กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2567 จำนวน 15.75 พันล้านบาท สนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจต่อเนื่อง ชูนโยบายบริหารความเสี่ยงรอบคอบระมัดระวัง

0
186

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 15.75 พันล้านบาท ลดลง 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองที่รอบคอบระมัดระวัง ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเติบโตจากการรับรู้รายได้เต็มจำนวนจากบริษัทลูกในภูมิภาคอาเซียนที่ได้ควบรวมมาในปี 2566 และกำไรจากการดำเนินงานในประเทศที่เพิ่มขึ้น

กรุงศรียังคงสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ในครึ่งแรกของปี 2567
การเติบโตโดยรวมของเงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอยู่ที่ 0.8% สะท้อนแรงสนับสนุนต่อความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของภาคธุรกิจ ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยปรับตัวลดลง 3.5% ตอกย้ำนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดรัดกุมภายใต้บริบทที่ภาระหนี้ของลูกหนี้ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อรวมลดลง 1.3%

สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับครึ่งแรกของปี 2567:
• กำไรสุทธิ จำนวน 15,752 ล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ลดลง 7.9% หรือจำนวน 1,350
ล้านบาท จากครึ่งแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่
คาดว่าจะเกิดขึ้น ตามการตั้งสำรองที่รอบคอบระมัดระวัง ทั้งนี้ กำไรจากการดำเนินงานเติบโตที่ 26.0% หรือจำนวน 9,128 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการรับรู้รายได้เต็มจำนวนจากบริษัทลูกในภูมิภาคอาเซียนที่ได้ควบรวมมาในปี 2566 และกำไรจากการดำเนินงานในประเทศที่เพิ่มขึ้น
• เงินให้สินเชื่อรวม ลดลง 1.3% หรือจำนวน 25,273 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยบางส่วนมาจากสินเชื่อเพื่อรายย่อยที่ปรับตัวลดลง 3.5% ตอกย้ำนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดรัดกุมภายใต้บริบทที่ภาระหนี้ของลูกหนี้ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เงินให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยังมีการเติบโตโดยรวมอยู่ที่ 0.8%
จากแรงสนับสนุนต่อความต้องการเงินทุนหมุนเวียนของภาคธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี
• เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 4.2% หรือจำนวน 76,787 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2566 โดยมีปัจจัยหลักมาจากเงินรับฝากประจำ
• ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 4.31% จาก 3.52% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนส่วนหนึ่งมาจากการควบรวมธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศในปี 2566 แม้ต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
• รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 26.6% หรือจำนวน 4,708 ล้านบาท จากช่วงครึ่งแรกของปี 2566
ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจากการควบรวมธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในต่างประเทศในปี 2566 การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกันภายในประเทศ การเพิ่มขึ้นของหนี้สูญรับคืน และกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 43.3% ปรับตัวดีขึ้นจาก 43.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
• อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 3.05% ขณะที่สัดส่วนการตั้งสำรอง
ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 243 เบสิสพอยท์ และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 128.8%
• อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 17.87% เทียบกับ 18.24%
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปี 2567 ยังคงมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากภาคการท่องเที่ยว การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กอปรกับการส่งออกที่เริ่มเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงส่งของเศรษฐกิจไทยยังถูกจำกัดจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายภาครัฐและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยภาพรวม รวมถึงข้อจำกัดจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง”

“ภายใต้บริบทความท้าทายดังกล่าว กรุงศรียังคงมีบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อต้นปีที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ธนาคารคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งปีที่ 2.4% ภายใต้สมมุติฐานว่ากิจกรรมเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งหลังของปี 2567”

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 กรุงศรี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าในระบบเศรษฐกิจไทยจากมูลค่าสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินรับฝาก และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.99 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.92 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.77 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 307.83 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 17.87% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของคิดเป็น 13.75%

Krungsri reports first-half 2024 earnings of 15.75 billion baht, proactively securing economic and business growth momentum, along with rigorous risk management

Bangkok (18 July 2024) – Krungsri (Bank of Ayudhya PCL and its business units) posts 15.75 billion baht in net profit for the first half of 2024, contracting by 7.9% over-year, mainly due to a rise in prudential provisions, while operating profit growth was supported by full recognition of revenue streams from ASEAN entities acquired in 2023 and higher domestic operating income.

