingness to repay.

In July last year, KBank announced the strategic programme that it calls it’s ‘challenger bank’ goals, which aims to boost access to loans and services among Thailand’s approximately 30 million unbanked and underbanked population.

‘Challenger banks’ have been a disruptive phenomenon in many countries ‘challenging’ legacy banks by using new technology to help micro-businesses and the self-employed, who may have no collateral assets or regular income, get a fairer evaluation of their ability and intention to repay when applying for loans. Challenger banks have also appealed to traditional bank customers by eliminating inconvenient processes and providing services that are faster, available everywhere, and always-on.

Ms. Indaravijaya described KBank’s strategy as one of fusing the DNA of a ‘challenger bank’ onto its successful core of being a reliable traditional bank that serves a wide range of customers.

As part of this programme, KBank is accelerating its investments in technology with approximately Baht 22,000 million being invested during 2022 – 2024.