กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-33.10 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 32.82 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.73-33.16 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 8 สัปดาห์จากกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตร เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลักในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 63 หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯสูงสุดในรอบ 31 ปี ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เดือนต.ค. ทะยานขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานสูงขึ้น 4.6% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพุ่งขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)อาจต้องเร่งคุมเข้มนโยบาย ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 3,425 ล้านบาท และ 48,637 ล้านบาท ตามลำดับ
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะจับตาการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับจีนเพื่อประเมินทิศทางความสัมพันธ์ด้านการค้าและประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ และความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายราย รวมถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในยุโรปซึ่งอาจนำไปสู่การควบคุมกิจกรรมด้านต่างๆอีกครั้ง ขณะที่สหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป(อียู)ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับประเด็นไอร์แลนด์เหนือ ในภาวะเช่นนี้ เราคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในระยะนี้ อย่างไรก็ดี หากโมเมนตัมขาขึ้นของราคาทองคำยังไปต่อได้จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินบาท
สำหรับประเด็นในประเทศสัปดาห์นี้ สภาพัฒน์รายงานจีดีพีไตรมาส 3/64 หดตัว 0.3% เทียบปีต่อปี ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ และคาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 1.2% ขณะที่กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3/64 และเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคและการเร่งกระจายวัคซีนส่งผลให้ความเสี่ยงด้านต่ำลดลง กนง.มองว่าค่าเงินบาทผันผวนมากขึ้นจากการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ไม่แน่นอน โดยกนง.ยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ และคาดว่าการประชุมเดือนธ.ค.จะมีการปรับประมาณการเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามต้นทุนพลังงาน ท่าทีของทางการที่ประเมินว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงต้นของการฟื้นตัวทำให้เงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ สนับสนุนมุมมองของเราว่ากนง.จะตรึงดอกเบี้ยตลอดปี 65