กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ เครื่องสำอางมิสทิน และโครงการปันฝันปันยิ้ม “ให้โอกาสสร้างอาชีพผู้ก้าวพลาด”

0
2010

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานและสักขีพยาน ในงานแถลงข่าวและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการชีวิตสีชมพู” ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) และโครงการปันฝันปันยิ้ม ในการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน “Ning Nong Shopping Thailand” ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) และ ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีผู้ลงนาม ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายองอาจ วงศ์เดชาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเครื่องสำอางมิสทิน และนางสาวเพียงเพ็ญ วงศ์นิมิตรกุล รองผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ทั้งนี้ พ.ต.อ. ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ และ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเด็กและเยาวชนกรมพินิจฯ กว่า 100 คน ร่วมงานด้วย โดยในงานได้มีการสาธิตการใช้ และทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่าน Ning Nong พร้อมทั้งการจัดบูธนิทรรศการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์งานฝีมือต่างๆ ของกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  ซึ่งหน่วยงานในกลุ่มพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการลงนามฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของผู้ที่เคยก้าวพลาดให้เกิดการค้าขายออนไลน์ผ่าน Ning Nong โดยเครื่องสำอางมิสทิน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในการลงนามครั้งนี้ว่า “กระทรวงยุติธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางขายตรงรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “มิสทิน” ได้ให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิด ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม ให้ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพที่สุจริต มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำกระทรวงยุติธรรม กำลังริเริ่มนโยบายมาตรการลดภาษีแก่บริษัท ห้างร้าน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ที่เปิดโอกาสรับผู้ที่เคยกระทำผิดเข้าทำงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญ และการให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิด ให้มีรายได้จากการประกอบอาชีพที่สุจริต ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มการกระทำผิดซ้ำลดลง เนื่องจากผู้ที่เคยกระทำผิดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการยอมรับ เกิดการเห็นคุณค่าในตนเอง มีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับผู้อื่น ดังนั้น ความร่วมมือในวันนี้ จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งจะได้มีการสานต่อและขยายผลต่อไปในอนาคต ขอขอบคุณ คุณดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) ที่เห็นความสำคัญและให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิด ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพ ร่วมกับมิสทิน ในการจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่าน Ning Nong   ซึ่งในอนาคต ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทางมิสทิน ในการบูรณาการและให้ความร่วมมือต่อไป นอกจากนี้ ขอขอบคุณ ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงระหว่างกระทรวงยุติธรรม กับมิสทิน จนนำมาสู่การแถลงข่าวและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ในวันนี้ และผมเองก็หวังเช่นกันว่า โครงการปันฝันปันยิ้ม จะได้เป็นสื่อกลางนำสิ่งดีๆ มาสู่กระทรวงยุติธรรมและภาคีเครือข่ายอื่นๆ ต่อไปในอนาคต”

ขณะที่ นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เครื่องสำอางมิสทิน คือธุรกิจขายตรง ที่สร้างโอกาสให้คนไทยมีรายได้ และอาชีพที่มั่นคงมากว่า 30 ปี และกลุ่มผู้ก้าวพลาดจากกระทรวงยุติธรรม คือกลุ่มผู้ที่ต้องการโอกาสจากสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างชีวิตที่ดีและมั่นคงในอนาคตได้ ด้วยโลกออนไลน์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน เป็นแรงผลักดันให้มิสทินพัฒนาแอปพลิเคชัน Ning Nong Shopping Thailand ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการสร้างโอกาสทางอาชีพที่มั่นคง และการเตรียมความพร้อม  ในการเข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล   เนื่องจาก Ning Nong ไม่ต้องมีต้นทุน ไม่ต้องมีหน้าร้าน และไม่ว่าใครก็สามารถมีรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพา หรือรบกวนบุคคลอื่น ด้วยการสร้างหน้าร้านออนไลน์ด้วยตัวเองได้ทันที

มิสทิน เชื่อในเรื่องของการมอบโอกาสให้กับทุกคน จึงเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ โดยมิสทิน จะสอนวิธีการขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Ning Nong และจะใช้เป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า โดยเริ่มต้นนำร่องกับน้องๆ เยาวชนกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อปูทางอาชีพให้กับพวกเขาตั้งแต่ยังอยู่ภายในสถานควบคุม และเมื่อน้องๆ เยาวชนได้รับการปล่อยตัวแล้ว จะสามารถใช้ Ning Nong เป็นหน้าร้านออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนใด ๆ ทำให้น้อง ๆ เยาวชนมีโอกาสทางรายได้อย่างไม่จำกัดจากการขายสินค้าผ่าน Ning Nong
โดยในวันนี้ จะเป็นวันแรกที่โอกาสเพื่ออนาคตของกลุ่มเยาวชนจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จะเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้รับเกียรติจาก ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มาเป็นผู้สั่งซื้อสินค้าผลงานของน้องๆ เยาวชนผ่าน Ning Nong เป็นท่านแรก และขอถือเป็นวาระที่ดีในการเปิดตัว Ning Nong อย่างเป็นทางการด้วย

ขอขอบคุณโครงการปันฝันปันยิ้ม ที่เป็นผู้ชักนำและประสานงานให้เกิดการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ และขอขอบคุณกระทรวงยุติธรรม ในโอกาสที่ให้เครื่องสำอางมิสทิน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการให้โอกาสแก่ผู้ที่ก้าวพลาดให้ได้มีอาชีพ มีรายได้และสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ “เพราะมิสทินเชื่อในคำว่าโอกาส และการมอบโอกาส คือแนวทางในการดำเนินธุรกิจของเราเสมอมา”

