กรุงเทพประกันชีวิต แนะประชาชน-ผู้ถือกรมธรรม์  เช็คลิสต์ 4 คุณสมบัติก่อนเข้ารักษาตัวใน “HOSPITEL”  พร้อมชูบริการคุ้มครองเสริม “แฟกซ์เคลม” และ “เทเลเมดิซีน” 

0
1540

 ทามกลางวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19  บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีความห่วงใยทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต ซึ่งการแพร่ระบาดในระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนที่ต้องคอยเฝ้าระมัดระวังการติดเชื้อในทุก ๆ พื้นที่อย่างเคร่งครัด จากยอดผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในอัตราที่สูงอยู่อย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั่วประเทศไม่มีพื้นที่เพียงพอต่อการรับรองผู้ติดเชื้อ จึงได้ออกมาตรการเปลี่ยนโรงแรมให้เป็น Hospitel (หอผู้ป่วยเฉพาะกิจ) อีกหนึ่งทางเลือกของการพักและกักตัวของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง

เนื่องจากโรงพยาบาลมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อยอดผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขจึงได้รวบรวมประสานกับโรงแรมเครือข่ายเพื่อจัดตั้ง Hospitel ที่หมายถึง “หอพักผู้ป่วยเฉพาะกิจ” เกิดการผสมผสานคำกันระหว่าง “Hospital” และ “Hotel” เป็นการใช้พื้นที่โรงแรมเป็นที่พักรับรองผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 สำรองจากโรงพยาบาล เป็นการช่วยลดความแออัดของเตียงผู้ป่วยจากโรงพยาบาลหลักและช่วยเสริมการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเน้นกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่มีอาการและมีอาการไม่รุนแรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น ตลอดจนยังเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ประสบสภาวะทางเศรษฐกิจให้มีรายได้ในช่วงวิกฤตนี้อีกด้วย

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความรู้ให้กับประชาชนทุกภาคส่วน รวมไปถึงผู้ถือกรมธรรม์ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำ 4 คุณสมบัติเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ในการเข้าพักรักษาตัวที่ Hospitel 4 ข้อดังนี้

  1. ผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าไม่มีอาการหลังนอนโรงพยาบาล 4-7 วัน หากไม่มีอาการรุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อน สามารถพักต่อที่ Hospitel และเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อไปสู่สังคมหลังย้ายออกจาก Hospitel ผู้ป่วยจะต้องพักจนครบกำหนด 10-14 วัน เป็นอย่างต่ำ
  2. ผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการ ไม่มีความเสี่ยง หลังนอน รพ. 4-7 วันเมื่ออาการดีขึ้น สามารถพักต่อที่ Hospitel จนครบ 10-14 วัน 
  3. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี ที่ไม่มีอาการ หรือไม่มีภาวะเสี่ยง/ภาวะอื่นร่วม เข้าพักรักษา สังเกตอาการที่ Hospitel จนครบ 10-14 วัน
  4. ทั้งนี้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน Hospitel แนะนำให้ เอกซเรย์ปอดเพื่อตรวจเช็คอาการ หากพบปอดผิดปกติ ควรอยู่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญในการเข้าพักรักษาตัวใน Hospitel คือ ผู้ป่วยจะต้องสามารถดูแลและช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นได้ ซึ่งใน Hospitel จะมีแพทย์ประจำ 1 คน มีพยาบาลอัตราส่วน 20 เตียงต่อพยาบาล 1 คน มีการตรวจคนไข้ผ่านระบบเทเลเมดิซีนและแอพพลิเคชั่นไลน์ มีการเยี่ยมผู้ป่วยทุกวัน พร้อมทั้งมีเครื่องมือพื้นฐานต่าง ๆ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดระดับความเข้มข้นออกซิเจนในเลือด และเครื่องเอกซเรย์ เป็นต้น 

หากลูกค้าและผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีความจำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สามารถใช้บริการ แฟกซ์เคลมกับโรงพยาบาลคู่สัญญา เมื่อเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในโดยไม่ต้องสำรองจ่ายจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ สำหรับการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ประกันสุขภาพของกรุงเทพประกันชีวิตทั้งแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม บริษัทให้ความคุ้มครองผู้ป่วยในตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ ทั้งนี้ ครอบคลุมถึงการส่งตัวตามเกณฑ์การส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทาง ไปยังโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญา ที่ให้บริการรักษาพยาบาล ณ หอผู้ป่วยเฉพาะกิจนอกสถานพยาบาล (Hospitel) สะดวกสบาย สามารถแฟกซ์เคลมได้ ไม่ต้องสำรองจ่าย ได้ที่เว็บไซต์ www.bangkoklife.com หรือ http://bit.ly/BLA-Hospitel

สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-8888 เว็บไซต์ www.bangkoklife.com หรือ แอปพลิเคชัน BLA Happy Life 

ทั้งนี้เงื่อนไขการให้บริการเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และขอสงวนสิทธิ์การพิจารณาการให้บริการตามดุลยพินิจของแพทย์ และเงื่อนไขของแต่ละโรงพยาบาล สำหรับความคุ้มครองค่าใช้จ่ายจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์