กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกปี 2567 จำนวน 23.42 พันล้านบาท หนุนลูกค้าฟื้นธุรกิจ และเสถียรภาพด้านการเงิน ตอกย้ำการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบระมัดระวัง

0
130

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 23,424 ล้านบาท ลดลง 7.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของการตั้งสำรอง ตอกย้ำนโยบายการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบระมัดระวัง ภายใต้บริบทสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวย

กรุงศรีมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือแก่ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและกลุ่มลูกค้ารายย่อย ผ่านมาตรการช่วยเหลือที่หลากหลาย เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถฟื้นตัว รวมทั้งยังคงมีเสถียรภาพด้านการเงิน ภายใต้ความเปราะบางด้านเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567:
• กำไรสุทธิในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2567 จำนวน 23,424 ล้านบาท ลดลง 7.0% หรือจำนวน 1,774 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตามการตั้งสำรองที่รอบคอบระมัดระวัง
• เงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 4.5% หรือจำนวน 90,268 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 สะท้อนการปรับลดลงของความเชื่อมั่นทางธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค กอปรกับการดำเนินการตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของกรุงศรี
• เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 3.3% หรือจำนวน 60,009 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประจำ
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 4.33% เทียบกับ 3.70% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566
• รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 23.2% หรือ 6,304 ล้านบาท จากช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากธุรกิจในอาเซียน
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 43.8% จาก 44.2% ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2566
• อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.20% ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรอง
ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 245 เบสิสพอยท์ และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 124.6%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.94% เทียบกับ 18.24% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ กรุงศรียังคงให้การสนับสนุนแก่ลูกค้าทั้งภาคธุรกิจและรายย่อยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจของลูกค้าสามารถฟื้นตัว รวมทั้งยังคงมีเสถียรภาพด้านการเงิน ผ่านมาตรการช่วยเหลือต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าผู้ประกอบการ SME และรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อเร็วๆ นี้ ในขณะเดียวกัน เราได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ผ่านการเปิดตัวสินเชื่อ Krungsri SME Transition Loan ในช่วงต้นไตรมาสที่สามของปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในการเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ”

นายเคนอิจิให้ความเห็นเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจว่า “เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4/2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น การเติบโตอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว และการเร่งตัวของการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงในเชิงลบ ได้แก่ ผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม การแข็งค่าของเงินบาท และอุปสรรคเชิงโครงสร้าง อาทิ หนี้ครัวเรือนและความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิต จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจดังกล่าวข้างต้น กรุงศรียังคงคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2567 ที่ 2.4%”

ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.93 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.90 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.72 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 318.77 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 18.94% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของคิดเป็น 14.75%

Krungsri reports 9-month net profit of 23.42 billion baht, sustaining customers’ commercial and financial viability while underscoring risk management rigor

Bangkok (18 October 2024) – Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) posts 23,424 million baht in net profit for the first nine months of 2024, a 7.0% decrease from the same period last year, mainly due to a rise in prudential provisions, underscoring Krungsri’s rigorous and prudential risk management approach amid the daunting business environment.

In sustaining customers’ commercial and financial viability, Krungsri extended support to commercial and retail customers through various assistance measures amid their heightened economic vulnerabilities, in particular those hit by recent floods.

Highlights of Krungsri’s consolidated 9M/24 performance:
• Net profit: Recorded at 23,424 million baht for 9M/24, representing a decrease of 7.0%, or 1,774 million baht from 9M/23, due mainly to a rise in expected credit loss (ECL) driven by prudential provisions.
• Loans: Decreased by 4.5%, or 90,268 million baht, from the end of December 2023, resonating the weighted down business and consumer sentiments, combined with the Bank’s prudential lending stance.
• Deposits: Increased by 3.3%, or 60,009 million baht from the end of December 2023, primarily due to an increase in time deposits.
• Net interest margin (NIM): Increased to 4.33%, from 3.70% in 9M/23.
• Non-interest income: Increased by 23.2%, or 6,304 million baht from 9M/23, driven by net fees and service income from the ASEAN businesses.
• Cost to income ratio: Improved to 43.8%, from 44.2% in 9M/23.
• Non-performing loan (NPL) ratio: Recorded at 3.20%. Meanwhile, the credit cost stood at 245 basis points. The coverage ratio was recorded at 124.6%.
• Capital adequacy ratio (Bank only): Improved to 18.94%, compared with 18.24% at the end of December 2023.

Krungsri President and Chief Executive Officer Mr. Kenichi Yamato, said “As a responsible financial service provider, Krungsri continued to extend our support to customers, commercial and retail, in sustaining their commercial and financial viability through various assistance measures; in particular SME and retail customers recently impacted by floods. Concurrently, we further advocated our commitment to net zero through the introduction of Krungsri SME Transition Loan at the beginning of the third quarter this year, aiming to proactively and effectively support SMEs’ transitions toward a decarbonization pathway.”

Commenting on the economic outlook, Mr. Yamato cited that “Thailand’s economic growth momentum is expected to sustain in the fourth quarter this year, buoyed by tailwinds namely improving export performance, ongoing growth in tourism, and acceleration in government disbursement that helps boost domestic consumption. Meanwhile, impacts of recent flooding and baht appreciation, together with persisting structural impediments, such as household debt and manufacturing competitiveness, could pose downside risks to determinants of growth. Given the aforesaid economic outlook, Krungsri maintains our forecast of 2024 GDP growth at 2.4%.”

As of 30 September 2024, Krungsri, Thailand’s fifth largest bank in terms of assets, loans and deposits, and one of Thailand’s Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs), reported 1.93 trillion baht in loans, 1.90 trillion baht in deposits, and 2.72 trillion baht in total assets. Krungsri’s capital (Bank only) was strong at 318.77 billion baht, equivalent to 18.94% of risk-weighted assets, with 14.75% in common equity tier 1 capital.