ด้าน ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม กล่าวถึงที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “โครงการปันฝันปันยิ้ม เกิดจากตัวผมและผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้โอกาสแก่เด็กด้อยโอกาส ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้เคยกระทำผิด โดยทางโครงการริเริ่มจากการให้การช่วยเหลือในด้านการรักษาสำหรับครอบครัวที่ขาดทุนทรัพย์หรือบุคคลที่ขาดโอกาสในการรักษา อีกทั้งการสร้างโอกาสในด้านอื่นๆ อาทิ การให้อาชีพ การสร้างโรงเรียน การสานฝัน การให้ที่อยู่อาศัย หรืออื่นใดเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคคลเหล่านั้น ยังคงมีความสำคัญและอยู่อย่างทัดเทียมเฉกเช่นคนปกติ ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ ความร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้เกิดแก่สังคมในปัจจุบัน ซึ่งโครงการปันฝันปันยิ้มมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทีวี ภายใต้ชื่อ “รายการปันฝันปันยิ้ม” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ทุกวันจันทร์หลังข่าวและผ่านทางสื่อพันธมิตรต่างๆ

อีกทั้งโครงการปันฝันปันยิ้มและตัวผมเอง ได้เล็งเห็นถึงการให้โอกาสด้านอาชีพเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะ เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของประเทศ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง ดังนั้นเด็กและเยาวชนจึงควรที่จะเตรียมตัวที่จะเป็นกำลังของชาติด้วย หากเด็กและเยาวชนมีการกระทำความผิดก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ต่อสังคม ต่อประเทศชาติ การมองปัญหาการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนจะต้องมองถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่ก่อให้เกิดการกระทำความผิดนั้นขึ้น ซึ่งเราจะต้องมองการเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบันควบคู่กันไปด้วย และการจะคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน ผู้พ้นโทษสมควรจะได้รับโอกาสให้สามารถประกอบอาชีพมีรายได้พึ่งพิงตัวเองได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ปัจจุบันการค้าขายสินค้าออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งในการขายของบนอินเทอร์เน็ต เป็นที่นิยมในไทยเมื่อไม่กี่ปี ที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้น เพราะตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่เปิดกว้าง ใครก็สามารถขายของออนไลน์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยม จากกลุ่มคนที่ต้องการหารายได้และสร้างอาชีพ ที่สำคัญคือ ต้นทุนต่ำ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว  ดังนั้นทางโครงการ ปันฝันปันยิ้ม   ร่วมกับ มิสทิน ได้จัดกิจกรรมโครงการ “ชีวิตสีชมพู” ขึ้น เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของเด็กและเยาวชน อีกทั้งพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ความรู้ความสามารถจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และได้รับประสบการณ์นอกเหนือจากการศึกษาในหน่วยเรียน   ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ   และมาตรฐานด้านการฝึกวิชาชีพสำหรับเด็ก   และเยาวชนให้มีประสิทธิภาพต่อไป ” ดร.ณัฐพงศ์ฯ กล่าว

ด้วยสภาพสังคมปัจจุบัน การกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้ต้องรับโทษตามกฎหมายมีจำนวนมาก กระทรวงยุติธรรมเป็นปลายทางที่จะทำหน้าที่ในการควบคุม ดูแลและแก้ไขผู้กระทำผิด โดยหน่วยงานกลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย อันได้แก่ กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมคุมประพฤติ   ซึ่งผู้กระทำผิดเหล่านี้ควรได้รับโอกาสในการกลับตัวกลับใจ ประพฤติตนใหม่ โดยควรได้รับโอกาสในด้านการฝึกอบรมอาชีพ ตลอดจนหน้าที่การงาน เพื่อให้มีโอกาสในการประกอบอาชีพการงานที่สุจริต และมีรายได้มั่นคง ไม่หลงไปกระทำความผิดและสามารถพัฒนาเป็นกำลังสำคัญ เป็นอนาคตในภาคภายหน้าได้อีกทั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่มุ่งหวังให้ผู้กระทำผิดได้รับโอกาส มากกว่ามุ่งบังคับโทษ

ปัจจุบันอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะการค้าขายสินค้าออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งในการขายของบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นที่นิยมในไทยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้น เพราะตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่เปิดกว้าง บุคคลทั่วๆ ไปสามารถขายของออนไลน์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ต้องการหารายได้และสร้างอาชีพ ที่สำคัญคือต้นทุนต่ำ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว

ดังนั้น โครงการ ปันฝันปันยิ้ม ร่วมกับ มิสทิน ได้จัดกิจกรรมโครงการ “ชีวิตสีชมพู” ขึ้น เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือผู้กระทำผิด ภายใต้การดูแลของกระทรวงยุติธรรม ให้เกิดการค้าขายบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์งานฝีมือผู้กระทำผิด  มาจากกระบวนการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู ซึ่งต้องการให้ผู้กระทำผิดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรวมถึงนิสัยเดิมให้ดีขึ้น และเมื่อกลับออกไปสู่สังคมแล้ว สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข ไม่ก่อเหตุอันตรายต่อตนเองและบุคคลรอบข้างซ้ำอีก จึงเป็นที่มาของงานศิลป์ที่หลากหลายและสวยงาม ทุกชิ้นงานเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจและกระบวนการ การเรียนรู้ของผู้กระทำผิดที่อยากได้โอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ การเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิด ซึ่งได้รับการแก้ไขฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว ได้รับโอกาสกลับมาอยู่กับครอบครัวและเริ่มต้นชีวิตใหม่ อีกทั้งส่งเสริมการพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านการค้าขายสินค้าออนไลน์ จึงเป็นโอกาสให้ผู้กระทำผิดได้ใช้ความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์ และได้รับประสบการณ์นอกเหนือจากการศึกษาในหน่วยเรียน ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานด้านการฝึกวิชาชีพสำหรับผู้กระทำผิดให้มีประสิทธิภาพต่อไป