กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน จัดงานแถลงข่าวและประกาศความร่วมมือภายใต้โครงการ “Sensor for All ปีที่ 3” โดยมี ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล ประธานกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล หัวหน้าโครงการและรองคณบดีด้านยุทธศาสตร์นวัตกรรมและความยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 ณ อาคารวิศวฯ 100 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการของคนในทุกช่วงวัย โดยการเคหะแห่งชาติในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. มีภารกิจด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ ทั้งด้านกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหามลภาวะฝุ่น PM2.5 ที่ประเทศไทยจะต้องประสบกับปัญหานี้ในช่วงประมาณเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี การเคหะแห่งชาติมีความห่วงใยผู้อยู่อาศัยในชุมชน จึงเข้าร่วมโครงการตรวจวัด “Sensor for All ปีที่ 2” ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 และเข้าร่วมโครงการ Sensor for All ปีที่ 3 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถวัดค่าได้ทั้งฝุ่น PM 2.5, PM 10, อุณหภูมิ และความชื้น พร้อมทั้งคำนวณค่า AQI และสามารถแสดงผลผ่านทั้งหน้าจอเซนเซอร์และผ่านทางเว็บไซต์ www.sensorforall.eng.chula.ac.th เพื่อบอกระดับผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในชุมชน
ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติได้ติดตั้งเครื่องเซนเซอร์ตรวจวัดฝุ่นและคุณภาพอากาศไปแล้วจำนวน 12 เครื่อง โดยติดตั้งบริเวณสำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จำนวน 2 เครื่อง และติดตั้งบริเวณสำนักงานเคหะชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 10 พื้นที่ ได้แก่ ร่มเกล้า,
หนองจอก, รามคำแหง, นวมินทร์, ออเงิน, บ่อนไก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, นครปฐม และสมุทรปราการ