In sustaining the economic and business growth momentum, while fully committed to the Bank of Thailand’s responsible lending guidelines, in 1H/24, Krungsri’s corporate and SME loans grew at 0.8%, thanks to the Bank’s support for businesses’ working capital requirements, while retail loans contracted by 3.5%, underlining strict lending standards amidst a high debt-servicing burden of borrowers. Consequently, total loans contracted by 1.3%.

Highlights of Krungsri’s consolidated first-half 2024 performance:
• Net profit: Recorded at 15,752 million baht for 1H/24, decreasing 7.9%, or 1,350 million baht from 1H/23, due mainly to a rise in expected credit loss (ECL) driven by prudential provisions. Operating profits grew at 26.0%, or 9,128 million baht year-over-year, supported by full recognition of revenue streams from the ASEAN entities acquired in 2023 and higher domestic operating profits.
• Loans: Decreased by 1.3% or 25,273 million baht from the end of December 2023, partly driven by a contraction of 3.5% in retail loans underlining strict lending standards amidst a high debt-servicing burden of borrowers. Nevertheless, an expansion of 0.8% in corporate and SME portfolios, thanks to the Bank’s support for businesses’ working capital requirements,
was observed for the period.
• Deposits: Increased by 4.2% or 76,787 million baht from the end of December 2023 mainly from time deposits.
• Net interest margin (NIM): Markedly increased to 4.31% from 3.52% in 1H/23, driven by
the improvement in yield on earning assets, in part driven by contributions from the overseas consumer finance businesses acquired in 2023, despite an increase in the cost of funds.

• Non-interest income: Increased by 26.6%, or 4,708 million baht from 1H/23, largely driven by net fees and service income from the overseas consumer businesses acquired in 2023,
an increase in bancassurance domestically, an increase in bad debt recoveries, and gains on financial instruments measured at fair value through profit or loss (FVTPL).
• Cost to income ratio: Recorded at 43.3%, improving from 43.6% in 1H/23.
• Non-performing loan (NPL) ratio: Stood at 3.05%. Meanwhile, credit cost was at 243 basis points. The coverage ratio was recorded at 128.8%.
• Capital adequacy ratio (Bank only): Recorded at 17.87%, compared with 18.24% at the end of December 2023.

Krungsri President and Chief Executive Officer Mr. Kenichi Yamato, said “In the first half of 2024, Thailand’s economic momentum continued to be driven by the tourism sector, a rebound in private investment in related sectors, as well as modest expansion in exports corresponding to trading partners’ economic improvements. Yet, the growth dynamic was restrained by a delay in 2024 budget disbursement, which weighed down public spending and consumer confidence at large, together with an enduring high level of household indebtedness.”

“Against such backdrops, Krungsri continued to proactively perform our role in sustaining the economic and business growth momentum, while fully committed to the Bank of Thailand’s responsible lending guidelines which came into effect early this year. We anticipate accelerating economic activities in 2H/24 and in alignment with our full year GDP growth forecast of 2.4% for the year.”

As of 30 June 2024, Krungsri, Thailand’s fifth largest bank in terms of assets, loans and deposits, and one of Thailand’s Domestic Systemically Important Banks (D-SIBs), reported 1.99 trillion baht in loans, 1.92 trillion baht in deposits, and 2.77 trillion baht in total assets. Krungsri’s capital (Bank only) was strong at 307.83 billion baht, equivalent to 17.87% of risk-weighted assets, with 13.75% in common equity tier 1 capital.