กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.75-34.50 มองกนง.คงดอกเบี้ย

0
7

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.11 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.66-34.13 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินเยนร่วงลงหลังมีกระแสข่าวว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)ยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ทางด้านดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 3.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพฤศจิกายน ทางด้านธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 3.00% ตามคาด โดยเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่สี่ในปีนี้ พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อไป โดยตัดทิ้งข้อความที่เคยระบุในแถลงการณ์ถึงความจำเป็นที่ต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและเพียงพอนานตราบเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 5,907 ล้านบาท และ 6,248 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 25bp สู่ 4.25-4.50% ในวันที่ 18 ธันวาคม โดยผู้ร่วมตลาดจะติดตามประมาณการดอกเบี้ย
(dot plot) ชุดใหม่จากเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินมุมมองของเฟดว่าอาจต้องลดดอกเบี้ยช้าลงเท่าใดในปี 2568 ท่ามกลางความกังวลที่ว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลยอดค้าปลีกและเงินเฟ้อ PCE เดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ และการประชุมบีโอเจซึ่งตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ตามเดิมในวันที่ 19 ธันวาคม โดยนักลงทุนจะรอสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะเวลาที่บีโอเจจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป อนึ่ง เรามองว่าท่าทีของเฟดที่บ่งชี้ถึงความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในปี 2568 เมื่อเทียบกับธนาคารกลางหลักแห่งอื่นๆจะหนุนค่าดอลลาร์ขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

สำหรับปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% ในการประชุมวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อรอประเมินผลของการลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อเดือนตุลาคม รวมถึงผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และเก็บกระสุนไว้สำหรับระยะข้างหน้า ทั้งนี้ เรามองว่ากนง.อาจปรับลดดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.00% ในเดือนกุมภาพันธ์